เมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 26 เม.ย. ที่โรงแรมมณฑียร ถ.สุรวงศ์ แขวงสี่พระยา เขตบางรัก กทม. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. พร้อมด้วยพล.ต.ต.ประเสริฐ เงินยวง ผบก.ทท.1, พ.ต.อ.พนัญชัย ชื่นใจธรรม รอง ผบก.ทท.2, พ.ต.อ.อาชยน ไกรทอง รอง ผบก.ทท.1, พ.ต.อ.นิธิธร จินตกานนท์ รอง ผบก.สปพ. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ จากกองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ 191,ตำรวจท่องเที่ยว,หน่วยอรินทราช 26, หน่วยรบพิเศษสยบไพรี, เจ้าหน้าที่บช.ปส. และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ร่วมกันแถลงผลจับกุมกลุ่มชาวต่างชาติที่เข้ามาอยู่ในประเทศโดยแฝงตัวเป็นนักท่องเที่ยว เพื่อเข้ามาก่ออาชญากรรมข้ามชาติ กลุ่มกระทำผิดอาชญากรรมต่างๆ และยาเสพติด รวมถึงกลุ่มชาวต่างชาติพักอาศัยอยู่ในประเทศเกินกว่าวีซ่ากำหนด ตามยุทธการ X-RAY OUTLAW FOREIGNER ครั้งที่ 9

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ในวันนี้มีการนำกำลังเจ้าหน้าที่จากทั่วประเทศปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายบุคคลต่างด้าวที่อยู่ในประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย จำนวน 118 จุด สามารถทำการจับกุมผู้ต้องหาได้ทั้งหมด 99 ราย ส่วนใหญ่เป็นสัญชาติเมียนมา อินเดีย แคเมอรูน และไนจีเรีย ซึ่งผู้ต้องหาทั้งหมดจากการตรวจสอบส่วนใหญ่เป็นบุคคลหลบหนีเข้าเมืองกว่า 60 ราย และและอยู่เกินกว่าวีซ่ากำหนดอีกประมาณ 20 ราย

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังสามารถจับกุม นายเอสซีโอชา เอ็นนัมดิลัคกี้ อายุ 35 ปี ชาวไนจีเรีย ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 138/2561 ลงวันที่ 10 เม.ย. 2561 ในข้อหามียาเสพติดให้โทษประเภท ๒ (โคคาอีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาตซึ่งจากการตรวจสอบนายเอสซีโอชา ถือวีซ่าประเภทคนอยู่ชั่วคราวและทำทีอุปการะเลี้ยงดูครอบครัวคนไทย

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ยุทธการดังกล่าว จะมีการดำเนินการแบบนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อกดดันไม่ให้บุคคลเหล่านี้เข้ามาก่อเหตุอาชญากรรมข้ามชาติ อย่างไรก็ตาม ในวันนี้มีการประสานงานกับเจ้าของโรงเรียนนานาชาติ เพื่อเข้าตรวจสอบครูชาวต่างชาติที่อาจมีเหล่าอาชญากรแฝงตัวเข้ามาสอนหนังสือและสอนศาสนาในประเทศไทย จึงอยากฝากเตือนให้โรงเรียนที่มีการนำคุณครูต่างชาติเข้ามาสอบภาษาขอให้มีการตรวจสอบการขอวีซ่าอย่างละเอียด รวมถึงการขอวีซ่าเรียนหนังสือ เนื่องจากหากพบว่ามีการประทำผิดกฎหมายผู้ที่เป็นเจ้าของโรงเรียนจะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายด้วย

รอง ผบช.ทท. กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ จากการปฏิบัติการ 1,024 ครั้ง สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้กว่า 4,000 ราย โดยผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมในการปฏิบัติการทุกครั้งที่ผ่านมา ได้มีการประสานงานกับสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) เพื่อลงบัญชีดำห้ามเข้าประเทศและอนุมัติขอวีซ่าอย่างถาวร พร้อมทั้งผลักดันให้ออกนอกประเทศอย่างไวที่สุด ดังนั้น จึงสบายใจได้ว่ากลุ่มต่างชาติที่กระทำผิดในประเทศไทยจะไม่กลับเข้ามาก่อเหตุในประเทศไทยอีกแน่นอน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน