วันที่ 2 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาการบุกรุกครอบครองพื้นที่ป่าเขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ที่กองทัพภาคที่ 3 ขอใช้จากกรมป่าไม้เนื้อที่ 126,260 แสนไร่ แต่ภายหลังที่ดินถูกซื้อขายเปลี่ยนมือกระทั่งตกไปในในมือนายทุนและมีการก่อสร้างรีสอร์ทบ้านพักหรูจนผุดขึ้นเต็มเขาค้อ โดยล่าสุดมีรายงานจากแหล่งข่าวคณะทำงานติดตามและแก้ไขปัญหาการครอบครองที่ดินอำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ กองทัพภาคที่ 3 ว่า หลังจากทางคณะทำงานฯได้จัดทำแผนการปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมาย กับกลุ่มรีสอร์ททั้งในและนอกแปลงที่ดินราษฎรอาสาสมัคร(รอส.)ซึ่งอยู่ในเขตป่า รวมทั้งรอส.ที่กระทำผิดเงื่อนไขเสนอไปยังเลขาธิการ กอ.รมน.ภาค 3 พร้อมจัดอันดับความเร่งด่วนเพื่อบังคับใช้กฎหมายกับกลุ่มรีสอร์ทและรอส.เหล่านี้ ล่าสุดแผนปฏิบัติการฯได้รับความเห็นชอบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และโดยกลุ่มเป้าหมายแรกได้แก่ 135 รีสอร์ทนอกแปลง รอส.ซึ่งจะเริ่มเปิดปฏิบัติการตั้งแต่เดือนพฤษภาคมนี้เป็นต้นไปถึงเดือนกรกฎาคมนี้

แหล่งข่าวจากคณะทำงานฯกล่าวว่า ในแผนปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายนั้น ทางเจ้าหน้าที่ทหารและป่าไม้จะร่วมกันเป็นผู้เสียหาย เพื่อเข้าแจ้งความกล่าวโทษรีสอร์ทนอกแปลงรอส.โดยเบื้องต้นกำหนดไว้สัปดาห์ละ 10 รายก่อน และอาจเพิ่มเติมจำนวนในภายหลัง โดยจะเริ่มต้นตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2561 ไปจนถึงวันที่ 31 กรกฎาคม 2561 ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีการหารือกับทาง ผกก. สภ.เขาค้อ ซึ่งจะมีการจัดเตรียมพนักงานสอบสวนไว้รับคดีอย่างพอเพียง ขณะเดียวกันทางสำนักบริหารทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 พิษณุโลก ก็อยู่ระหว่างออกคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานและเจ้าหน้าที่รองรับแผนปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว

“ส่วนคีย์เวิร์ดสำคัญคือเรื่องการพิจารณาปลด รอส.นั้น ตอนนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของทางกองทัพฯ โดยเฉพาะในข้อกฎหมายว่าแม่ทัพภาคที่ 3 มีอำนาจในการสั่งปลด รอส.ที่กระทำผิดเงื่อนไขหรือไม่ ส่วนทางดำเนินคดีใหม่กับตึกยักษ์ 3 หลังนั้นก็อยู่ระหว่างรอทางกองทัพฯสั่งปลด รอส.เจ้าของที่ดินก่อนเช่นกัน สำหรับคดีตึกขนาดใหญ่ของรีสอร์ทภูอาบหมอกนั้น เนื่องจากหลักฐานจากคำให้การของรอส.เจ้าของที่ดินชัดเจนว่าได้ขายให้นายทุนไปแล้ว ขณะนี้จึงทำเรื่องเสนอให้ทางกองทัพฯสั่งปลดรอส.รายนี้ไปเรียบร้อยแล้ว เพื่อปิดช่องโหว่ที่ผู้ต้องหาจะใช้เป็นข้ออ้างร่วมทุนหรือเป็นเครือญาติมาต่อสู้คดีอีก”แหล่งข่าวคณะทำงานฯรายนี้กล่าว

ข่าวแจ้งว่า ก่อนหน้านี้ทางคณะทำงาน จ.เพชรบูรณ์ ได้สั่งระดมเจ้าหน้าที่ลงสำรวจการครอบครองที่ดินของรอส. และรีสอร์ทและบ้านพักบนเขาค้อ จากนั้นได้กำหนดจัดอันดับการปฎิบัติไว้ 4 อันดับ เพื่อจะดำเนินการกับกลุ่มหรือบุคคล ที่บุกรุกพื้นที่ป่าเขาค้อ ที่กองทัพภาคที่ 3 ขอใช้จากกรมป่าไม้ ได้แก่ 1. รีสอร์ทนอกแปลง รอส.ที่สำรวจแล้ว จำนวน 135 แห่ง 2.รีสอร์ทนอกแปลงรอส.ที่สำรวจเพิ่มเติม 358 แห่ง 3.รีสอร์ทในแปลง รอส.จำนวน 332 แห่ง และ 4.รอส.ที่กระทำผิดเงื่อนไข จำนวน 1,052 ราย ขณะเดียวกันยังกำหนดเป้าหมายความสำคัญเร่งด่วน ให้แจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มรีสอร์ทรุกป่าที่อยู่นอกแปลงรอส.จำนวน 135 รายเป็นอันดับก่อน จนนำไปสู่การจัดทำเป็นแผนปฎิบัติการนี้ขึ้นมา

ขอบคุณ : มติชนออนไลน์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน