จากกรณีคนร้ายก่อเหตุงัดหน้าต่างบ้านพักของนางศศิกร รื่นสุข อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 22/4 ม.4 ต.บึงคอไห อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ก่อนบุกเข้าไปรื้อค้นทรัพย์สินภายในห้องนอนของลูกสาว และขโมยเอาตู้เซฟซึ่งเก็บทรัพย์สินไว้ ทั้งสร้อยคอทองคำ 1 เส้น สร้อยข้อมือทองคำ 1 เส้น แหวนทอง 2 วง แหวนเพชร 2 วง และเงินสดจำนวนหนึ่ง รวมมูลค่ากว่า 150,000 บาท ซึ่งเหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 23 เม.ย.ที่ผ่านมา

ต่อมาจากการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองสิบสอง จ.ปทุมธานี ทราบว่าผู้ก่อเหตุได้นำตู้เซฟไปให้เพื่อนร่วมแก๊งอีกคน ซึ่งเป็นคนชี้เป้าหมายว่าบ้านหลังดังกล่าวมีตู้เซฟ โดยขับรถจักรยานยนต์ สีเหลือง มารอรับตู้เซฟที่ได้มีการนัดหมายไว้ และหลบหนีไปทางคลองสิบหก ก่อนจะถูกชาวบ้านช่วยกันจับกุมตัวไว้ได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางไว้ ส่วนคนร้ายที่เป็นผู้ลงมือก่อเหตุงัดบ้านในครั้งนี้ ยังไม่สามารถติดตามจับกุมตัวได้ และอยู่ระหว่างเร่งติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 25 เม.ย. คนร้ายซึ่งเป็นผู้ต้องหาที่ถูกควบคุมตัวอยู่ในห้องขังของสภ.คลองสิบสอง ได้แหกห้องขังหลบหนีออกไปได้ ซึ่งจากการตรวจสอบพบร่องรอยการตัดคล้ายมีการเลื่อยที่ตัวคลองกุญแจห้องขังออก โดยขณะเกิดเหตุไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่บริเวณห้องขัง ทำให้คนร้ายหลบหนีไปได้ ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่า คนร้ายที่หลบหนีไปเคยทำงานรับจ้างล้างแอร์ตามบ้านต่างๆ และเคยเข้าไปล้างแอร์ภายในบ้านของผู้เสียหายรายนี้ด้วย จึงทราบว่าบ้านหลังดังกล่าวมีตู้เซฟและมีทรัพย์สิน

จากการสอบถามนางศศิกร ผู้เสียหาย ให้การว่า เมื่อวันเกิดเหตุตนออกไปทำงาน และลูกสาวซึ่งกลับมาจากโรงเรียนในช่วงบ่าย และเมื่อเข้าไปภายในบ้านก็พบว่าหน้าต่างห้องนอนซึ่งอยู่หลังบ้านมีร่องรอยถูกงัดจนหน้าต่างพังเสียหายและเปิดทิ้งไว้ จากนั้น ลูกสาวจึงโทรศัพท์มาหาตน ก่อนจะเข้าไปดูภายในห้องนอนอีกห้องซึ่งเป็นห้องนอนของตน จึงพบว่าตู้เซฟถูกคนร้ายยกไป จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว

ด้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการตั้งคณะกรรมการสอบสวนเกี่ยวกับการหลบหนีของผู้ต้องหาจากห้องขังไปได้และติดตามตัวผู้ก่อเหตุอย่างเร่งด่วน ซึ่งจะได้เร่งดำเนินติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน