เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 3 พ.ค. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งเหตุมีคนถูกแมลงป่องช้างต่อยถึงตาย ที่หมู่ 4 ต.บ้านมะเกลือ อ.เมือง จ.นครสวรรค์ โดยศพผู้ตายนั้น เจ้าหน้าที่กู้ภัย ต.มหาโพธินำส่งไปที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ เพื่อทำการผ่าตรวจพิสูจน์

จากการสอบถามเจ้าหน้าที่กู้ภัย ทราบว่าเหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 2 พ.ค.61 ผู้ตายชื่อนายสวิง พรชื่น อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่บเลขที่ 1/1 ม.11 ต.บ้านแก่ง อ.เมือง จ.นครสวรรค์ มีบาดแผลเหมือนโดนสัตว์กัดที่ง่ามขา

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อค่ำวันที่ 2 พ.ค. นายสวิงนั่งล้อมวงดื่มสุรากับเพื่อน จากนั้นก็แยกย้ายกันกลับบ้านนอน ซึ่งบ้านของนายสวิงเป็นบ้านชั้นเดียว เป็นบ้านพักคนงาน ต่อมาตี 5 ของวันนี้ เพื่อนได้เข้าไปปลุกนายสวิง เพื่อที่จะชวนไปซื้ออาหารในตลาด พบว่านายสวิงเสียชีวิตแล้ว จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมหน่วยกู้ภัย

จากการตรวจสอบในที่เกิดเหตุไม่พบร่องรอยการต่อสู้ แต่พบแมลงแมงป่องช้างตัวใหญ่ซุกซ่อนอยู่บริเวณง่ามขาผู้ตาย และรอบตัวของผู้ตายมีคราบอาเจียนเปรอะเปื้อนไปทั่วบริเวณ กู้ภัยจึงนำศพส่งโรงพยาบาลดังกล่าวเพื่อทำการตรวจพิสูจน์ต่อไปว่าเสียชีวิตเพราะพิษแมงป่องช้างหรือไม่

ข้อมูลจากวิกิพีเดียระบุว่า แมงป่องช้างมีลักษณะเด่น คือ ลำตัวใหญ่ มีสีเข้ม เช่น สีน้ำตาลเข้ม หรือสีดำ มีก้ามขนาดใหญ่ ลำตัวเรียว ขา 4 คู่ มีส่วนหัวและอกอยู่รวมกัน มีตาบนหัวหนึ่งคู่ และตาข้างอีก 3 คู่ตรงกลางหลัง และขอบข้างส่วนหน้า ตรงปากมีก้ามขนาดเล็ก ๆ อีก 1 คู่ ส่วนถัดมาเป็นปล้อง ประกอบด้วยปล้อง 7 ปล้อง ซึ่งปล้องที่ 3 มีอวัยวะสำคัญคือ ช่องสืบพันธุ์ และมีอวัยวะพิเศษ 1 คู่ มีรูปร่างคล้ายหวี ทำหน้าที่รับความรู้สึกจากการสั่นของพื้นดิน ส่วนสุดท้ายคือส่วนหางเรียวยาว ประกอบด้วยปล้อง 5 ปล้องกับปล้องสุดท้าย คือ ปล้องพิษ มีลักษณะพองกลมปลายเรียวแหลม คล้ายรูปหยดน้ำกลับหัว บรรจุต่อมพิษ มีเข็มที่ใช้ต่อย คือ เหล็กใน สำหรับฉีดพิษ เพื่อล่าเหยื่อและป้องกันตัว

แมงป่องช้าง พบกระจายพันธุ์ทั่วไปในเขตร้อนและกึ่งเขตร้อนในหลายพื้นที่ในทวีปเอเชีย เช่น กัมพูชา, ลาว, ไทย, เวียตนาม, อินเดีย, ศรีลังกา, เนปาล, จีน และทิเบต จนถึงมาเลเซีย, สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย โดยมักจะหลบซ่อนในที่ ๆ ไม่มีแสงสว่าง ปราศจากการรบกวน เช่น ใต้ก้อนหิน, ท่อนไม้ หรือใต้ใบไม้ เป็นต้น ออกหากินในเวลากลางคืน ชอบอุณหภูมิแบบร้อนชื้นประมาณ 20-30 องศาเซลเซียส

แมงป่องช้าง แม้จะมีลำตัวขนาดใหญ่ น่าเกรงขาม แต่ทว่าพิษกลับไม่สามารถทำอันตรายมนุษย์ให้ถึงแก่ชีวิตได้ หลังการผสมพันธุ์แมงป่องช้างตัวเมียจะตั้งท้อง โดยจะมีการขยายตัวของกล้ามเนื้อที่ยึดระหว่างปล้องที่ 3 ถึงปล้องที่ 7 แม่แมงป่องช้างจะตั้งท้องนานประมาณ 7 เดือนถึง 1 ปี จากนั้นจะออกลูกออกมาเป็นตัวในช่วงเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม ช่วงฤดูฝนที่มีอาหารอุดมสมบูรณ์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน