เมื่อเวลา15.00 น. วันที่ 28 เม.ย. ที่ณาปนสถาน วัดป่าเทพนิมิตรวนาราม บ้านหนองไฮ ต.พระลับ อ.เมือง จ.ขอนแก่น นายอลงกต วรกี ปลัดจังหวัดขอนแก่น พร้อมด้วย พ.ต.อ.จรูญ นวมทอง รอง ผบก.ภ.จว.ขอนแก่น พ.ต.อ.จำลอง สุวลักษณ์ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น ร่วมเป็นประธานในพิธีณาปนกิจศพ น.ส.มณีเนตร เจริญเหง่า ผู้เสียชีวิตจากการเกิดอุบัติเหตุขณะขี่รถจยย.กลับบ้านพัก ก่อนถูกสายสัญญาณอินเตอร์เน็ตเกี่ยวเข้าที่ลำคอเกือบขาดจนเสียชีวิตคาที่ โดยมีคนในครอบครัว ญาติ พี่น้อง และคนในชุมชน รวมไปถึงผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน ร่วมวางดอกไม้จันทน์และเคารพศพเป็นครั้งสุดท้าย แต่ไม่พบผู้แทนจากบริษัทสายสัญญาณอินเตอร์เนตชื่อดัง เข้าร่วมในพิธีณาปนกิจศพแต่อย่างใด (สยอง! สาวขี่จยย.โดนสายอินเตอร์เน็ตเกี่ยวคอขาด ติดคาหมวกกันน็อก ดับคาที่)

พ.ต.อ.จำลอง กล่าวว่า พนักงานสอบสวนได้ทำสำนวนคดีความดังกล่าวนี้อย่างรัดกุม ละเอียดและรอบครอบ คลอบคลุมทุกมิติ ขณะนี้แนวทางการสืบสวนสอบสวนมุ่งประเด็นไปที่ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือ กฟภ. และบริษัทอินเตอร์เน็ต ซึ่งเจ้าของสายสัญญาณต้นเหตุของการเกิดเหตุ ว่าประมาท หรือมีข้อผิดพลาดหรือจุดบกพร่องอย่างไร ซึ่งทั้งหมดจะถูกบรรจุไว้ในแนวทางของการสืบสวนสอบสวน รวมทั้งการตรวจพิสูจน์จากสำนักงานพิสูจน์หลักฐาน 4 ขอนแก่น ที่ต้องรอสรุปผลการตรวจสอบทางนิติทยาศาสตร์ให้แล้วเสร็จภายใน 2 สัปดาห์ โดยเฉพาะสายสัญญาณอินเตอร์เน็ตที่ได้มีการเก็บไปทำการตรวจสอบด้วย ซึ่งสายดังกล่าวนั้นระบุชื่อเจ้าของชัดเจน มีร่องรอยของเลือด เส้นผม และหลักฐานต่างๆ ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการตรวจพิสูจน์ในภาพรวม


พ.ต.อ.จำลอง กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม วันที่ 3 พ.ค. ที่จะถึงทางบริษัทเจ้าของสายสัญญาณอินเตอร์เน็ตต้นเหตุจะเดินทางมาพบกับพนักงานสอบสวน โดยเบื้องต้นได้ตั้งข้อกล่าวหา กระทำการประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย แต่ถึงอย่างไร การสอบสวนต้องพุ่งไปในประเด็นของต้นเหตุก่อน ซึ่งขณะนี้คือสายสัญญาณดังกล่าว ที่ต้องไปดูว่า กฟภ. มีการให้บริษัทถูกต้องหรือไม่ มีการติดตั้งถูกต้องตามระเบียบและกฎหมายหรือไม่ มีการตรวจสอบมาตรฐานหรือตรวจสอบการติดตั้งที่เป็นไปตามมาตรฐานหรือไม่ รวมทั้งในเรื่องของการติดตั้งในจุดที่เกิดเหตุนั้นเป็นการติดตั้งโดย กฟภ. หรือ บริษัทฯ ทั้งหมดจะถูกกำหนดไว้ในสำนวนการสอบสวนที่ต้องสอบปากคำทั้งหมด

พ.ต.อ.จำลอง กล่าวอีกว่า ขณะที่รถบรรทุก 10 ล้อ ที่ปรากฎในภาพจากกล้องวงจรปิดนั้น ขณะนี้ชุดสืบสวนได้ทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดตลอดเส้นทาง ถ.เหล่านาดี เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูล โดยจะต้องตรวจสอบทุกกล้องรวมทั้งติดตามหาเจ้าของรถยนต์ 10 ล้อ คันดังกล่าว ซึ่งเชื่อว่าเป็นรถที่ใช้ในการขนส่งของบริษัทขนส่งเอกชน โดยขณะนี้ในสำนวนการสอบสวนหรือข้อมูลใดๆ ยังคงไม่ขอเปิดเผยมากนัก ซึ่งยืนยันในการให้ความเป็นธรรมทุกฝ่ายคือนความถูกต้องและความยุติธรรมให้กับผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น”

ขณะที่ น.ส.วรพรณ เบญจวรกุล ทนายความ กล่าวว่า ครอบครัวของผู้เสียชีวิตนั้นยังคงไม่พร้อมที่จะพูดคุยหรือเจรจากับบริษัทฯเจ้าของสายสัญญาณโทรศัพท์มือถือในวันที่ 3 พ.ค.ตามที่นัดหมายผ่านเจ้าหน้าที่ตำรวจ เนื่องจากสามีของผู้เสียชีวิตนั้นจะต้องเดินทางไปพบแพทย์ตามการนัดหมาย อีกทั้งครอบครัวยังคงทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและต้องจัดการในเรื่องต่างๆหลังครอบครัวขาดเสาหลักไป ในส่วนของคดีอาญานั้นเป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะต้องดำเนินการไปตามกฎหมาย ทั้งหมดจะต้องนำระเบียบและข้อกฎหมายมาดูกัน

น.ส.วรพรณ กล่าวต่อว่า ขณะนี้คู่กรณีของผู้เสียชีวิตคือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและบริษัทเจ้าของสายสัญญาณอินเตอร์เน็ต ทั้งหมดจะเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ขณะที่คดีแพ่งจะต้องดูในเรื่องของค่าเสียประโยชน์และสิทธิอันพึงจะได้ เนื่องจากผู้ตายเป็นเสาหลักของครอบครัว ประเด็นนี้ครอบครัวจะสู้ให้ถึงที่สุดบนพื้นฐานของความถูกต้อง เพื่อไม่ให้เกิดเหตุกรณีในลักษณะเช่นนี้เกิดขึ้นมาอีก เพราะเรื่องสายไฟฟ้า สายสัญญาณต่างๆที่พาดกันอย่างระโยงระยางอยู่ทั่วไปหมดนั้นอาจจะเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้อย่างง่าย ถ้าโชคดีก็มีผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิตแต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นมีผู้เสียชีวิต จึงเป็นคดีที่สังคมไทยต้องหันมาใส่ใจในเรื่องภัยใกล้ตัวกันเพิ่มมากขึ้นด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่าในช่วงก่อนการประกอบพิธีณาปนกิจศพของผู้เสียชีวิตนั้น มีการพูดคุยกันของคนในชุมชนโดยเฉพาะกับครอบครัวของผู้เสียชีวิตถึงเหตุการณ์สะเทือนขวัญในช่วงกลางดึกของคืนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นคืนสุดท้ายของการสวดพระอภิธรรมศพ โดยหลังจากเสร็จสิ้นพิธีการทางศาสนาแล้วนั้น ครอบครัวได้นอนเฝ้าศพอยู่ภายในศาลาวัด โดยมีพี่สาว ญาติพี่น้องนอนอยู่บริเวณด้านหน้าศพ ภายในศาลาพักศพ โดยมีการปิดประตูไว้อย่างแน่นหนา แต่อยู่ๆก็มีเสียงคล้ายคนเขย่าประตูศาลาพักศพด้านข้างและด้านหน้าอย่างรุนแรงหลายครั้ง จนทุกคนตื่นขึ้นมาด้วยความตกใจ เพราะกลัวว่าจะมีคนร้ายเข้ามาก่อเหตุใดๆแต่เมื่อตรวจสอบก็ไม่พบใคร จึงพากันนอนหลับต่อไปจากนั้นพี่สาวของผู้เสียชีวิตได้เดินไปเข้าห้องน้ำ ก็มีเหตุการณ์คล้ายคนมาเขย่าประตูห้องน้ำด้วยพี่สาวจึงพูดไปว่า ไม่ต้องกังวลใจใดๆครอบครัวพี่และญาติพี่น้องจะดูแลกันต่อไปขอให้ไปสู่สุขคติ ก่อนที่เหตุการณ์จะกลับเข้าสู่ปกติ ซึ่งต่างก็เชื่อกันว่าเป็นความห่วงของผู้ตายที่มีต่อครอบครัว เนื่องจากผู้ตายเป็นเสาหลักของบ้าน แต่กลับมาเกิดอุบัติเหตุเกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิดดังกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน