ชาวบ้าน ต.บึงนาเรียง อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ หวาดผวาหนัก หลังเกิดเหตุโจรแสบงัดบ้านสองตายาย หอบเงินขายส้มตำและทองคำรูปพรรณรวมมูลค่ากว่า 6 แสนหายเข้ากลีบเมฆ เผยเป็นบุคคลอันตราย เป็นคนร้ายมืออาชีพ ที่แฝงตัวก่อเหตุในพื้นที่หลายครั้ง เชื่อเป็นคนเดียวกัน เพราะเคยเกิดเหตุลักษณะเดียวกันโดยงัดบ้านพ่อค้าขายลอตเตอรี่หมู่บ้านใกล้เคียง ขโมยเงินไปกว่า 1 แสนบาท แต่ยังลอยนวล ด้านตำรวจท้องที่แจงไม่ได้นิ่งนอนใจจัดสายสืบสายตรวจตำบลตระเวนหาเบาะแสคนร้ายตลอด 24 ชั่วโมง

จากกรณีนายสุริยันต์ ภูลาหา อายุ 70 ปี และนางครีม ภูลาหา อายุ 67 ปี สองสามีภรรยา ชาวบ้านหนองบัว หมู่ 6 ต.บึงนาเรียง อ.ห้วยเม็ก จ.กาฬสินธุ์ ถูกโจรแสบบุกงัดบ้านขโมยเงินไป 500,000 แสนบาท พร้อมทองคำรูปพรรณ น้ำหนักรวม 7 บาท มูลค่า 140,000 บาท ซึ่งเป็นเงินและทรัพย์สินที่เก็บออมมาทั้งชีวิต จากการขายส้มตำและขายอ้อย เพื่อเตรียมซื้อที่ดินให้ลูกทำกินในบั้นปลายชีวิต ซึ่งหลังเกิดเหตุได้ไปแจ้งความกับตำรวจ สภ.ห้วยเม็ก แต่ยังจับคนร้ายไม่ได้ จึงเขียนป้ายขอความเห็นใจให้คนร้ายนำเงินมาคืนพร้อมให้อภัย ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

ล่าสุด วันที่ 29 เมษายน 2561 ผู้สื่อข่าว จ.กาฬสินธุ์ ได้รับการประสานจากนายสุริยันต์ และนางครีม 2 สามีภรรยาผู้เสียหาย โดยแจ้งข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อเป็นเบาะแสในการติดตามตัวคนร้าย และให้ชาวบ้านได้ระมัดระวัง เพื่อไม่ให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นอีก

นางครีม ภูลาหา กล่าวว่าในวันที่เกิดเหตุ เป็นวันที่ 25 เมษายน ช่วงเวลาประมาณ 12.00 น. ผู้ที่เป็นพยานอยู่ใกล้เหตุการณ์คือหลานชายที่อยู่บ้านฝั่งตรงข้ามกัน ที่ทีแรกได้ยินเสียงรถจักรยานยนต์ขับผ่านหน้าบ้าน และไปดับเครื่องจอดซุ่มที่บริเวณ 4 แยก ห่างจากบ้านที่ก่อเหตุประมาณ 30 เมตร จากนั้นเห็นผู้ชายรูปร่างผอมสูง แต่งกายคล้ายคนงานตัดอ้อย สวมหมวกไหมพรมสีน้ำตาลเป็นไอ้โม่งเดินผ่านไป แต่ก็ไม่ได้สงสัยว่าเป็นมิจฉาชีพ เพราะชาวบ้านทั่วไปก็ใส่เสื้อผ้าลักษณะนี้ เนื่องจากประกอบอาชีพรับจ้างตัดอ้อยกันเป็นปกติอยู่แล้ว และไม่ได้สังเกตว่าเดินอ้อมไปทางหลังบ้านเพื่อก่อการร้ายดังกล่าว ซึ่งรูปพรรณสัณฐานคนร้ายนี้ ก็ได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มาตรวจที่เกิดเหตุแล้ว ขณะที่ถึงวันนี้ย่างเข้าวันที่ 4 ที่เกิดเหตุ ยังตามจับคนร้ายไม่ได้

ด้านนายสุริยันต์ ภูลาหา กล่าวว่า หลักฐานที่เจ้าหน้าที่พบคือมีดพร้าที่ถูกวางทิ้งหลังบ้านใกล้หน้าต่างที่คนร้ายงัดเข้าไป และธนบัตรราคา 20 บาทหนึ่งใบเท่านั้น ส่วนรอยนิ้วมือแฝงค่อนข้างเลือนราง เพราะคนร้ายอาจจะสวมถุงมือขณะก่อการ และมีการทำลายร่องรอย เหมือนเป็นการก่อการของเป็นโจรมืออาชีพ ซึ่งการก่อเหตุดังกล่าว มีลักษณะเหมือนกับที่เคยเกิดครั้งหนึ่ง เมื่อประมาณกลางเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งคนร้ายได้ทำการงัดบ้านพร้อมขโมยเงินของผู้เสียหายไปจำนวนกว่า 120,000 บาท

“โดยเกิดขึ้นที่บ้านกุดท่าลือ ต.บึงนาเรียง หมู่บ้านใกล้เคียงห่างจากบ้านหนองบัว 1 กม. ซึ่งครั้งนั้น คนร้ายเข้าไปงัดบ้านพ่อค้าขายลอตเตอรี่ ที่หลังจากกลับมาจากขายลอตเตอรี่แล้ว ได้นำเงินไปเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้าชั้นล่างของบ้าน ก่อนที่จะไปร่วมงานบุญประจำหมู่บ้านที่อยู่ห่างจากบ้านเพียง 50 เมตร คนร้ายได้อาศัยจังหวะนั้น ทำการงัดหน้าต่างเข้าไปขโมยเอาเงินจากการจำหน่ายลอตเตอรี่ไปประมาณ 120,000 บาท ซึ่งขณะนี้ตำรวจยังไม่สามารถจับคนร้ายได้” นายสุริยันต์กล่าว

อย่างไรก็ตาม จากที่ได้เกิดเหตุการณ์คนร้ายบุกงัดบ้านกลางวันแสกๆ ถึง 2 ครั้งซ้อน และคาดว่าจะมีเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ทั้งที่ไปแจ้งความและไม่แจ้งความ เพราะอาจจะเสียหายเล็กน้อยและไม่ได้ทรัพย์สินไป โดยคนร้ายอาศัยช่วงเจ้าของบ้านไม่อยู่ลงมือก่อการ ขณะที่คนร้ายยังลอยนวล จึงทำให้ชาวบ้านหวาดวิตก เชื่อว่าคนร้ายนั้นเป็นโจรมืออาชีพ เพราะมีพฤติกรรมขณะก่อเหตุเหมือนกันคือ ช่วงเวลากลางวันและทิ้งธนบัตรราคา 20 บาทไว้ดูต่างหน้า 1 ใบ จึงคาดว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนในพื้นที่ และยังแฝงตัวอยู่ในชุมชน เพราะรู้ความเคลื่อนไหวของเจ้าของบ้าน โดยคอยรอจังหวะที่เจ้าของบ้านไม่อยู่ก่อการได้ตลอดเวลา ถือเป็นบุคคลอันตราย จึงวิงวอนเจ้าหน้าที่เร่งติดตามคนร้ายรายนี้มาดำเนินคดีด้วย เพราะทุกวันนี้ชาวบ้านรู้สึกหวาดผวามาก

ขณะที่ พ.ต.อ.ธนาวัชร ดีบุญมี ผกก.สภ.ห้วยเม็ก กล่าวว่า จากกรณีคนร้ายสวมหมวกไหมพรมเป็นไอ้โม่ง ก่อการลักทรัพย์สินชาวบ้าน บ้านหนองบัวและบ้านกุดท่าลือนั้น ทางเจ้าหน้าที่ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้จัดกำลังสายสืบ ลงพื้นที่แสวงหาข้อมูลเชิงลึก พร้อมจัดกำลังสายตรวจตำบล ตระเวนหาข่าวตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งในกลุ่มชาวบ้าน วัยรุ่น คนงานตัดอ้อย เพื่อหาเบาะแสคนร้าย และสร้างความอุ่นใจให้กับชาวบ้าน เป็นการป้องกันไม่ให้เหตุร้ายเกิดขึ้นอีก

“ทั้งนี้ เมื่อวานนี้ (28 เม.ย.) เวลา 15.30 น.ได้มอบหมายพนักงานสอบสวน เรียกผู้เสียหาย คือนายสุริยันต์ และนางครีม 2 สองสามีภรรยา รวมทั้งชาวบ้านที่อยู่ใกล้บ้านเกิดเหตุ มาสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมและความแม่นยำในการสืบสวน อย่างไรก็ตาม เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ชาวบ้านเองก็จะต้องรู้จักป้องกันตัวเอง โดยไม่เก็บทรัพย์สินของมีค่าไว้ในบ้าน ที่จะเป็นการจูงใจคนร้ายก่อเหตุลักขโมย นอกจากนี้หากพบบุคคลแปลกหน้า หรือผู้ต้องสงสัยเข้ามาในหมู่บ้าน สามารถแจ้งผู้นำชุมชน สายตรวจตำบล หรือ สภ.ห้วยเม็กตลอด 24 ชั่วโมง” พ.ต.อ.ธนาวัชร กล่าวในที่สุด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน