เมื่อวันที่ 4 พ.ค. พ.ต.ท.ปาณเดชา มะโนเลิศ สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร ได้รับแจ้งเหตุว่า มีเหตุยิงกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจกับพ่อค้ายาเสพติด มีผู้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญ 1 ราย อีกทั้งยังมีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บอีก 1 นาย เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 926/58 ข ถ.เศรษฐกิจ ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พล.ต.ท.กิตติพงษ์ เงามุข ผบช.ภ.7, พล.ต.ต.สุรพงษ์ ชัยจันทร์ รองผบช.ภ.7, พล.ต.ต.มานะ อินพิทักษ์ ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร, พ.ต.อ.จำลอง งามเนตร รองผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร, พ.ต.อ.พลัฎฐ์ วิเศษสิงห์ รองผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร, พ.ต.อ.สุระพรรณ นาทวรทัต รองผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกจำนวนหนึ่ง

โดยในการนี้ยังประสานนายพิจิตร โตเร็ว รองอัยการจังหวัดสมุทรสาคร นายรังสรรค์ ทางทอง ปลัดอำเภอฝ่ายปกครองอำเภอเมืองสมุทรสาคร แพทย์หญิงอภิสรา กุลวงษ์ธนโรจน์ แพทย์จากโรงพยาบาลสมุทรสาคร เจ้าหน้าที่วิทยาการ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร เข้าตรวจสอบด้วย

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ เนื้อที่ประมาณ 20 ตารางวา ส่วนผู้ที่ถูกวิสามัญนั้น เป็นลูกชายคนโตของเจ้าของบ้าน ทราบชื่อต่อมาคือ นายศุภรัชฎ (เจ) หงษ์เจริญ อายุ 31 ปี ถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่หน้าอก และลำตัว 2 นัด เสียชีวิตอยู่บนชั้นที่ 2 ของบ้านสภาพศพ ถอดเสื้อและนุ่งกางเกงยางยืดขาสั้นลายสีเขียวดำ ข้างกายพบอาวุธปืนขนาด 6.35 มม. ของผู้เสียชีวิตและกระสุนปืนขนาด 9 มม. และ 11 มม. ตกอยู่รวม 2 ปลอก จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

นอกจากนี้ จากการตรวจค้นภายในห้องนอนของผู้ตายที่อยู่ชั้นล่างของบ้าน ยังพบยาบ้ากว่า 2,000 เม็ด ยาอี 50 เม็ด ยาไอซ์ 4 ถุง น้ำหนักประมาณ 1 ขีด เงินสดจำนวน 35,000 บาท และอาวุธปืนไทยประดิษฐ์อีกหลายกระบอก แต่ทั้งนี้ทางด้านของ พล.ต.ท.กิตติพงษ์ เงามุข ผบช.ภ.7 ก็อนุญาตให้สื่อมวลชนบันทึกภาพได้เฉพาะที่บริเวณด้านล่างเท่านั้น ไม่อนุญาตให้ขึ้นไปถ่ายภาพผู้เสียชีวิตด้านบน เนื่องจากเป็นภาพที่ไม่เหมาะสมต่อการเผยแพร่ต่อสาธารณชน

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนหน้านี้ พ.ต.ท.สุกฤษฎิ์ วิศิษฐ์ชนะชัย รองผกก.สส.ภ.จว.สมุทรสาคร และกำลังเจ้าหน้าที่กองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดสมุทรสาครประมาณ 6-7 คน นำหมายค้นศาลจังหวัดสมุทรสาครเลขที่ ค185/2561 เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่926/58ข ถ.เศรษฐกิจ ต.มหาชัย อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เนื่องเจ้าเป็นบ้านเป้าหมายที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่า นายศุภรัชฎ หงษ์เจริญ มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับการค้าขายยาเสพติดในลักษณะผู้ค้ารายย่อย

ซึ่งขณะเข้าตรวจค้นปรากฏว่า นายศุภรัชฎเห็นตำรวจจึงหนีเข้าไปหลบซ่อนตัวในห้องน้ำ พร้อมกับคาดว่าน่าจะนำยาเสพติดจำนวนหนึ่งเอาไปทิ้งในชักโครกด้วย จากนั้นก็ไม่ยอมออกมา แม้ว่าแม่ของนายศุภรัชฎจะพยายามเรียกให้ออกมาแล้วก็ให้มอบตัว แต่นายศุภรัฐก็ไม่ยอม อีกทั้งยังได้ประกาศด้วยว่าจะไม่ยอมให้ตำรวจจับเข้าคุกอย่างแน่นอน

จากนั้นไม่นานนายศุภรัชฎออกจากห้องน้ำแล้วยิงปืนใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นัด เพื่อเปิดทางหนีขึ้นไปข้างบนบ้าน จนกระสุนปืนถูกที่บริเวณข้อเท้าด้านซ้ายของร.ต.ต.โดม สระทองใจ รองสว.กก.สส.ภ.จว.สมุทรสาคร ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยิงสวนขึ้นไปทันควันเหมือนกัน จนถูกเข้าที่ลำตัวของนายศุภรัชฎเสียชีวิตคาที่ ส่วนร.ต.ต.โดมได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร

จากการตรวจสอบประวัติของนายศุภรัชฎ พบว่าเป็นคนชอบสะสมอาวุธปืนและเคยต้องโทษจำคุกคตียาเสพติดมานาน 3 ปี เพิ่งพ้นโทษออกมาได้ไม่นานนัก แล้วก็หันกลับมาสู่ทางเดิมคือเป็นผู้ค้ายาเสพติดรายย่อยอีก ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจะตรวจยึดทรัพย์สินของนายศุภรัชฎ ตามพ.ร.บ.มาตรการปราบปรามยาเสพติด พ.ศ.2534 เช่น รถจักรยานยนต์รวมทั้งเงินสด

พร้อมทั้งจะนำตัวแม่และน้องสาวของนายศุภรัชฎมาสอบปากคำเพิ่มเติมในฐานะที่อยู่ในบ้านหลังเกิดเหตุ และจะขยายผลไปตรวจสอบกลุ่มเครือข่ายแก๊งยาบ้ารายนี้ เพื่อมาดำเนินการต่อไป ส่วนศพนั้นนำส่งสถาบันนิติเวช เพื่อชันสูตรหาวิธีกระสุนและขนาดของกระสุนที่ฝังอยู่ในร่างกายผู้เสียชีวิต

ด้าน พล.ต.ท.กิตติพงษ์ เงามุข ผบช.ภ.7 เดินทางเข้าเยี่ยม ร.ต.ต.โดม พร้อมมอบกระเช้าและเงินจำนวนหนึ่งเพื่อเป็นขวัญกำลังใจ โดยกล่าวถึงเหตุการณ์วิสามัญว่า การเข้าตรวจค้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดสมุทรสาครนั้น เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตรวจค้นพื้นที่เป้าหมายผู้ค้ายาเสพติดตามวงรอบทุกวันศุกร์ ซึ่งพอเข้าไปเป้าหมายนี้กลับพบว่าผู้ต้องหาวิ่งเอายาเสพติดเข้าไปเททิ้งชักโครก แล้วยังใช้ปืนยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยยิงใส่ตำรวจก่อน

ดังนั้นทางตำรวจจึงจำเป็นต้องยิงสวนไป แล้วกระสุนก็เข้าจุดสำคัญจนทำให้นายศุภรัชฎเสียชีวิต ส่วนเจ้าหน้าที่เราก็บาดเจ็บที่ข้อเท้า ซึ่งทางด้านตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บจะเยียวยาโดยจะปูนบำเหน็จตามระเบียบในเรื่องขั้นเงินเดือน และเงินช่วยเหลือเบื้องต้น ซึ่งจะดูตามข้อเท็จจริง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน