อีกหนึ่งค่ายรถยนต์ที่มุ่งหน้าสู่รถยนต์เอสยูวี (SUV) เมื่อล่าสุด GWM หรือ เกรท วอลล์ มอเตอร์ (ประเทศไทย) เปิดตัวรถยนต์เอสยูวี รุ่นที่ 2 ของค่าย ชื่อว่า ‘All New HAVAL JOLION Hybrid SUV’ โดยมีรูปลักษณ์โฉบเฉี่ยว สไตล์สปอร์ต พร้อมขนาดตัวรถและพื้นที่ภายในอันกว้างขวาง ถอดแบบมาจากแบรนด์ HAVAL จากค่าย GWM พร้อมทั้งแพลตฟอร์มที่พัฒนาขึ้นสำหรับรถยนต์เอสยูวีโดยเฉพาะ ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในตลาดจีนเมื่อวันที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2564

ความโฉบเฉี่ยวที่เหนือระดับกับ SUV สายพันธุ์สปอร์ตของ GWM

HAVAL JOLION เป็นการผสมผสานระหว่างการออกแบบที่หรูหรา กับโครงสร้างที่ทันสมัย ตอบรับไลฟ์สไตล์ที่แอ็คทีฟ โดยมีองค์ประกอบที่โดดเด่น คือ 1. ระบบไฟ LED เต็มรูปแบบ ทั้งด้านหน้า ช่วงท้าย ไฟเบรกดวงที่สาม และไฟตัดหมอกหลัง 2. ไฟ Daytime Running Light หรือไฟ Daylight 3. ระบบ Welcome Light เมื่อปลดล็อกรถ และ 4. ไฟ Follow Me Home ที่ส่องสว่างหลังดับเครื่องยนต์

ส่วนด้านหน้าเป็นกระจังหน้า Star Matrix สีดำและเทา โลโก้ HAVAL ตรงกลาง หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามิก สปอยเลอร์ท้าย เสาอากาศแบบ shark fin เข้าทรงกับดิฟฟิวเซอร์ดีไซน์สปอร์ต ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ต ทูโทน ขนาด 18 นิ้ว มิติตัวรถ กว้าง 1,841 มิลลิเมตร ยาว 4,472 มิลลิเมตร สูง 1,619 มิลลิเมตร ระยะฐานล้อ 2,700 มิลลิเมตร

“Future Intelligent Cockpit” แนวคิดอัจฉริยะ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ห้องโดยสารแห่งอนาคต

HAVAL JOLION โดดเด่นด้วยการออกแบบภายในแบบ 360 องศา ภายใต้แนวคิด “Future Intelligent Cockpit” มีห้องโดยสารที่กว้างขวาง สะดวกสบาย ที่มาพร้อมการตกแต่งแบบ Two Tone ตัดด้วยลายเส้นสีโรสโกลด์ (Rose Gold) สีเงิน (Silver) สีดำ (Piano Black) และสีโครม (Chrome)

นอกจากนี้ ยังมีหน้าจอ Multi Information Display ความละเอียดสูง ขนาด 7 นิ้ว พร้อมหน้าจอ Head-up Display แสดงข้อมูลการขับขี่บนกระจกบังลมหน้า และระบบปรับอากาศอัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา พร้อมระบบกรองอากาศ PM 2.5 และยังมี Wireless Charger แท่นชาร์จสมาร์ตโฟนแบบไร้สายเพิ่มความสะดวกสบายไปอีกขั้น

อีกทั้งรถยนต์เอสยูวี รุ่น 2 จาก HAVAL ยังสะท้อนความหรูหราและทันสมัย ด้วยชุดเกียร์ไฟฟ้า (Electronic Shifter) ดีไซน์หรู พร้อมสีพิเศษแบบ High-gloss ช่วยเติมสีสันให้ห้องโดยสาร มาพร้อมกุญแจ Smart Key และระบบ Push Start เพื่ออำนวยความสะดวกในการเปิดประตูและการสตาร์ตเครื่องยนต์

ส่วนเบาะที่นั่งเป็นหนังสังเคราะห์ดีไซน์สปอร์ต ออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ โดยเบาะหน้าฝั่งผู้ขับขี่จะเป็นเบาะไฟฟ้าที่สามารถปรับได้ 6 ทิศทาง มาพร้อมระบบระบายอากาศ ส่วนเบาะที่นั่งโดยสารด้านหลังจะมาพร้อมที่เท้าแขนกลาง และช่องปรับอากาศด้านท้าย สามารถพับลงได้ เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการบรรทุกสัมภาระได้สูงสุด 1,069 ลิตร

เต็มอิ่มกับ ‘ระบบสาระและบันเทิง’ ที่ครบครัน

นอกจากแนวคิดและการออกแบบที่ดีไซน์อย่างลงตัวแล้ว ภายในรถเอสยูวี รุ่น 2 จาก HAVAL JOLION ยังครบครันด้วยระบบสาระบันเทิง รองรับการใช้งานอย่างครบครัน เพิ่มความสะดวกแก่ผู้ใช้ ทั้งลำโพง 6 ตัว มาพร้อมกับหน้าจอกลางอัจฉริยะแบบ Touch Screen Audio Display ความละเอียดสูง ขนาด 12.3 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay การเล่น MP3 และ JOOX อีกทั้งยังมีระบบนำทาง (Navigator) ที่สามารถบอกตำแหน่ง Point of Interest ทั้งร้านอาหาร ปั๊มน้ำมัน และ ห้างสรรพสินค้า

สมรรถนะเต็มเหนี่ยว ดริฟต์แรงได้เต็มพิกัด

เมื่อขึ้นชื่อว่ารถเอสยูวีที่รองรับการใช้งานมากกว่ารถทั่วไปแล้ว HAVAL JOLION ยังอัดแน่นด้วยสมรรถนะเพื่อตอบสนองการใช้งานอย่างเต็มที่ ทั้งการติดตั้งเครื่องยนต์ชนิดไฮบริด ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของโลกกับรถรุ่นนี้ ที่นอกจากจะให้ประสบการณ์การขับขี่เหนือระดับแล้ว ยังมีระบบการขับเคลื่อนเต็มสมรรถนะด้วยเครื่องยนต์ ขนาด 1.5 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุด 190 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 375 นิวตันเมตร พร้อมระบบเกียร์แบบ DHT ที่สร้างขึ้นเพื่อรองรับระบบการขับเคลื่อนที่หลากหลายของรถยนต์เมื่อทำงานร่วมกับเครื่องยนต์ ส่งผลให้การขับเคลื่อนเป็นไปอย่างทรงพลัง และประหยัดน้ำมัน ตลอดทั้งให้ความคุ้มค่าแก่ผู้ใช้งาน

นอกจากนี้ ยังเดินหน้าตอกย้ำความเชื่อมั่นด้านมาตรฐานและคุณภาพของกระบวนการผลิตรถยนต์ โดยการเปิดเผยโฉมโรงงานผลิต ซึ่งเป็นไฮไลต์นอกจากตัวรถเอสยูวี ทั้ง 2 รุ่น ไม่ว่าจะเป็น ‘All New HAVAL H6 Hybrid SUV’ และ ‘All New HAVAL JOLION Hybrid SUV’ ต่างมีแหล่งผลิตมาจากที่เดียวกัน คือ โรงงานผลิตที่จังหวัดระยอง

ชูแนวคิด ‘ฉลาด ปลอดภัย เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม’ มอบประสบการณ์เหนือระดับแบบเอ็กซ์คลูซีฟ

นับตั้งแต่เริ่มเข้ามาดำเนินการที่โรงงานอัจฉริยะแห่งนี้เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2563 จนถึงการเปิดโรงงานอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2564 GWM ได้นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีขั้นสูงภายใต้แนวคิด ‘ฉลาด ปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม’ เป็นตัวขับเคลื่อนปรับปรุงและอัปเกรดโรงงาน เพื่อเสริมศักยภาพการผลิต ตั้งแต่รถยนต์ All New HAVAL H6 Hybrid SUV คันแรกจนถึงปัจจุบัน GWM สามารถส่งมอบรถได้อย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ โรงงานยังทำงานใกล้ชิดกับพาร์ทเนอร์ ซึ่งเป็นบริษัทผลิตและจัดส่งชิ้นส่วนหรืออะไหล่รถยนต์ 4 แห่ง ได้แก่ HYCET NOBO AUTO EA และ MIND เพื่อสร้างความสามารถด้านการแข่งขันในอุตสาหกรรมรถยนต์ โดยชิ้นส่วนหลักจากพาร์ทเนอร์ที่นำมาใช้ ได้แก่ 1. เครื่องยนต์และระบบส่งกำลัง 2. ระบบอิเล็กทรอนิกส์และระบบสายไฟรถยนต์ 3. ระบบชิ้นส่วนช่วงล่างรถยนต์ และ 4. ชิ้นส่วนตกแต่งภายในรถยนต์ เพื่อสร้างความมั่นใจกับชิ้นส่วนที่มีเพียงพอต่อความต้องการ รวมถึงสะท้อนให้เห็นถึงความสามารถด้านการแข่งขันในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า

เดินหน้าขับเคลื่อน SUV เพื่อเป้าหมายแห่งอนาคต ด้วยองค์ประกอบ 4 ส่วน

สำหรับโรงงานผลิตรถยนต์ของ GWM จังหวัดระยอง ประกอบไปด้วย 4 ส่วนหลัก ในการดำเนินงานและกระบวนการผลิต โดยแต่ละส่วนจะประกอบไปด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีระบบการผลิตอันล้ำสมัย ทั้งระบบ Artificial Intelligence (AI) การใช้หุ่นยนต์และระบบควบคุมการทำงานด้วยคอมพิวเตอร์เพื่อเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต ซึ่งได้รับการคิดค้นและพัฒนาจากศูนย์วิจัยและพัฒนาของเกรท วอลล์ มอเตอร์ ซึ่งมีกว่า 10 แห่ง ใน 7 ประเทศทั่วโลก โดยทุก ๆ กระบวนการทำงานภายในโรงงาน จะมีการควบคุมดูแล ตรวจเช็กคุณภาพ และรักษาความปลอดภัยอย่างละเอียดและเคร่งครัดจากทีมทำงานที่เปี่ยมไปด้วยทักษะและความเชี่ยวชาญของเกรท วอลล์ มอเตอร์ อย่างใกล้ชิด

  1. Press Shop

ขั้นตอนแรกของการผลิตรถยนต์ มีหน้าที่หลักในการผลิตแผงตัวถังขนาดใหญ่และชิ้นส่วนโลหะที่สำคัญ ประกอบด้วยสองสายการผลิต ซึ่งถูกออกแบบและติดตั้งโดยบริษัทชั้นนำระดับโลกจากประเทศจีนและเกาหลีใต้ ทำงานร่วมกับการใช้ หุ่นยนต์ FANUC แบบ 6 แกน ในการส่งต่อชิ้นงานระหว่าง Press machine และมีการใช้ระบบเปลี่ยนแม่พิมพ์อัตโนมัติ (Automatic Die Change System) ที่เพิ่มประสิทธิภาพ และประหยัดพลังงาน

  1. Body Shop

ตั้งอยู่บนพื้นที่ใช้สอยกว่า 30,000 ตารางเมตร และมีกำลังผลิตได้สูงสุด 120,000 คันต่อปี โดยแบ่งการผลิตออกเป็น 2 เฟส ได้แก่ 1. รองรับการผลิตรถยนต์เอสยูวีและรถกระบะด้วยกำลังผลิต 80,000 คันต่อปี และ 2. เตรียมการลงทุนเพื่อเพิ่มกำลังผลิตอีก 40,000 คันต่อปี ซึ่งปัจจุบันมีการนำหุ่นยนต์ FANUC 52 ตัว ที่มีการทำงานอัตโนมัติ อยู่ที่ 85% ควบคู่กับการใช้ระบบ MES Process Visualization Technology เพื่อป้องกันข้อผิดพลาดในการผลิต การใช้ AI Technology ช่วยตรวจสอบการแสตมป์หมายเลขตัวถัง หรือ vin number ของรถยนต์ได้อย่างถูกต้องแม่นยำ ระบบการปรับเปลี่ยนการผลิตรุ่นรถยนต์อัตโนมัติ เพื่อให้สายการผลิตมีความยืดหยุ่นในการผลิตรถยนต์ได้หลากหลายรุ่น รวมไปถึงเทคโนโลยี PDA ที่ใช้ในการเก็บข้อมูลการผลิตด้านคุณภาพของรถยนต์

  1. Paint Shop

มีพื้นที่รวมประมาณ 39,000 ตารางเมตร โดยออกแบบให้มีกำลังการผลิตได้สูงสุด 120,000 คันต่อปี มีกระบวนการผลิต 10 ขั้นตอน อาทิ การเคลือบสีตัวถังด้วยการนำไฟฟ้า ซึ่งเป็นการรับประกันประสิทธิภาพการป้องกันการกัดกร่อนและการเกิดสนิมของตัวถังที่ดีเยี่ยม กระบวนการ PVC ในการยาแนวตามตะเข็บรอยต่อ เพื่อป้องกันน้ำรั่วและเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันสนิมตามตะเข็บรอยต่อของตัวถัง หรือกระบวนการพ่นสีรองพื้นและสีจริง โดยใช้หุ่นยนต์พ่นสีจากประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อให้สีรถมีความเรียบเนียนและสม่ำเสมอ รวมถึงโปรแกรมการเลือกและเปลี่ยนสีได้อัตโนมัติมากถึง 24 สี นอกจากนี้ยังมี เตาอบสี ที่ใช้อุปกรณ์เทคโนโลยีชั้นสูงจากประเทศเยอรมนี ทำงานโดยการนำอากาศเสียที่อยู่ในเตาอบสีมาผสมกับอากาศบริสุทธิ์ในการเผาไหม้ เป็นการช่วยลดมลพิษก่อนปล่อยสู่อากาศภายนอก

  1. General Assembly (GA) Shop

ครอบคลุมพื้นที่ ประมาณ 63,000 ตารางเมตร รองรับกำลังการผลิตสูงสุด 120,000 คันต่อปี โดยมีการสร้าง Intelligent Chassis Line ซึ่งเป็นสายใหม่ สำหรับผลิตรถยนต์เอสยูวีโดยเฉพาะ และนับเป็นครั้งแรกสำหรับแขวนโครงรูปตัว L เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัย มีการใชเทคโนโลยี Dual-Life AGV เพื่อใช้ประกอบเครื่องยนต์และช่วงล่างรถยนต์ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่มีความเที่ยงตรงและปลอดภัยสูง และมีการติดตั้งแขนกล (Manipulator) 17 ตัว เพื่อช่วยลดภาระและความเมื่อยล้า มีการเพิ่มความปลอดภัยการทำงานของพนักงาน รวมถึงมีการติดตั้งหน้าจอแสดงข้อมูลขับขี่ (HUD System) ตรวจสอบการทำงาน และระบบกล้อง 360 องศา (360 Degree Smart Camera) ที่ช่วยตรวจจับด้วยระบบเซนเซอร์ต่าง ๆ ของรถยนต์ได้อย่างละเอียดแม่นยำ

ฮาวาล โจไลอ้อน ไฮบริด มี 3 รุ่นย่อย คือ

  • Haval Jolion รุ่น Tech ราคา 879,000 บาท
  • Haval Jolion รุ่น Pro ราคา 939,000 บาท
  • Haval Jolion รุ่น Ultral ราคา 999,000 บาท

ติดตามรายละเอียดและอัปเดตข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ เว็บไซต์ WWW.GWM.CO.TH หรือ https://gwm.co.th/jolion-terms-condition/ หรือ Official Facebook Page : GWM Thailand และ HAVAL Thailand และ หมายเลขโทรศัพท์ : 02-668-8888


ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน