ปฏิเสธไม่ได้ว่ารถยนต์มีบทบาทในชีวิตประจำวันของผู้คนเป็นอย่างมาก โดยส่วนใหญ่มักใช้เป็นพาหนะหลักในการเดินทาง
เพื่อความสะดวกสบาย และความปลอดภัย ยิ่งมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 การใช้รถยนต์ส่วนบุคคลกลายเป็นทางเลือกแรกสำหรับการเดินทางในชีวิตประจำวัน
ทว่าในยุคปัจจุบัน ที่ผู้คนมีไลฟ์สไตล์และทางเลือกในการใช้ชีวิตที่หลากหลายมากขึ้น หากต้องการรถยนต์สักคัน ปัจจัยเรื่องความเร็วความแรงอาจไม่เพียงพอซะแล้ว เพราะเราต่างต้องการฟังก์ชันการทำงานที่หลากหลาย ตอบโจทย์ผู้ใช้งาน เพิ่มความสะดวกสบายทั้งสำหรับผู้ขับขี่เอง และผู้โดยสาร รวมไปถึงเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ช่วยให้เราขับขี่ได้ง่ายขึ้น จึงกำเนิดเป็นฟีเจอร์ต่างๆ มากมายเกิดขึ้น อาทิ หน้าจอระบบสัมผัส การสั่งการด้วยเสียง กล้องมองรอบทิศทางขณะขับจอด ระบบเซนเซอร์ต่างๆ คอยช่วยเตือน ล้วนเป็นนวัตกรรมที่เข้ามาตอบสนอง
และอีกหนึ่งสิ่งสำคัญคือ รถรุ่นใหม่ๆ ต้องมีความเป็นมิตรกับธรรมชาติมากขึ้น ควบคู่กับการลดปริมาณการใช้พลังงานเชื้อเพลิง จึงถือกำเนิดครื่องยนต์ทางเลือกหลากหลายประเภท หนึ่งในระบบขับเคลื่อนที่น่าสนใจ และค่อนข้างตอบโจทย์กับสถานการณ์ราคาน้ำมันที่ผันผวนได้ในระดับหนึ่งเลยก็คือ ‘รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด’ ที่สามารถขับขี่ด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% ได้เหมือนกับ ‘รถยนต์พลังงานไฟฟ้า’ แต่ก็ยังสามารถขับขี่โดยใช้พลังงานเชื้อเพลิงได้เหมือนเครื่องยนต์สันดาป ที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่ยังคงคุ้นเคย
หากจะตัดสินใจซื้อ รถยนต์สักคันในช่วงเวลานี้ หนึ่งในรุ่นที่ต้องหยิบยกขึ้นมาคงหนีไม่พ้น ‘NEW MG HS PHEV’ ได้จริงๆ!
NEW MG HS PHEV รถเอสยูวีที่ขับเคลื่อนเทคโนโลยีไปพร้อมกับการรักษ์โลก
นับตั้งแต่เอ็มจีเปิดตัว MG HS รุ่นแรกเข้าสู่ตลาดเมืองไทยใน พ.ศ. 2562 เอ็มจีแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยียานยนต์ด้วยการนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาสร้างประสบการณ์การขับขี่ที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้ช่วยยกระดับอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยให้ก้าวทันอุตสาหกรรมยานยนต์โลก จนขึ้นแท่นการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีการเชื่อมต่อระหว่างคนกับรถในตลาดรถยนต์เมืองไทย ให้สามารถตอบสนองกันได้อย่างอัจฉริยะ และเป็นรายแรกที่ทำให้ผู้ขับขี่สะดวกสบายขณะขับขี่ ด้วยฟังก์ชันการสั่งงานรถยนต์ด้วยเสียงภาษาไทย ภายใต้ชื่อระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART
ล่าสุดมีการปรับโฉม NEW MG HS และ NEW MG HS PHEV ภายใต้แนวคิด REFINEMENT ยังคงสะท้อนความเป็นรถยนต์เอสยูวีที่มีความสปอร์ต พรีเมียมได้อย่างชัดเจนเช่นเดิมทั้งการออกแบบภายนอก ด้วยเส้นสายของตัวถังแบบ British Shoulder Line ที่เน้นเรื่องความโค้งมนสมบูรณ์แบบของตัวรถ พร้อมกระจังหน้าดีไซน์ใหม่ ที่เป็นเอกลักษณ์ของรถเอ็มจี ภายในตกแต่งด้วยสี 2-Tone Monaco Blue ใช้วัสดุบุนุ่มแบบ Soft Touch เพิ่มความหรูหราให้มากขึ้น
จุดแข็งของรถรุ่นนี้ที่ต้องพูดถึงเลยก็คือเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ครบครันด้วยฟังก์ชันอำนวยความสะดวกทั้งสำหรับผู้ขับขี่ และผู้โดยสาร ระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMARTที่ได้รับการพัฒนา สามารถอัพเดทฟังก์ชันการทำงานใหม่ๆ ผ่านทางออนไลน์ได้แล้ว ไม่ต้องเสียเวลาขับรถเข้าไปที่ศูนย์บริการช่วยเพิ่มความสะดวกสบายมากขึ้น สัมผัสกับระบบกุญแจดิจิทัล (Digital Key Technology) ที่เจ้าของรถสามารถสั่งการผ่านทางโทรศัพท์มือถือ โดยไม่ต้องใช้กุญแจรถ อีกทั้งยังสามารถส่งมอบกุญแจดิจิทัลให้ผู้อื่นเพื่อใช้งานรถยนต์ได้ด้วยการรับ–ส่งโค้ดผ่านทางแอพพลิเคชั่น i-SMART และเทคโนโลยีใหม่ล่าสุดของ MG กับระบบนำทางอัจฉริยะ หรือ AR NAVIGATION ที่ทำงานร่วมกันระหว่างกล้องบริเวณหน้ารถที่ถ่ายทอดสภาวะแวดล้อมจริงขณะเดินทาง ร่วมกับระบบนำทาง Navigation แบบ Real time ทำให้การนำทางแม่นยำมากขึ้น ลดโอกาสการหลงทาง หรือขับเลยซอย ซึ่งโดยปกติแล้วเทคโนโลยีเหล่านี้เราจะพบในกลุ่มรถหรูเท่านั้น
ยังมีเทคโนโลยีความปลอดภัยมาตรฐานยุโรปสูงสุดถึง 26 ระบบ ไม่ว่าจะเป็น ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา ระบบช่วยเตือนการเปิดประตู ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน เป็นต้น
ไฮบริดไลฟ์ ไฮบริดคาร์ แนวทางใหม่การใช้รถที่ตอบโจทย์ยุคสมัย
NEW MG HS มีให้เลือกทั้งแบบเครื่องเบนซินเทอร์โบ 1.5 ลิตร เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับคนยังมีความคุ้นชินกับเครื่องยนต์สันดาป เป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่อยากเป็นเจ้าของรถเอสยูวีแต่มีงบไม่สูงมากเพราะ MG เสนอราคารุ่นเริ่มต้นอยู่ที่ 939,000 บาท และอีกหนึ่งทางเลือกที่ถือเป็นไฮไลต์เด็ดกับ NEW MG HS PHEV รุ่นปลั๊กอินไฮบริด (Plug-in Hybrid) ผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์ และมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงสุดถึง 284 แรงม้า ด้วยเทคโนโลยีไฮบริดที่ทันสมัยจากทาง MG ทำให้ NEW MG HS PHEV สามารถเปลี่ยนโหมดการขับขี่มาสู่การใช้พลังงาน ไฟฟ้าได้ 100% (EV Mode) ได้ไกลสูงสุดถึง 67 กิโลเมตร ซึ่งถือว่าวิ่งได้เยอะพอสมควรเลย หากใช้ขับขี่เพียงระยะทางใกล้ ช่วงกลางคืนขยันเสียบชาร์จหน่อย ก็แทบจะลืมการเติมน้ำมันไปได้เลย เป็นมิตรทั้งกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น และเงินในกระเป๋าหรือหากต้องขับขี่ระยะทางไกลสามารถใช้พลังงานจากน้ำมันได้ ทำให้มั่นใจได้ในทุกการรูปแบบใช้งาน ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ เรียกได้ว่าครบจบในรุ่นเดียว ในราคาเริ่มต้น 1,299,000 บาท
ผู้ที่สนใจ NEW MG HS และ NEW MG HS PHEV สามารถเข้ามาชม พร้อมทดลองขับได้ที่โชว์รูมเอ็มจี กว่า 150 แห่งทั่วประเทศ หรือติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ : www.mgcars.com
#MG #NEWMGHS #NEWMGHSPHEV #รถยนต์ไฮบริด #ปลั๊กอินไฮบริด
