ศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบ 8 ทีมสุดท้าย เมื่อคืนวันที่ 7 ก.ค. ที่สนาม ฟิชต์ สเตเดียม “หมีขาว” รัสเซีย เจ้าภาพ ลงสนาม “ตราหมากรุก” โครเอเชีย โดยทั้งสองทีมไม่เคยพบกันมาก่อนในฟุตบอลโลก

สำหรับ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีมเกมนี้ สตานิสลาฟ เชอร์เชซอฟ กุนซือเจ้าภาพจัดทัพมาในระบบ 4-2-3-1 ประกอบด้วยผู้รักษาประตู อิกอร์ อคินเฟเยฟ ปราการหลังมี มาริโอ แฟร์นานเดส, อิเลีย คูเตปอฟ, เซอร์เก อิกนาเชวิช, เฟดอร์ คูเดรียชอฟ กลางรับ 2 คนใช้ โรมัน ซอบนิน กับ ดาเลอร์ คุซยาเยฟ ขณะที่มิดฟิลด์ให้ อเล็กซานเดอร์ ซาเมดอฟ, อเล็กซานเดอร์ โกโลวิน, เดนิส เชริเชฟ คอยปั้นเกม ส่วนหน้าเป้าเป็น อาร์เตม ซูบา

ส่วนโครเอเชีย ซลัตโก ดาลิช เฮดโค้ช จัดทัพในระบบ 4-2-3-1 เช่นกัน โดยผู้รักษาประตูยังคงเป็น ดานิเยล ซูบาซิช แผงหลัง 4 คนมี ซิเม เวอร์ซัลจ์โก, อิวาน สตรินิช, โดมากอย วิดา, เดยัน ลอฟเรน กองกลางใช้ ลูกา โมดริช, อิวาน ราคิติช, อันเต เรบิช, อิวาน เปริซิช แล้วให้ อังเดร ครามาริช ทำเกมหลัง มาริโอ มานด์ชูคิช ศูนย์หน้าตัวเป้า

เริ่มเกมทั้งสองทีมยังหาจังหวะเจาะเข้าทำกันลำบาก โดยเป็นฝั่งโครเอเชีย ที่ครองบอลได้มากกว่า แต่แล้วนาที 31 แฟนเจ้าถิ่นได้เฮลั่นสนาม เมื่อ เดนิส เชริเชฟ ทำชิ่งกับ อาร์เตม ซูบา ก่อนจะสับไกด้วยซ้ายบอลโค้งเสียบเสาแรกอย่างสวยงามให้รัสเซีย ขึ้นนำก่อน 1-0

อังเดร ครามาริช ศูนย์หน้าโครเอเชีย โหม่งประตูตีเสมอรัสเซีย 1-1 (REUTERS)

หลังจากนั้นไม่นาน นาที 40 รัสเซียเสียบอลกลางสนาม ทำให้โครเอเชียได้โอกาสสวนกลับเร็ว โดยเป็นมานด์ซูคิช ที่พาบอลไปในกรอบเขตโทษด้านซ้ายก่อนเปิดเข้ากลางให้ อังเดร ครามาริช โหม่งจ่อๆเป็นประตูให้โครเอเชีย ตามตีเสมอในครึ่งแรก 1-1

อิกอร์ อคินเฟเยฟ นายทวารรัสเซีย ปัดลูกโหม่งของ มาริโอ มานด์ชูคิช ศูนย์หน้าโครเอเชีย (AFP)

ครึ่งหลังโครเอเชีย แก้เกมลงมาได้ดี เดินเครื่องบุกแหลก นาที 60 จากจังหวะชุลมุนหน้าประตู อิวาน เปริซิช ได้ยิงเหน่งๆบริเวณจุดโทษ แต่บอลชนเสาอย่างไม่น่าเชื่อ

โรมัน ซอบนิน กองกลางรัสเซีย พลิ้วหนี อิวาน ราคิติช กองกลางโครเอเชีย (REUTERS)

ช่วงเวลาที่เหลือโครเอเชีย ยังดาหน้าบุกใส่รัสเซียที่ได้แต่ตั้งรับและรอสวนกลับ แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่สามารถเจาะแนวรับอันแข็งแกร่งของเจ้าภาพได้ จบ 90 นาที รัสเซีย เสมอ โครเอเชีย 1-1 ต้องต่อเวลาพิเศษออกไป

โดมากอย วิดา กองหลังโครเอเชีย โหม่งลูกเตะมุมให้ทีมขึ้นนำรัสเซีย 2-1 (REUTERS)

เข้าสู่ช่วงต่อเวลาพิเศษ อาการล้าเริ่มเล่นงานนักเตะโครเอเชียไปหลายครั้ง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังทำเกมรุกกดดันรัสเซียได้อย่างน่ากลัว จนกระทั่งนาที 101 โมดริช เปิดลูกเตะมุมจากฝั่งขวา มากลางประตูให้ โดมากอย วิดา กองหลังที่ชิงเหลี่ยมขึ้นโหม่งเป็นประตูให้โครเอเชีย แซงนำ 2-1

มาริโอ แฟร์นานเดส (2) กองหลังรัสเซีย โหม่งตีเสมอโครเอเชีย 2-2 (REUTERS)

หลังจากโดนนำ รัสเซียพยายามโหมบุกหนัก ก่อนที่นาที 115 จะมาได้ฟรีคิกริมเส้นเขตโทษด้านขวา อลัน ซาโกเยฟ บรรจงเปิดให้ มาริโอ แฟร์นานเดส โถมขึ้นโหม่งเป็นประตูกู้ชีพให้เจ้าภาพตามตีเสมอ 2-2 ต้องตัดสินกันที่การดวลจุดโทษ

ผลปรากฏว่า โครเอเชีย ยิงได้แม่นกว่าเอาชนะ รัสเซีย 3-2 สกอร์รวม 5-4 ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศไปพบ อังกฤษ วันที่ 11 ก.ค. เวลา 01.00 น. ช่องอัมรินทร์ 34, ททบ.5 และทรูโฟร์ยู ถ่ายทอดสดพร้อมกัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน