‘เอ็กโก กรุ๊ป’ มอบเงินบริจาค 1.5 ล้านบาท ให้มูลนิธิและองค์กรสาธารณกุศล 9 แห่ง ภายใต้โครงการ ‘เปลี่ยนของขวัญปีใหม่ เป็นพลังใจให้สังคม’ เพื่อร่วมแบ่งปันความสุขและมอบพลังใจคืนสู่สังคม พร้อมขอบคุณผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย ที่ร่วมสนับสนุนกิจกรรมเป็นอย่างดี

นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป กล่าวถึงโครงการ ‘เปลี่ยนของขวัญปีใหม่ เป็นพลังใจให้สังคม’ ว่า เกิดจากแนวคิดมุ่งมั่นแบ่งปันความปรารถนาดี และส่งต่อความสุขให้ผู้อื่นในเทศกาลปีใหม่ ซึ่งเป็นการช่วยสร้างพลังบวกให้ทั้งผู้ให้และผู้รับ ประกอบกับบริษัทได้ประกาศนโยบาย ‘No Gift Policy’ ในทุกระดับขององค์กร เพื่อยกระดับการกำกับดูแลกิจการที่ดี และสร้างมาตรฐานการประกอบธุรกิจที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ ตามแนวทางต่อต้านคอร์รัปชัน

เอ็กโก กรุ๊ป จึงริเริ่มดำเนินโครงการ ‘เปลี่ยนของขวัญปีใหม่ เป็นพลังใจให้สังคม’ โดยเปลี่ยนงบประมาณที่เคยใช้จัดทำของขวัญปีใหม่มอบให้ผู้มีส่วนได้เสีย เป็นการบริจาคงบประมาณส่วนดังกล่าว มอบให้มูลนิธิและองค์กรสาธารณกุศลต่างๆ

นอกจากนี้ โครงการฯ ยังเปิดโอกาสให้ผู้มีส่วนได้เสียและพันธมิตรทางธุรกิจ ที่เคยได้รับของขวัญจากเอ็กโก กรุ๊ป รวมถึงบุคคลทั่วไป มีส่วนร่วมในการเลือกองค์กรสาธารณกุศลและมูลนิธิที่ประสงค์ให้นำงบประมาณไปบริจาค ผ่านกิจกรรมบนเว็บไซต์ www.palungjaiegco.com โดยเอ็กโก กรุ๊ป เป็นผู้รับผิดชอบงบประมาณการบริจาคตลอดโครงการ

ด้วยพลังการสนับสนุนจากผู้มีส่วนได้เสีย พันธมิตร และผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกฝ่าย ที่ร่วมส่งต่อพลังใจบนเว็บไซต์ บริษัทฯ ได้ร่วมสมทบเงินบริจาคอีกส่วนหนึ่ง และนำเงินบริจาคทั้งหมด จำนวน 1.5 ล้านบาท ส่งมอบแก่มูลนิธิและองค์กรสาธารณกุศล 9 แห่งเรียบร้อยแล้ว ประกอบด้วย มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์, วัดพระบาทน้ำพุ, โรงพยาบาลสงฆ์, รามาธิบดีเพื่อโรงพยาบาลชุมชน, มูลนิธิสร้างรอยยิ้ม ประเทศไทย, มูลนิธิสมเด็จเจ้าพระยา ในพระบรมราชินูปถัมภ์, มูลนิธิสงเคราะห์เด็กอ่อนพญาไท, มูลนิธิอนุเคราะห์คนหูหนวก ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และมูลนิธิไทยรักษ์ป่า

“เอ็กโก กรุ๊ป รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้เป็นสื่อกลางในการแบ่งปันความสุข และส่งมอบความช่วยเหลือคืนแก่สังคม ผ่านโครงการเปลี่ยนของขวัญปีใหม่ เป็นพลังใจให้สังคม ซึ่งนอกจากจะสะท้อนจุดยืนเรื่องการกำกับดูแลกิจการที่ดี และนโยบายต่อต้านคอร์รัปชันขององค์กรแล้ว ยังสอดคล้องกับพันธกิจสำคัญของเราในการเป็นสมาชิกที่ดีของสังคม และใส่ใจต่อชุมชนและสิ่งแวดล้อม”

“โอกาสนี้ เอ็กโก กรุ๊ป ขอขอบคุณผู้มีส่วนได้เสีย พันธมิตรทางธุรกิจ และผู้เข้าร่วมกิจกรรมทุกท่าน ที่ร่วมสนับสนุนโครงการฯ อย่างดียิ่ง” กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอ็กโก กรุ๊ป กล่าว

น.ส.จรัสศรี ศรีมณี ผู้อำนวยการสำนักบริหาร มูลนิธิช่วยคนตาบอดแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ กล่าวว่า มูลนิธิคนตาบอดฯ ก่อตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือ สนับสนุนการศึกษา และฝึกอาชีพให้ผู้พิการทางสายตา โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งเฉลี่ยแล้วจะมีผู้พิการทางสายตาอยู่ในความดูแลราว 450 คนต่อปี แต่ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ส่งผลให้มีผู้บริจาคเงินสนับสนุนน้อยลงอย่างมาก มูลนิธิฯ จึงต้องปรับตัว และมีมาตรการประหยัดค่าใช้จ่าย

“เงินบริจาคที่ได้รับจากโครงการเปลี่ยนของขวัญปีใหม่ เป็นพลังใจให้สังคม โดย เอ็กโก กรุ๊ป จึงเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนภารกิจของมูลนิธิช่วยคนตาบอดฯ ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการดำเนินงานของโรงเรียนคนตาบอดกรุงเทพฯ ที่มีค่าใช้จ่ายสูงถึง 30 ล้านบาทต่อปี

“ขอชื่นชมโครงการฯ ที่มีแนวคิดที่ดี ในการยกระดับคุณธรรมและความโปร่งใสในองค์กรของเอ็กโก กรุ๊ป ให้เป็นที่ยอมรับ และเชื่อมั่นของคู่ค้าและเครือข่าย พร้อมทั้งได้ช่วยสนับสนุนการดำเนินงานของมูลนิธิช่วยคนตาบอดฯ ซึ่งมูลนิธิฯ จะนำเงินบริจาคดังกล่าวไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อผู้พิการทางสายตามากที่สุด” น.ส.จรัสศรี กล่าวปิดท้าย

ด้าน ทพญ.ยุพเรศ นิมกาญจน์ ประธานกรรมมูลนิธิสร้างรอยยิ้ม ประเทศไทย กล่าวว่า มูลนิธิสร้างรอยยิ้มฯ มีพันธกิจในการรักษาผู้ป่วยภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ ผู้ป่วยที่มีแผลยึดติดหดรั้ง จากไฟไหม้น้ำร้อนลวก ผู้ป่วยนิ้วติดกัน รวมถึงผู้ที่มีใบหน้าผิดปกติ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ที่ผ่านมาได้ดำเนินการผ่าตัดคนไข้รวมกว่า 15,000 ครั้ง หรือเฉลี่ย 600-800 คนต่อปี แต่การระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้เกิดอุปสรรคในการระดมทุนสำหรับการดำเนินงาน

“การได้รับเงินบริจาคจากโครงการฯ ของเอ็กโก กรุ๊ป ทำให้สามารถสนับสนุนพันธกิจของมูลนิธิ ที่จะดูแลรักษาผู้ป่วยได้ต่อไป มูลนิธิสร้างรอยยิ้มฯ ต้องขอขอบคุณโครงการเปลี่ยนของปีใหม่ เป็นพลังใจให้สังคม ที่ได้สนับสนุนเงินบริจาคสำหรับการดำเนินงาน เพราะเงินเหล่านี้จะส่งตรงไปช่วยเหลือผู้ป่วยยากไร้ ที่ไม่สามารถเข้าถึงการรักษา

“โครงการเปลี่ยนของขวัญปีใหม่ เป็นพลังใจให้สังคม เป็นโครงการที่มีแนวคิดและหลักการที่ดี เพราะปลูกฝังให้ประชาชนและองค์กรได้มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือและแบ่งปันซึ่งกันและกัน รวมถึงเป็นการต่อยอดมาจากนโยบายต่อต้าน คอร์รัปชัน จึงเท่ากับเป็นการรวมพลังบวก 2 พลัง ไว้ในโครงการเดียว” ทพญ.ยุพเรศ กล่าวชื่นชม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน