วันที่ 6 พ.ค. นายสมศักดิ์ กาญจนะคช หน.เขตจัดการอุทยานแห่งชาติทับลานที่ 3 คลองน้ำมัน นำเจ้าหน้าที่ออกสำรวจพื้นที่ไร่มันสำปะหลัง บริเวณที่ทำดินทำกินของชาวบ้าน ติดกับแนวเขตอุทยานแห่งชาติ ท้องที่บ้านลำเพียก ม.11 ต.ลำเพียก อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา หลังรับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีฝูงหมูป่าจำนวนมาก ออกอาละวาดบุกเข้าไปเหยียบย่ำและกัดกินผลผลิตจนได้รับความเสียหายอย่างหนักมานานนับเดือน โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยประจำ อบต.ลำเพียก มาสำรวจความเสียหายร่วม เพื่อช่วยกันหาแนวทางการป้องกันแก้ไขปัญหาและช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นให้กับเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ
โดยผลการสำรวจพบว่ามีแปลงมันสำปะหลังของเกษตรกรที่เพิ่งปลูกใหม่ มีร่องรอยฝูงหมูป่าจำนวนมากออกมาเหยียบย่ำกัดกินต้นมันสำปะหลังเสียหาย 6 แปลง รวมพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบประมาณ 50 ไร่ อย่างเช่นแปลงมันสำปะหลังของนายชาญชัย อ้นสูงเนิน อายุ 52 ปี ซึ่งปลูกมันสำปะหลังเอาไว้รวม 14 ไร่ ถูกฝูงหมู่บ้านนับ 100 บุกเข้าไปสร้างความเสียหายเกือบทั้งแปลง ทางเจ้าของไร่ต้องหาท่อนพันธุ์มันสำปะหลังมาปลูกทดแทนในส่วนที่ได้รับความเสียหายเกือบทุกวัน จนตอนนี้ไม่เหลือท่อนพันธุ์มันสำปะหลังและทดแทนแล้ว
นายชาญชัย อ้นสูงเนิน เจ้าของไร่มันสำปะหลังที่ถูกฝูงหมูป่าบุกเข้าไปสร้างความเสียหาย กล่าวว่า ตนเองปลูกมันสำปะหลังในที่ดินผืนนี้มานานหลายสิบปีแล้ว และทุกๆปีก็จะมีปัญหาสัตว์ป่าทั้งช้างและหมูป่าเข้ามาเหยียบย่ำเป็นประจำ แต่สร้างความเสียหายไม่มากนัก ซึ่งก็รู้ดีว่าอยู่ติดกับเขตป่าก็ต้องมีเสียหายบ้างเป็นธรรมดา แต่มาปีนี้ความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นผิดแปลกและเสียหายมากกว่าทุกๆปี เพราะมันสำปะหลังที่เพิ่งปลูกและยังไม่ทันลงหัว ก็กลับมีฝูงหมูป่าจำนวนนับร้อยตัวออกมาเหยียบย่ำกัดกินจนเสียหายเกือบยกแปลง
นายชาญชัย ในห้วงเดือนนี้หมูป่าฝูงใหญ่ฝูงนี้ก็ออกจากป่าเข้ามาในไร่มันแทบทุกวัน ครั้งละไม่ต่ำกว่า 80 ตัว ตนเองก็ต้องหาซื้อท่อนพันธุ์มันจากที่อื่นมาปลูกทดแทน ทุกครั้ง จนตอนนี้ไม่เหลือเงินมาซื้อท่อนพันธุ์มันแล้ว จึงอยากให้หน่วยงานเจ้าหน้าที่ที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาแก้ไขปัญหานี้อย่างเร่งด่วนและยั่งยืนด้วย เพราะตัวเองไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรแล้ว
