การตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอช่วยให้อุ่นใจและคลายกังวลจากปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และยังทำให้รู้ได้ว่า “คุณมีปัจจัยเสี่ยงด้านสุขภาพอะไรบ้าง” เพื่อป้องกันก่อนที่จะเกิดโรค หรือแม้แต่การตรวจพบโรคในระยะต้นซึ่งส่งผลดีต่อโอกาสในการรักษา รวมทั้งลดความรุนแรงและภาวะแทรกซ้อนของโรคนั้นๆ ได้ เท่ากับเป็นการลดค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพในระยะยาว

โดยทั่วไปโปรแกรมตรวจสุขภาพเบื้องต้นจะแบ่งตามเพศและอายุ ซึ่งปัจจัยของการตรวจสุขภาพมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับอายุ สุขภาพโดยรวม ประวัติครอบครัว และไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน คำแนะนำเบื้องต้นจากคุณหมอคือให้ตรวจเป็นประจำทุกปี อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง สำหรับผู้ที่มีปัจจัยเสี่ยงต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษอาจต้องมีตรวจเพิ่มเติมและตรวจบ่อยขึ้น

ตรวจเบื้องต้นให้คนทุกวัย

ข้อมูลจากโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ระบุว่า โดยปกติแล้วโปรแกรมตรวจสุขภาพสำหรับผู้ที่อายุไม่เกิน 30 ปี จะเป็นการตรวจขั้นพื้นฐาน คือการพบแพทย์เพื่อซักถามข้อมูลประวัติสุขภาพ เมื่อแพทย์วิเคราะห์ข้อมูลปัจจัยต่างๆ จากประวัติสุขภาพแล้ว ก็จะทำการตรวจร่างกาย รวมทั้งเลือกส่งตรวจเฉพาะด้าน เพื่อผลการตรวจที่แม่นยำ ขั้นตอนต่อมาคือการตรวจวัดพื้นฐานหาค่าดัชนีมวลกาย BMI หรือBody Mass Index วัดความดันโลหิต ตรวจเอ็กซเรย์ปอดและหัวใจ เจาะเลือดเพื่อตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (CBC) ได้แก่ เม็ดเลือดแดง เม็ดเลือดขาว เกล็ดเลือด ประเมินความเข้มข้นของเลือด ซึ่งผลอาจบอกถึงภาวะผิดปกติ เช่น โลหิตจาง ภาวะภูมิคุ้มกันของร่างกาย รวมถึงโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว เรียกว่าการเจาะเลือดเพียง ครั้งเดียว สามารถบ่งบอกความเสี่ยงได้หลายโรคเลยทีเดียว

นอกจากนี้ยังต้องตรวจปัสสาวะ เพื่อช่วยหาความผิดปกติของระบบไตและทางเดินปัสสาวะ ตรวจการทำงานของตับ เป็นการตรวจดูความผิดปกติของตับและทางเดินน้ำดี โดยตรวจเอ็นไซม์และสารต่างๆ ในเลือดเพื่อหาภาวะตับอักเสบ เอ บี และซี (Hepatitis A, B, C) ตับเสื่อมสภาพ และภาวะดีซ่าน รวมทั้งตรวจวัดความสามารถในการมองเห็นและความดันลูกตา เป็นการตรวจสุขภาพตาทั่วไป และค้นหาความเสี่ยงต่อภาวะต้อหิน ซึ่งเป็นการตรวจที่นำไปสู่การรักษาและป้องกันได้เร็ว

เช็คโรคที่มาตามอายุ

  • อายุ 30-40 ปี ทั้งในชายและหญิง ควรตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ตรวจอุจจาระ อัลตร้าซาวด์ช่องท้องเพื่อตรวจหาความผิดปกติของอวัยวะ เช่น ตับ ไต ตับอ่อน ม้าม เส้นเลือดใหญ่ภายในช่องท้อง และต่อมลูกหมากในผู้ชาย สำหรับผู้หญิง ตรวจมะเร็งปากมดลูกและมะเร็งรังไข่ รวมทั้งตรวจมะเร็งเต้านม
  • ตั้งแต่ 40 ปีขึ้นไป ทั้งเพศชายและหญิง ควรตรวจการทำงานของต่อมไธรอยด์ (TSH) อัลตร้าซาวด์ช่องท้องทั้งหมด ตรวจสุขภาพสายตาความดันลูกตา การได้ยิน ตรวจวัดการแข็งตัวของหลอดเลือด และตรวจหาสารบ่งชี้มะเร็ง เช่น ตรวจสารบ่งชี้มะเร็งตับ (AFP) สารบ่งชี้มะเร็งทางเดินอาหาร ผู้หญิงต้องตรวจมะเร็งปากมดลูกและ HPV ขณะที่ผู้ชายตรวจสารบ่งชี้มะเร็งต่อมลูกหมาก
  • วัย 50 ปีและผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ชายและหญิง ควรตรวจมวลกระดูกหาอัตราความเสื่อมของกระดูก และตรวจภาวะหลอดเลือดแดงส่วนปลาย ยังต้องทดสอบการทำงานของหัวใจขณะออกกำลังกาย เพื่อตรวจหาภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดหรือไม่

อลังการเมืองสุขภาพ ตรวจฟรี 7 กลุ่มโรค

ในงานมหกรรมสุขภาพตรวจสุขภาพฟรีครั้งยิ่งใหญ่ ใน Healthcare ครั้งที่ 11 ภายใต้แนวคิด “เรียนรู้ สู้โรค 2019” โดยกลุ่มบริษัทมติชนร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน ขนทัพหน่วยงานและองค์กรด้านสุขภาพชั้นนำมาร่วมขับเคลื่อน ผลักดันให้คนไทยรอบรู้ด้านสุขภาพ กลับมายิ่งใหญ่กว่าเดิม พร้อมตรวจสุขภาพฟรี! โดยแพทย์และบุคลากรทางการแพทย์จากโรงพยาบาลภาครัฐและเอกชนระดับประเทศ 30 แห่ง ตลอดทั้ง 4 วัน แบ่งเป็น 7 กลุ่มโรค ดังนี้

    1. กลุ่มโรงพยาบาลที่บริการตรวจตา ได้แก่ รพ.บ้านแพ้ว (องค์การมหาชน) ตรวจสุขภาพตาฟรี ด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ พร้อม ผ่าตัดลอกต้อเนื้อร่วมกับการแปะเนื้อเยื่อบุตาซึ่งเป็นการผ่าตัดแบบพิเศษ ให้กับผู้ที่ร่วมคัดกรองในงาน 66 คน เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล, รพ.สินแพทย์ ตรวจคัดกรองโรคต้อหิน และตรวจวัดความดันตา มาให้บริการวันละ 100 คน และรพ.เมตตาประชารักษ์(วัดไร่ขิง) ตรวจวัดสายตา ถ่ายรูปจอประสาทตา เป็นต้น
    2. กลุ่มโรงพยาบาลบริการตรวจหัวใจ ได้แก่ รพ.เกษมราษฎร์ ประชาชื่น ,รพ.เวชธานี, รพ.ยันฮี, รพ.วิภาราม ปากเกร็ด, รพ.สุขุมวิท และรพ.แพทย์รังสิต ที่นำเครื่องตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG) เพื่อตรวจการทำงานของหัวใจ
    3. กลุ่มโรงพยาบาลบริการตรวจโรคมะเร็ง ได้แก่ ตรวจเต้านมด้วยแมมโมแกรม โดยมูลนิธิถันยรักษ์ในพระราชูปถัมภ์ รพ.ศิริราช, ตรวจประเมินความเสี่ยงในการรักษาโรคมะเร็ง โดยรพ.จุฬาภรณ์ และรพ.ราชวิถี ตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ใหญ่
    4. กลุ่มโรงพยาบาลตรวจเกี่ยวกับเลือด เช่น ตรวจหาภาวะหลอดเลือดส่วนปลายตีบ ด้วยอุปกรณ์ Ankle-Brachial Index (AB) จาก รพ.รามคำแหง, รพ.เวิลด์เมดิคอล ตรวจวิเคราะห์องค์ประกอบของเม็ดเลือดและดูความผิดปกติของเซลล์เม็ดเลือด, รพ.เพชรเวช ตรวจระดับน้ำตาลในเลือดและวัดความดันเลือด และรพ.กรุงเทพคริสเตียน ตรวจหาเชื้อไวรัสตับอักเสบ ชนิดบี และตรวจหาน้ำตาลในเลือดสะสมย้อนหลัง 3 เดือน ด้วยเครื่องอ่านผลเลือด
    5. กลุ่มโรงพยาบาลตรวจโรคทั่วไป ได้แก่ รพ.นวมินทร์ 9 ,รพ.หัวเฉียว ,รพ.บางโพ,รพ.พระรามเก้า, รพ.อาร์เอสยูอินเตอร์เนชั่นแนล, รพ.ลาดพร้าว,สถานพยาบาลมายเนิร์ช(MyNurz) ที่มาร่วมให้บริการตรวจวัดความดัน ระดับไขมัน ตรวจมวลกล้ามเนื้อ ตรวจการเผาผลาญของร่างกาย รวมทั้งตรวจภาวะสมองเสื่อม เป็นต้น
    6. โรงพยาบาลบริการแพทย์ทางเลือก เช่น ตรวจรักษาแบบศาสตร์การแพทย์แผนจีน โดยคณะการแพทย์แผนจีน มหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ ,บริการฝังเข็ม (รักษาโรค) โดยศูนย์การแพทย์กาญจนาภิเษก คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล
    7. ตรวจสุขภาพฟัน (อุดฟัน ,ถอนฟัน, ขูดหินปูน และผ่าฟันคุด) เพื่อสนับสนุนให้ทุกคนมีสุขภาพดีอย่างครบวงจรโดยคณะทันตแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นำทันตแพทย์จิตอาสา เปิดคลินิกทันตกรรม ให้บริการตรวจฟัน ฟรี! ตลอดทั้ง 4 วัน

กลับมายิ่งใหญ่กว่าเดิมในสถานที่ใหม่ บนเนื้อที่กว่า 5,000 ตร.ม. “Healthcare เรียนรู้ สู้โรค 2019” ซึ่งจัดต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 11 พร้อมแล้วที่จะตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์คนรักสุขภาพ ภายในฮอลล์ 5 อิมแพค เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 27-30 มิ.ย. 2562

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน