กลุ่ม ปตท. นำโดย บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ “ปตท.สผ.” , บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ “โออาร์” และ บริษัท สานพลัง วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด ถือฤกษ์งามยามดีในวันที่ 17 สิงหาคม 63 จัดพิธีเปิดร้านคาเฟ่ อเมซอน เพื่อการสร้างโอกาส หรือ “Cafe Amazon for Chance” สาขาที่ 8 สาขาหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน หาดเตยงาม อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี อย่างเป็นทางการ โดยได้รับเกียรติจาก “พลเรือเอก ลือชัย รุดดิษฐ์” ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานตัดริบบิ้นเปิดร้านฯ

ตอกย้ำการดำเนินนโยบายสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการ (ESG) อย่างเป็นรูปธรรมและต่อเนื่อง สำหรับโครงการ Cafe Amazon for Chance ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัท สานพลัง วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด ซึ่งจัดตั้งขึ้นโดย ปตท. และ 6 บริษัท Flagship เพื่อสนับสนุนการดำเนินกิจการด้านวิสาหกิจเพื่อสังคม (Social Enterprise) ของ กลุ่ม ปตท. ซึ่งที่ผ่านมาได้ดำเนินการโดยให้ค่าจ้างในอัตราสูงกว่าค่าจ้างขั้นต่ำ เพื่อส่งเสริมการมีงานทำและสร้างความมั่นใจให้กับกลุ่มผู้ด้อยโอกาสในสังคม เช่น ผู้พิการทางการได้ยิน ผู้บกพร่องทางการเรียนรู้ ทหารผ่านศึก ให้ได้ใช้สิทธิมนุษยชนอย่างเต็มที่และเท่าเทียมกัน

กลายเป็นสาขาต้นแบบของ Cafe Amazon for Chance ที่ให้บริการโดย บาริสต้าทหารผ่านศึก ที่พิการทุพพลภาพจากการสู้รบเพื่อปกป้องประเทศชาติ ซึ่งเปิดในรูปแบบสวัสดิการภายในของหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ที่นอกจากจะส่งเสริม พัฒนาอาชีพ และจ้างงานกลุ่มทหารผ่านศึกที่ได้รับการบาดเจ็บจากการรบ ตลอดจนครอบครัว ให้มีอาชีพและรายได้ที่มั่นคง ยังจะร่วมนำผลกำไรส่วนหนึ่งมอบให้แก่สวัสดิการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ทางสังคม พร้อมสนับสนุนกิจกรรมการอนุบาลและรักษาเต่าทะเลบาดเจ็บที่ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล อีกด้วย

คุณกฤษณ์ อิ่มแสง ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการกลุ่มธุรกิจปิโตรเลียมขั้นปลาย ปตท. กล่าวว่า บริษัท สานพลัง วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด พัฒนาโครงการ Cafe Amazon for Chance ด้วยการนำรูปแบบทางธุรกิจที่ประสบความสำเร็จของร้านกาแฟคาเฟ่ อเมซอน ของโออาร์ ที่มีจำนวนมากกว่า 3,000 สาขา ทั้งในและต่างประเทศ มาออกแบบเป็นธุรกิจเพื่อสังคมให้ผู้ด้อยโอกาสกลุ่มต่างๆ โดยผลกำไรจากการดำเนินงานจะนำไปใช้เพื่อขยายผล-สร้างสาขาเพื่อผู้ด้อยโอกาสอย่างต่อเนื่อง

“ปัญหาหนึ่งของประเทศ ก็คือปัญหาความเหลื่อมล้ำ ในด้านเศรษฐกิจจะพบว่าสังคมยังมีผู้ด้อยโอกาสอยู่จำนวนมาก กลุ่ม ปตท. จึงร่วมกันลงขันตั้งบริษัทสานพลังวิสาหกิจเพื่อสังคม และใช้ความเข้มแข็งทางด้านธุรกิจที่มีอยู่มาส่งเสริมให้เกิดการกระจายรายได้ไปยังผู้ด้อยโอกาสต่างๆ และหนึ่งในนั้นคือธุรกิจคาเฟ่อเมซอน ซึ่งเชื่อว่าอย่างน้อยๆ จะช่วยลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม ให้คนกลุ่มนี้สามารถหารายได้ด้วยตัวเอง และไม่เป็นภาระของสังคมในอนาคต”

ด้าน คุณดวงพร เที่ยงวัฒนธรรม รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กำกับดูแลองค์กรและกิจการสัมพันธ์ ปตท. กล่าวว่า ปัจจุบันเปิดให้บริการแล้วรวมทั้งสิ้น 9 สาขา สามารถที่จะสร้างอาชีพให้กับผู้ด้อยโอกาสในสังคมกลุ่มต่างๆ ได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นผู้พิการทางการได้ยิน ผู้พิการทางการเรียนรู้ ผู้สูงวัย ทหารผ่านศึกที่พิการและครอบครัว

ขณะที่ด้าน คุณพงศธร ทวีสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท.สผ. เผยว่า ในฐานะที่ ปตท.สผ. เป็นบริษัท Flagship ของกลุ่ม ปตท. ซึ่งมีภารกิจหลักในการสำรวจ พัฒนา และผลิตปิโตรเลียม เพื่อสร้างความมั่นคงทางพลังงานให้แก่ประเทศ และมีฐานปฏิบัติการหลักๆ อยู่ในท้องทะเลอ่าวไทย ตระหนักดีถึงความสำคัญของการสร้างความสมบูรณ์ให้แก่ท้องทะเล ซึ่งที่ผ่านมา ปตท.สผ. ได้ให้การสนับสนุนการปรับปรุงอาคาร และอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ในการตรวจรักษาและผ่าตัดเต่าทะเลให้กับโรงพยาบาลเต่าทะเล ที่ศูนย์อนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล บริเวณฐานทัพเรือแห่งนี้ ทั้งนี้ การทำร้านกาแฟคาเฟ่ อเมซอน สาขานี้ จะช่วยให้เกิดประโยชน์ 2 ทาง คือ 1.ช่วยพัฒนาและสร้างอาชีพใหม่ให้แก่ทหารผ่านศึกที่สูญเสียอวัยวะและครอบครัว และ 2.กำไรที่ได้จะนำไปอนุรักษ์พันธุ์เต่าทะเล ซึ่งจะช่วยให้ท้องทะเลไทยมีความสมบูรณ์มากขึ้น

ขณะเดียวกัน คุณสุชาติ ระมาศ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ธุรกิจค้าปลีก โออาร์ ได้ย้ำว่า สาขานี้จะเป็นต้นแบบของการมอบโอกาสให้ผู้ที่มีโอกาสน้อยในการดำรงชีพ ได้มีอาชีพเลี้ยงครอบครัว ซึ่งวันนี้มีทั้งหมด 9 สาขา ที่สร้างอาชีพให้แก่ผู้ด้อยโอกาส ตั้งแต่กลุ่มผู้พิการทางหู ผู้สูงอายุ ทหารผ่านศึก และขณะนี้ โออาร์ กำลังดูเรื่องของกลุ่มเด็กพิเศษ กลุ่มเด็กหญิงจากบ้านเด็กหญิงธัญญาพร และจะขยายอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นช่องทางในการให้โอกาสกับผู้ที่มีโอกาสน้อย ให้มาร่วมกับกิจกรรมคาเฟ่ อเมซอน มีความสุขในการที่จะใช้ชีวิตในภาคสังคมต่อไป ซึ่งคาดว่าปีนี้จะจบที่ 12 สาขา และปีหน้าอีก 2-3 สาขา

“กลุ่มคนเหล่านี้ โอกาสทางสังคมน้อยมาก จากที่ได้คลุกคลีพบว่า เมื่อเขาได้รับโอกาสเขามีความสุขมาก เพราะที่ผ่านมาเขาพึ่งพาครอบครัว อาศัยคนรอบข้าง แต่วันนี้เขาสามารถยืนหยัดด้วยตัวเอง มีรายได้เลี้ยงครอบครัว ทำให้เขาอยู่ในสังคมได้อย่างมั่นคง และมีความภาคภูมิใจ”

เป็นเป็นไปตามทิศทางการดำเนินธุรกิจควบคู่ไปกับการสร้างประโยชน์แก่สังคมอย่างยั่งยืนร่วมกัน โดย “โต้ง-ศักดิ์มงคล น้อยทรง” หนึ่งในบาริสต้าของร้าน Cafe Amazon for Chance สาขาหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน เผยถึงความรู้สึกว่า หากไม่มีผู้ใหญ่ใจดีที่ให้ความสำคัญกับทหารผ่านศึก คงไม่มีโอกาสได้ทำงานอีก เพราะหลังจากเกิดเหตุได้รับความพิการทางร่างกาย โอกาสที่จะได้มาทำงานตรงนี้จะยากมาก ตั้งแต่ปี 2555 ก็ไม่ได้ทำงาน รับเงินบำนาญ สภาพจิตใจตอนนั้นแย่ การดำเนินชีวิตยากลำบากกว่าเดิม ตอนแรกก็กังวลเพราะว่าเราไม่เคยทำงานบริการด้านนี้มาก่อน พอมาทำก็รู้สึกว่าเรายังมีศักยภาพที่จะทำให้ตัวเองมีคุณค่าเพิ่มขึ้น ทำให้เราลืมเรื่องราวในอดีต จากที่เราหมดกำลังใจในการดำเนินชีวิตในแต่ละวัน ทำให้รู้สึกว่าเรามีคุณค่าเพิ่มมากขึ้น เราสามารถที่จะทำเครื่องดื่มให้ลูกค้าที่มาใช้บริการได้ดื่ม ก็เพิ่มความมั่นใจในการที่จะดำเนินชีวิตให้กับเรา

เช่นเดียวกับ “เจ้อ-เพลินพิส ศรีมุกดา” อีกหนึ่งบาริสต้าของร้าน Cafe Amazon for Chance สาขาหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ที่ต้องปฏิบัติงานแทนสามีที่พิการขาด บอกว่า เป็นโครงการที่ให้โอกาสทั้งครอบครัวและเจ้าตัวอย่างมาก ก่อนหน้านี้ไม่เคยได้ทำงานมาก่อน ดีใจที่ได้มีโอกาสทำงาน และเริ่มทำงานครั้งแรกในวัย 48 ปี ก็ได้เป็นบาริสต้าเลย ซึ่งเป็นอาชีพที่ไม่คิดว่าจะได้ทำ ปัจจุบันก็ถือว่าเป็นอาชีพเสริมให้กับตนเอง เป็นการเพิ่มรายได้อีกหนึ่งช่องทาง โดยที่ตอนนี้ยังมีสามีเป็นเสาหลักอยู่

เรียกได้ว่า ตรงไหนที่มีโอกาส กลุ่ม ปตท. จะเข้าถึงให้มากที่สุด ซึ่งเชื่อว่าโครงการนี้จะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะให้โอกาสคนได้ยืนอยู่ในสังคมได้อย่างต่อเนื่อง

ไปร่วมกันสนับสนุน ส่งเสริม และให้โอกาสคนกลุ่มเหล่านี้กัน ให้พวกเขาได้พัฒนาอาชีพ อันจะช่วยทำให้สังคมพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น และยกระดับแรงงานด้อยโอกาสของไทยให้ดียิ่งขึ้นต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน