กระแสรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยยังคงร้อนแรงไม่หยุด เมื่อรัฐบาลเตรียมงัดมาตรการจูงใจให้คนไทยหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น ควบคู่กับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะสถานีอัดประจุไฟฟ้า ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยเปลี่ยนผ่านประเทศไทยจากยุค “รถยนต์สันดาปภายใน (ใช้น้ำมัน)” สู่ยุค “รถยนต์ไฟฟ้า” ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานสะอาดได้รวดเร็วขึ้น ทำให้รถยนต์ไฟฟ้ากลายเป็นพระเอกของงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 38 หรือ Motor Expo 2021 ในขณะที่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ก็ยกทัพตู้ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ามาตอกย้ำความมุ่งมั่นสู่การเป็นชาร์จเจอร์เบอร์ 1 ในหัวใจคนไทยทั้งในพื้นที่สาธารณะและที่อยู่อาศัย เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า
ทุ่ม 160 ล้านบาท ขยายสถานี EleX by EGAT
การขยายสถานีอัดประจุไฟฟ้า EleX by EGAT เป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่ กฟผ. เดินหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2565 มีแผนจะลงทุนกว่า 160 ล้านบาท เพื่อสร้างสถานี EleX by EGAT เพิ่มอีก 50 – 60 แห่ง ดังนั้นในปีหน้าคนไทยจะเห็นสถานี EleX by EGAT บนถนนสายหลักและสายรอง สถานที่ราชการ โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า สนามกอล์ฟ และพื้นที่สำคัญรวมกว่า 100 สถานี เพื่อรองรับการเพิ่มขึ้นของรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งสามารถค้นหาสถานีชาร์จ จองหัวชาร์จ และจ่ายเงินด้วยแอปพลิเคชัน EleXA
พลิกโฉมการชาร์จอีวีในที่สาธารณะ
Supernova เป็นเครื่องอัดประจุไฟฟ้าแบบชาร์จเร็วด้วยไฟฟ้ากระแสตรง (DC Fast Charger) สุดอัจฉริยะรุ่นใหม่ภายใต้แบรนด์ EGAT + Wallbox ที่ กฟผ. นำมาอวดโฉมให้คนไทยได้ชมเป็นครั้งแรกในงาน Motor Expo 2021 ได้รับการออกแบบให้เหมาะกับความสามารถในการรับกำลังไฟฟ้าสูงสุดของรถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่ในท้องตลาดปัจจุบัน สามารถจ่ายไฟได้สูงสุด 60 กิโลวัตต์ รองรับหัวชาร์จทุกค่ายรถยนต์ทั้งแบบ CCS และ CHAdeMo โดยใช้เวลาชาร์จเพียง 15 นาที วิ่งได้ 100 กิโลเมตร ทำให้การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าในที่สาธารณะสะดวกสบายมากขึ้น
จุดเด่นของ Supernova คือ ผู้ใช้งานสามารถปรับเพิ่มโมดูลในการจ่ายพลังงานไฟฟ้าเป็น 100 กิโลวัตต์ได้ในภายหลังโดยไม่ต้องซื้อเครื่องอัดประจุไฟฟ้าใหม่ และมีระบบบริหารจัดการพลังงานอัจฉริยะที่ช่วยประหยัดพลังงานสูง ทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็กที่สนใจลงทุนในสถานีอัดประจุไฟฟ้าใช้เงินลงทุนน้อยลง คุ้มทุนเร็วขึ้น อีกทั้งคาดว่าราคาที่จะจำหน่ายพร้อมกันทั่วโลกในช่วงไตรมาสแรกของปี 2565 จะถูกกว่าเครื่องชาร์จแบบเดียวกันประมาณ 40 – 50% โดย กฟผ. ยังมีแผนติดตั้งเครื่องอัดประจุไฟฟ้าแบบชาร์จเร็วรุ่น Supernova ภายในสถานี EleX by EGAT ที่จะขยายเพิ่มเติมในปี 2565 ด้วย
ตอบโจทย์ทุกการชาร์จอีวีในบ้าน
กฟผ. ยังมีอุปกรณ์ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กแบบธรรมดา (AC Normal Charge) ภายใต้แบรนด์ EGAT + Wallbox ในรุ่น Pulsar Plus, Copper SB, Commander 2 และ Quasar ซึ่งมีขนาดกำลังไฟฟ้าตั้งแต่ 7.4 – 22 กิโลวัตต์ ใช้เวลาชาร์จประมาณ 1 – 3 ชั่วโมง มุ่งเน้นตอบโจทย์การชาร์จไฟของผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าจากที่พักอาศัยด้วยวิธีง่าย ๆ เพียงผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าควบคุมและสั่งการอุปกรณ์ชาร์จผ่านแอปพลิเคชัน myWallbox ก็สามารถเก็บข้อมูลการใช้งาน เวลาในการชาร์จ รวมถึงค่าไฟฟ้าได้อีกด้วย โดยมีทีมงานของ กฟผ. ซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านระบบไฟฟ้าจะออกแบบคำนวณกำลังไฟฟ้า ขนาดหม้อแปลง และดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์ ตลอดจนบริการดูแลหลังการขาย เพื่อให้ผู้ใช้งานเกิดความมั่นใจ อีกทั้งยังมีราคาถูกกว่าท้องตลาดประมาณ 10,000-30,000 บาท ทำให้ปัจจุบันมีการติดตั้ง Wallbox ให้กับลูกค้าไปแล้วกว่า 200 ราย พร้อมทั้งเตรียมขยายฐานลูกค้าทั้งในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ โรงแรม และสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อรองรับการเปิดประเทศอีกด้วย
เริ่มต้นการชาร์จอีวีด้วยพลังงานสะอาด
ล้ำหน้าไปอีกขั้นด้วยระบบ Eco-Smart เทคโนโลยีการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าอันชาญฉลาดในรุ่น Pulsar Plus หรือ Copper SB ที่ผู้ใช้สามารถเลือกชาร์จไฟจากพลังงานสีเขียวอย่างโซลาร์เซลล์จึงช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้มากขึ้น
สิทธิพิเศษมากมายที่งาน Motor Expo 2021
ผู้ที่เลือกซื้ออุปกรณ์ชาร์จ Wallbox ทุกรุ่น (ยกเว้น Quasar) ภายในงาน Motor Expo 2021 จะได้รับส่วนลดสุดพิเศษสูงสุดถึง 4,000 บาท และรับฟรี EleXA point ใช้เป็นส่วนลดในการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่สถานี EleX by EGAT หรือใช้เป็นส่วนลดแลกซื้อผลิตภัณฑ์ที่เข้าร่วมรายการส่งเสริมการขายในแอปพลิเคชัน EleXA โดยสามารถเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์และบริการด้านยานยนต์ไฟฟ้าของ กฟผ. ได้ที่บูธ H05-1 อาคารชาเลนเจอร์ 3 อิมแพค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 1-12 ธันวาคม 2564 หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.egatevchargers.com และ Line ID : @egatwallbox
กฟผ. เชื่อมั่นว่าผลิตภัณฑ์และบริการภายใต้ธุรกิจ “EGAT EV Business Solutions” จะเป็นอีกหนึ่งฟันเฟืองที่ก่อให้เกิดระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าหรือ EV Ecosystem สร้างความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้า และเป็นแรงจูงใจที่จะทำให้คนไทยหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าในประเทศมากขึ้นในอนาคต
