ไอคอนสยาม ปักธงแลนด์มาร์คเคาท์ดาวน์สุดยิ่งใหญ่ จัดงานฉลองส่งท้ายปี “Amazing Thailand Countdown 2022” ไฮไลต์พลุรักษ์โลก 7 องก์สุดตระการตาผสมผสานแสง สี เสียง มอบของขวัญปีใหม่พร้อมอวดอัตลักษณ์ไทย ค่ำคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2564

เพื่อตอกย้ำให้แม่น้ำเจ้าพระยาเป็นจุดหมายปลายทางแห่งการท่องเที่ยวของกรุงเทพมหานครและประเทศไทย โดยเฉพาะ “Global Countdown Destination” ในปีที่ผ่านมาที่ได้ถ่ายทอดผ่านโซเชียลมีเดียและสำนักข่าวระดับโลก ให้ทั่วโลกได้รับชมความงดงามของค่ำคืนแห่งการก้าวสู่ศักราชใหม่บนโค้งน้ำเจ้าพระยาซึ่งเป็นหัวใจของประเทศไทย เป็นที่สุดของแลนด์มาร์คการฉลองค่ำคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ได้อย่างงดงาม

จึงเป็นอีกปีที่ไอคอนสยามได้จับมือ ททท. และพันธมิตร จัดงานเคาท์ดาวน์ระดับโลก Amazing Thailand Countdown 2022 ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Win the World for Thailand” อัตลักษณ์ไทยชนะใจคนทั้งโลก โดยมีไฮไลต์คือการแสดงพลุรักษ์โลกที่ผสมผสานแสง สี เสียง และ ICON Pop Orchestra ผลงาน Global Collaboration ระหว่าง “โอกุชิ โยชิมาซะ” ผู้กำกับการแสดงพลุมือทองระดับโลกจากญี่ปุ่น และ เศกพล อุ่นสำราญ หรือ “โก้ มิสเตอร์ แซกแมน” ของไทย

โดยใช้พลุดอกไม้ไฟที่ทำจากข้าวเหนียวไทย แสดงอัตลักษณ์ความเป็นไทยผสมผสานกับนวัตกรรมการสร้างสรรค์พลุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จำนวนกว่า 30,000 ดอกบนโค้งน้ำเจ้าพระยาระยะ 1,400 เมตร ยิ่งใหญ่และยาวที่สุด สามารถรับชมได้ในรัศมีกว่า 5 กิโลเมตร ตอกย้ำประวัติศาสตร์ยิ่งใหญ่ของแม่น้ำเจ้าพระยาที่เป็นหัวใจสำคัญของประเทศไทยในอดีต และปัจจุบันยังเป็น“Global Countdown Destination” จุดหมายปลายทางแห่งการท่องเที่ยวที่สำคัญของโลก โดยพลุทั้ง 7 องก์ จะประกอบไปด้วย

องก์ที่ 1 “ Love Lights Up the World : โลกหมุนด้วยความรัก” พลุรูปหัวใจ ที่ทยอยส่องสว่างขึ้นกลางผืนฟ้า เป็นตัวแทนของความรักและความปรารถนาดี จุดเริ่มต้นของพลังด้านบวกที่จะผลักดันให้ก้าวต่อไปข้างหน้าได้เสมอ

องก์ที่ 2 “Igniting Your Spirit : แข็งแกร่งแต่งดงาม” พลุระยิบระยับสีขาว เสมือนเพชรน้ำงามที่ส่องแสงสุกสกาว สัญลักษณ์ของความงดงามที่แฝงไปด้วยความยั่งยืน แข็งแกร่ง และเป็นที่หนึ่ง เปรียบเสมือนการมอบพลังใจให้ทุกคน มีจิตใจที่เข้มแข็งหากแต่ยังสว่างไสวไปด้วยความสุขที่ยั่งยืนยาวนาน

องก์ที่ 3 “Unleash Your Magic : ฟ้าหลังฝนสวยงามเสมอ” พลุสายรุ้งพาดผ่านผืนฟ้า เมื่อพายุฝนพัดผ่าน ท้องฟ้าย่อมงดงามไปด้วยรุ้งหลากสีสัน เปรียบได้กับการได้พบเจอแต่สิ่งดีๆ และความสดใสในศักราชใหม่ เป็นรางวัลแห่งความอดทน ฝ่าฟันอุปสรรคตลอดปีที่ผ่านมา

องก์ที่ 4 “Alive Again : ชีวิตสว่างไสว presented by เครือเจริญโภคภัณฑ์” พลุขนาดใหญ่ย้อมผืนฟ้าและผืนน้ำเจ้าพระยาให้ส่องสว่าง เป็นสัญลักษณ์ของชีวิตในศักราชใหม่ ที่จะสว่างไสว รุ่งเรืองไปด้วยโชคลาภ ความสำเร็จ และความสุข

องก์ที่ 5 “Embracing Diversity : หลอมรวมความหลากหลาย” พลุสีแดง ประกอบกับความหลากหลายของเทคนิคตระการตา ที่สามารถรวมกันเป็นองก์พลุที่สร้างสรรค์ และมีพลัง เป็นตัวแทนของการเปิดรับความแตกต่างหลากหลาย ที่จะสร้างสีสันใหม่ๆ และต่อยอดความสำเร็จให้ทวีความยิ่งใหญ่มากขึ้น

องก์ที่ 6 “Win the world for Thailand : ความเป็นไทยชนะใจคนทั่วโลก” พลุสีแดง ขาว น้ำเงิน อันเป็นสีของธงชาติไทย เป็นตัวแทนของคนในชาติที่พร้อมจะใช้ความเป็นไทย ทั้งศิลปวัฒนธรรม สถานที่ท่องเที่ยวอันงดงาม รอยยิ้มสยาม เอาชนะใจคนทั่วโลกอีกครั้ง

องก์ที่ 7 “Unity : รวมใจเป็นหนึ่ง” พลุหลายรูปแบบ หลากสีสัน พร้อมใจกันปรากฏสู่สายตา การเฉลิมฉลองที่สว่างไสวไปทั้งผืนฟ้าและผืนน้ำ เปรียบได้กับการร่วมแรงร่วมใจกันสร้างสรรค์สิ่งดีงาม จับมือกันข้ามผ่านอุปสรรค และเริ่มต้นศักราชแห่งความสุข ความเจริญรุ่งเรือง มั่งคั่ง มั่นคง

การจัดงานครั้งนี้ ไอคอนสยาม ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยสูงสุด“COVID Free Setting” เปิดให้ประชาชนเข้าร่วมงานในจำนวนจำกัด โดยประชาชนที่สนใจสามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์สำรองที่นั่งเข้าชมงาน สำหรับผู้ที่ได้รับสิทธิ์จะต้องมาแสดงตน ในวันที่ 31 ธันวาคม 2564 เวลา 10.00-16.00 น. ณ ประตู 5 (สุขสยาม) ชั้น G ไอคอนสยาม พร้อมนำหลักฐานมาแสดงเพื่อรับสายรัดข้อมือเข้างาน ได้แก่ 1.บัตรประชาชนตัวจริง 2.สิทธิ์ใน My Voucher บน ONESIAM SuperApp 3.หลักฐานการฉีดวัคซีน 2 เข็ม จากแอพพลิเคชั่น “หมอพร้อม” หรือออกโดยโรงพยาบาล พร้อมเข้ารับการตรวจ Antigen Test Kit (ATK) ณ จุดบริการไอคอนสยาม โดยไม่มีค่าใช้จ่าย และแสดงผลเป็นลบ (Negative) เท่านั้น

การเข้าชมงาน ณ สถานที่ไอคอนสยาม ได้ปิดรับลงทะเบียนไปแล้ว แต่สำหรับคนอื่นๆ สามารถชมการแสดงได้จากจุดชมพลุสาธารณะ ได้แก่ ท่าเรือสาทร, สถานีตำรวจน้ำ 2 กองกำกับการ 4 กองบังคับการตำรวจน้ำ, อาคารโทรคมนาคม (บางรัก), โบสถ์กาลหว่าร์ (Holy Rosary Church), ลานจอดรถสำเพ็ง, สวนลอยฟ้าเจ้าพระยา (สะพานพระปกเกล้า), ท่าเรือข้ามฟากวัดสุวรรณ, ท่าเรือคลองสาน และ ศาลเจ้าแม่หม่าโจ้ว

ผู้ร่วมงานสามารถเดินทางมาไอคอนสยามได้ครอบคลุมทุกเส้นทางการคมนาคม ทั้งรถยนต์ รถประจำทาง เรือโดยสาร และรถไฟฟ้าสายสีลมลงสถานีกรุงธนบุรี พร้อมเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายสีทองลงสถานี G2 เจริญนคร ถึงไอคอนสยามได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว หรือตรวจสอบวิธีการลงทะเบียน


ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน