เมื่อวันที่ 6 พ.ค. พ.ต.ท.เดชา โพธาราม สว.(สอบสวน) สภ.เมืองเลย ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถยนต์ชนรถจักรยานยนต์บริเวณสามแยกปากภู ถนนเลย-เชียงคาน บ้านสามแยก ต.เมือง อ.เมือง จ.เลย มีผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 ราย จึงรีบรุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่แพทย์ฉุกเฉิน ร.พ.เลย และอาสาสมัครมูลนิธิสว่างคีรีธรรม จ.เลย 
ที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บเป็นชาย 2 ราย รายแรกนอนอยู่ใต้ท้องรถกระบะโตโยต้า ไฮลักซ์ สีฟ้า หมายเลขทะเบียน บฉ 524 เลย ส่วนอีก 1 ราย นอนจมกองเลือดอยู่ท้ายรถกระบะคันดังกล่าว และพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ สีดำ หมายเลขทะเบียน กพต 346 เลย ล้มตะแคงอยู่ข้างรถกระบะ ส่วนที่เลนฝั่งตรงข้าม บริเวณริมเกาะกลางถนน พบรถยนต์ยี่ห้อบีเอ็มดับเบิลยู สีดำ หมายเลขทะเบียน กง 3939 มุกดาหาร สภาพด้านหน้าฝั่งขวาได้รับความเสียหาย
โดยผู้บาดเจ็บทั้งสองรายมีบาดแผลขนาดใหญ่ที่ศีรษะ แขน ขา และลำตัว พบว่าไม่มีลมหายใจแล้ว เจ้าหน้าที่จึงทำการปั๊มหัวใจ แล้วเร่งนำส่ง ร.พ.เลย ทราบชื่อต่อมาคือนายนภวัฒน์ แก้วมณีวัฒน์ อายุ 48 ปี และนายสมศักดิ์ พละสิทธิ์ อายุ 33 ปี เป็นชาวบ้านสามแยก-ปากภู ต.เมือง อ.เมืองเลย ทั้งคู่เสียชีวิตขณะนำส่งโรงพยาบาล
สอบสวนนางนิภาพร พูลเกิด ผู้เห็นเหตุการณ์ ให้การว่า ขณะรถที่มาจากทาง อ.ท่าลี่ ติดไฟแดง แต่ผู้ตายทั้งสองคนขี่รถจักรยานยนต์พุ่งออกมา ทำให้รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูสีดำที่มาจากทางตัวจังหวัดมุ่งหน้าทาง อ.เชียงคาน ซึ่งเป็นฝั่งที่สัญญาณไฟจราจรเป็นสีเขียว ชนรถจักรยานยนต์อย่างแรง ทำให้ร่างของทั้งสองคนกระเด็นขึ้นบนอากาศแล้วหล่นลงมา คนหนึ่งไถลเข้าไปอยู่ใต้ท้องรถกระบะสีน้ำเงินที่กำลังจอดรอเลี้ยวขวาไปทาง อ.ท่าลี่ ส่วนอีกคนตกด้านท้ายรถ
ด้านนพชัย บุญอุ้ม อายุ 20 ปี คนขับรถบีเอ็มดับเบิ้ลยู เล่าว่า ตนกับแม่กำลังเดินทางไป อ.เชียงคาน เพื่อติดต่อทำธุรกิจซื้อขายมะม่วง เมื่อมาถึงทางแยกที่เกิดเหตุ มีรถจอดติดไฟแดงอยู่ 1 คัน ขณะที่ตนกำลังชะลอรถจะจอดติดไฟแดงด้วยก็เป็นสัญญาณไฟเขียวพอดี จึงขับตามคันหน้าออกมาตามปกติ จู่ๆ ก็มีผู้ชายสองคนขับรถจักรยานยนต์พุ่งฝ่าไฟแดงออกมาจากทางซ้าย ทำให้ตนเบรกไม่ทัน และชนเข้าอย่างแรง
จากการตรวจสอบสภาพศพทั้งราย พบมีกลิ่นสุรา และไม่สวมหมวกนิรภัย ทั้งนี้ ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหานายนพชัยว่าขับรถโดยประมาท ทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ซึ่งนายนพชัยได้เข้าขอขมาญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตทั้งสองราย และยินยอมชดใช้ค่าเสียหายทั้งหมด
