วันที่ 7 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงายว่า เมื่อวันที่ 6 พ.ค. เวลา 23.30 น. นายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่า ภายในวัดหนองนาดำ ต.หัวดง อ.เมืองพิจิตร จ.พิจิตร มีผู้ลักลอบเล่นการพนันในงานศพ ที่ศาลาวัด จึงให้ส่งพ.ต.ท.ปกรณ์ ปานผล รองหัวหน้าชุด ศูนย์ดำรงธรรม พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่จากศูนย์ดำรงธรรม จ.พิจิตร พร้อมด้วย อส.จังหวัด และอำเภอเมืองเกือบ 10 นาย บุกจู่โจมเข้าไปที่ศาลาของวัดหนองนาดำ
เมื่อไปถึง ภายในศาลาดังกล่าว พบการเล่นการพนันหลายชนิด ทั้งไพ่ป๊อกเด้ง รัมมี่ และเกมบิงโก จำนวน 6 วง โดยมีผู้ที่ร่วมเล่นการพนันทั้งหญิง และชายกว่า 100 คน ขณะเจ้าหน้าที่ของศูนย์เฉพาะกิจศูนย์ดำรงธรรมลงจากรถ บรรดากลุ่มที่เล่นการพนันต่างตะโกนเสียงดังบอกกันว่า “อส. ทหารมา” ก่อนลุกวิ่งหนีไปคนละทิศละทาง เบื้องต้นสามารถจับกุมนักพนันได้จำนวนหนึ่ง พร้อมด้วยหลักฐาน พร้อมอุปกรณ์การเล่น จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพิจิตร ดำเนินคดีตามฎหมายต่อไป
นายวีระศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร เปิดเผยว่า หลังประกาศนโยบาย “วัดไม่ใช่บาร์ ศาลาไม่ใช่บ่อน” จึงอยากขอร้องให้ปฏิบัติตาม ขอให้วัดเป็นที่ สงบ ใสสะอาด ปราศจากอบายมุข ให้เป็นที่พึ่งทางใจของชาวพุทธ และผู้ที่เลื่อมใสศรัทธาในพระพุทธศาสนา จึงอยากขอร้องว่า อย่าได้ทำการใดๆ ให้วัดหรือพระพุทธศาสนามัวหมองอีกเลย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับการเข้าจับกุมนักพนันในครั้งนี้ ไม่มีกำลังตำรวจในพื้นที่หรือกำลังทหารเข้าสนธิกำลังร่วมแต่อย่างใด สาเหตุอาจเป็นเพราะตรงกับคืนวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นวันหยุดราชการ อีกทั้งหลายฝ่ายความมั่นคงมองว่า การเล่นการพนันภายในวัด หรือภายในงานศพเป็นเรื่องเล็กทำไป ก็ถูกชาวบ้านนินทาว่า ทำไมไม่ไปจับบ่อนการพนันใหญ่ๆ หรือไปทำเรื่องที่มีสาระ แต่จับจ้องจะมาจับคนเล่นไพ่ เล่นไฮโล อยู่เป็นเพื่อนศพ
สำหรับในพื้นที่จังหวัดพิจิตรปัจจุบันแทบจะกลายเป็นประเพณีไปแล้วว่า ถ้ามีงานศพก็จะมีเจ้ามือไฮโล เจ้ามือไพ่ป๊อก มาติดต่อขอเป็นเจ้าภาพงานศพยอมจ่ายเงินใส่ซองถวายพระสวดอภิธรรม บางแห่งเจ้ามือถึงกับขอร้องเจ้าภาพ ว่า ถ้าตั้งศพแค่ 3 วัน ก็ขอให้ขยายเป็น 7 วัน เพื่อให้นักพนันใช้ศพหรือใช้คนตายเป็นข้ออ้างในการเล่นการพนัน ทุกฝ่ายมองว่าเป็นเรื่องเล็กๆ หรือเป็นประเพณี แต่แท้ที่จริงเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย
