จักรยานร่วงบนทางด่วน! อีกคันเบรกไม่อยู่ พุ่งชนท้ายเต็มแรง เด็กเล็ก-ผญ. ติดคาซากรถ

วันที่ 28 เม.ย. ร.ต.อ.ฉัฎชัย จันทาพูน รองสว.(สอบสวน) สน.ทางด่วน 1 รับแจ้งเหตุรถยนต์ชนกันมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนหลายรายติดอยู่ภายในรถ เหตุเกิดบนทางพิเศษฉลองรัช ช่วงรามอินทรา- อาจณรงค์ ขาออก ช่วงคริสตัลพาร์ค แขวงและเขตลาดพร้าว กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมหน่วยกู้ชีพนเรนทร และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุอยู่บนทางพิเศษฉลองรัช ช่วงรามอินทรา- อาจณรงค์ ขาออก ซึ่งมี 3 ช่องก่อนมุ่งหน้าทางลงเกษตร-นวมินทร์ 1 กิโลเมตร

ที่ช่องขวาสุด เจ้าหน้าที่พบรถยนต์ยี่ห้อเชฟโรเลต รุ่นซาฟีร่า สีทอง ทะเบียน ษง 3726 กรุงเทพฯ อยู่ในสภาพท้ายรถพังยับเยิน ยุบจนถึงห้องโดยสาร ภายในรถพบผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 3 ราย ทราบชื่อ 1.น.ส.สุดาวรรณ์ ศรีวิบูรณ์ อายุ 29 ปี มีบาดแผลตามร่างกาย ถูกนำตัวส่งรพ.เปาโลเกษตร 2.ด.ญ.ณัทร (นามสมมติ) อายุ 4 ปี 3.น.ส.สุนิสา ศรีวิบูลย์ อายุ 34 ปี กู้ชีพให้การช่วยเหลือพร้อมนำอุปกรณ์ตัดถ่างงัดรถ ใช้เวลากว่า 10 นาที จึงสามารถนำตัวคนเจ็บออกมาได้ เบื้องต้นปฐมพยาบาลพบว่าขาทั้ง 2 ข้างหัก เจ้าหน้าที่จึงรีบนำตัวส่งรพ.รพ.เพชรเวช

ห่างออกไปราว 5 เมตร ด้านหลังรถยนต์เก๋งเชฟโรเลต บริเวณช่องทางที่ 2 พบรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นฟอร์จูนเนอร์ สีดำ หมายเลขทะเบียน 5 กษ 2206 กรุงเทพฯ สภาพกระโปรงหน้ารถพังยับ ถึงล้อหน้า จอดขวางในช่องทางที่ 2 และ3 เจ้าหน้าที่จึงต้องทำการปิดการจราจรทั้งหมด เพื่อทำการเคลื่อนย้ายรถออกจากจุดเกิดเหตุ

จากการสอบสวนนายจารุ กรณ์อยู่ อายุ 40 ปี คนขับรถยนต์เชฟโลเลต ให้การว่าตน พร้อมครอบครัวรวม 4 คนกำลังจะเดินทางไปร่วมงานศพ ที่จ.สุโขทัย โดยใช้ทางด่วนซึ่งก่อนเกิดเหตุตนขับมาในช่องทางขวาสุด ก่อนเกิดเหตุได้สังเกตเห็นรถจักรยานที่ตนผูกไว้บนหลังคาหล่นลงมาจากรถ ตนจึงพยายามชะลอรถเพื่อจอดรถเข้าช่องทางซ้าย แต่ยังไม่ทันจะชิดขอบทาง รถของคู่กรณีที่ขับตามหลังมาได้พุ่งมาชนท้ายรถตนอย่างจังจนรถหมุนไปฟาดกับแท่งแบริเออร์คอนกรีตข้างทาง จนทำให้ภรรยากับลูกสาวและน้องสาวตนได้รับบาดเจ็บ

ร.ต.อ.ฉัฎชัย กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า รถยนต์เชฟโลเรต ที่วิ่งมาในช่องทางขวาสุดทำจักรยานที่ผูกไว้บนหลังคาหล่น และได้ชะลอรถเพื่อที่จะเข้าซ้าย แต่เนื่องจากรถที่ขึ้นมาใช้บนทางด่วนใช้ความเร็วสูงจึงทำให้รถที่ตามหลังมาเบรกไม่ทันชนท้ายรถ ทั้งนี้จะต้องทำการสอบปากคำคนขับรถทั้ง 2 คันอีกครั้ง เบื้องต้นจึงยังไม่ได้แจ้งข้อหากับผู้ใด และต้องรอตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อดูสาเหตุ หากพบว่าเป็นความประมาทของผู้ใดก็จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป