นายสิทธิกร ดิเรกสุนทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) กล่าวถึงผลการดำเนินงานของ บสย. ในปีนี้ว่า การค้ำประกันสินเชื่อในระยะเวลา 10 เดือน ใกล้ทะลุ 1 แสนล้านบาท เป็นสินเชื่อที่ค้ำประกันผ่าน 2 โครงการหลัก ได้แก่ SME เข้มแข็ง หรือ PGS10 วงเงิน 50,000 ล้านบาท ขณะนี้วงเงินเหลือไม่มาก และ โครงการ พ.ร.ก.พื้นฟูระยะที่ 2 โดยแบ่งสัดส่วนโครงการ SME เข้มแข็ง หรือ PGS10 50% โครงการ พ.ร.ก.พื้นฟูระยะที่2 40% และ โครงการ BI7 10% ทั้ง 3 โครงการสามารถช่วยผู้ประกอบการได้มากกว่า 85,000 ราย คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะถึง 90,000 ราย
“พอร์ตของ บสย. ที่ค้ำประกันสินเชื่อเกือบ 1 แสนล้านบาท 3 กลุ่มแรก คือ ภาคการบริการ ร้านค้าปลีก ผับบาร์ ร้านอาหาร รวมถึงโลจิสติกส์ ซึ่งสอดคล้องกับการขับเคลื่อนประเทศและแคมเปญของรัฐบาล เช่น การยกเว้นค่าวีซ่านักท่องเที่ยวจีน อินเดีย เป็นต้น กลุ่ม 2 ภาคการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค สอดคล้องกับการบริโภคภายในประเทศ และภาคเกษตรกรรม สอดคล้องกับตัวเลขการส่งออก
ปัจจัยที่ทำให้ส่งเสริมการค้ำประกันสินเชื่อได้มากขึ้น เพราะเราดีไซน์โปรดักต์ให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย แบ่งเป็น 6 โครงการย่อย เช่น สตาร์ตอัป นักศึกษาจบใหม่ที่ต้องการเข้าถึงสินเชื่อ บสย. ก็จัดแพ็กเกจร่วมกับสถาบันการเงิน สมอลล์ บิซ สำหรับผู้ประกอบการรายย่อย พ่อค้าแม่ขาย ผู้ประกอบการออนไลน์ แท็กซี่ วินมอเตอร์ไซค์ ไรเดอร์ต่างๆ ก็สามารถเข้าถึงสินเชื่อได้
หรือ สมาร์ทกรีน เสริมศักยภาพธุรกิจ สู่ ESG รองรับการเปลี่ยนแปลงเพื่อพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน และ BCG เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ค่าธรรมเนียมค้ำประกันเริ่มต้นที่ 1.5% ต่อปี 4 ปีแรกฟรีค่าธรรมเนียม! จะเห็นได้ว่าภายใต้ดีไซน์โปรดักต์เป็นเซกเมนต์ต่างๆ ทำให้ SMEs สามารถเข้าถึงสินเชื่อและการค้ำประกันของ บสย. ได้ดีขึ้น”
ด้านการช่วยเหลือลูกหนี้ ของ บสย. ผ่านมาตรการ 3 สี ม่วง เหลือง เขียว ที่เน้นให้ลูกหนี้สามารถกลับไปเป็นลูกหนี้ปกติของสถาบันการเงินได้เร็วขึ้น มีจุดเด่นคือ ตัดต้นก่อนตัดดอก เมื่อภาระเงินต้นหมดเร็วจะทำให้ภาระดอกเบี้ยลดน้อยลง อีกทั้ง มีความยืดหยุ่น จากการคิดอัตราดอกเบี้ยผ่อนชำระ 0% ผ่อนยาว 7 ปี ผ่อนค่างวดเริ่มต้น 500 บาท
“ตั้งแต่เปิดมาตรการ 3 สี เมื่อต้นปี 2565 ปัจจุบันเราปรับโครงสร้างหนี้ให้กับลูกหนี้ผ่านมาตรการมากกว่า 10,000 ราย นับเป็นเม็ดเงินกว่า 4 พันล้านบาท ถือเป็นมาตรการที่ช่วยเหลือลูกหนี้จริงๆ และหลายรายที่ บสย. ลงพื้นที่ต่างขอบคุณที่ทำให้หนี้เขาหมดเร็ว ขณะเดียวกันก็มีกำลังใจในการชำระคืนด้วย
การวางกลยุทธ์การแก้หนี้ เราทำงานเชิงรุกมากขึ้น ทุกครั้งที่ออกบูธ ทั้งภายใต้แคมเปญของรัฐบาล อย่าง มหกรรมรวมใจแก้หนี้ หรือ มันนี่ เอ็กซ์โป พบว่า ลูกหนี้รายเล็กที่สุด Micro SMEs สินเชื่อรายละแสนกว่าบาท จนถึงลูกหนี้รายใหญ่สินเชื่อหลายล้านบาท เข้ามาขอคำปรึกษาผ่านบูธของ บสย. และเราก็จะแนะนำให้ลูกหนี้รู้จักศูนย์ที่ปรึกษาทางการเงิน บสย. F.A. Center
แต่ถ้าไม่อยากเข้ามาพูดคุยแบบ Fact To Fact เราใช้ Digital Technology เป็นตัวขับเคลื่อนการค้ำประกันสินเชื่อ รวมถึงขับเคลื่อนองค์กร ภายใต้คอนเซ็ปต์ “บสย. Fast & First รวดเร็ว รอบคอบ ที่หนึ่งในใจ SMEs” ให้บริการผ่าน LINE OA ทำให้ผู้ประกอบการและ บสย. เข้าถึงกันได้ง่ายขึ้น แค่แอดไลน์เป็นเพื่อนกับเรา ด้วยการเสิร์ชคำว่า @tcgfirst
Advertisement
ในปีนี้การตอบรับสมาชิกเพิ่มขึ้นเกือบ 100% จาก 13,000 ราย เป็น 30,000 ราย และบริการที่ได้รับการตอบรับมากที่สุดคือ การตรวจสุขภาพทางการเงิน รวมถึงยังมีโปรแกรมลงทะเบียนแก้หนี้ ที่สามารถลงทะเบียนแก้หนี้ผ่านมาตรการ 3 สี จากนั้นทีมหมอหนี้ของ บสย. จะติดต่อกลับไป”
“เราต้องการให้ SMEs ที่อยู่ในพอร์ตของ บสย. 800,000 ราย สามารถเข้าถึงองค์ความรู้ด้านการเงิน การวางแผนธุรกิจ จากความร่วมมือของหน่วยงานต่างๆ เช่น สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือมหาวิทยาลัยชั้นนำ ล่าสุดได้จัดโครงการ “บสย. SMEs Business School”
หรือ SMEs Champion ที่ประสบความสำเร็จสามารถเข้าใช้พื้นที่ศูนย์การเรียนรู้แบ่งปันองค์ความรู้ให้กับผู้ประกอบการรายใหม่ได้ โดยศูนย์ตั้งอยู่ที่อาคารชาญอิสระ2 ซึ่งเป็นออฟฟิศสำนักงานใหญ่ของ บสย.”
นายสิทธิกร กล่าวถึงนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล Digital Wallet ว่า “พอร์ตการค้ำประกันของ บสย. 3 อันดับแรกสอดคล้องกับทิศทางการขับเคลื่อนประเทศ ดังนั้น เมื่อรัฐบาลออกนโยบาย Digital Wallet ผู้ประกอบการทุกกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มบริการ การท่องเที่ยว การบริโภคภายในประเทศ เมื่อได้รับการเข้าถึงสินเชื่อพร้อมการค้ำประกันจาก บสย. คิดว่าจะเป็นส่วนเติมเต็มให้นโยบายนี้”
สุดท้าย แผนการดำเนินงาน ในปี 2567 นายสิทธิกร กล่าวว่า “บสย. ยังเน้นการดำเนินงาน 3 ส่วน ได้แก่ กองหน้า การเป็นศูนย์ที่ปรึกษาด้านการเงิน F. A. Center กองกลาง การออกแบบผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ทุกเซกเมนต์ รวมถึงช่วย SMEs เข้าถึงสินเชื่อและการค้ำประกันสินเชื่อด้วยดิจิทัลได้ง่ายขึ้น และ กองหลัง การช่วย SMEs ปรับโครงสร้างหนี้ผ่านมาตรการ 3 สี”
