เมื่อวันที่ 19 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการทำบุญเนื่องในวันอาสาฬหบูชา ในหลายจังหวัดทั่วประเทศ โดยจังหวัดนครราชสีมา ที่วัดป่าสาลวัน เขตเทศบาลนครนครราชสีมา มีพุทธศาสนิกชนจำนวนมาก ต่างสวมใส่ชุดขาวพาบุตรหลานและคนในครอบครัว นำอาหาร คาว หวาน มาถวายภัตตาหารเช้าแด่พระภิกษุ สามเณรภายในวัดตั้งแต่ช่วงเวลา 07.30 น. ซึ่งอาหารคาว หวาน ส่วนใหญ่ ก็จะทำกันเองภายในครอบครัว อาทิ น้ำพริก ผัก แกงอ่อม แกงเลียง ปลาย่าง ต้มยำไก่ใบมะขามอ่อน และผลไม้นานาชนิด มาทำบุญตักบาตร เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา เนื่องในวันอาสาฬหบูชา พร้อมกับฟังพระสงฆ์แสดงพระธรรมเทศนา ขัดเกลาจิตใจให้ผ่องใส
ขณะเดียวกันพุทธศาสนิกชนจำนวนมาก ต่างพากันเข้ามาบกราบไหว้พระชัยเมืองนครราชสีมา ที่ได้มีการนำมาประดิษฐานไว้ภายในวัดป่าสาลวัน เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้กราบไหว้ขอพร ให้เป็นสิริมงคลแก่ตนเองและคนในครอบครัว เนื่องในวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา อีกด้วย
สำหรับพระชัยเมืองนครราชสีมา เป็นพระพุทธรูปสำคัญมาแต่บรรพกาล มีตำนานการสร้างเป็นของสมเด็จพนรัตน์วัดป่าแก้ว สมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช มีความหมายว่า “ชัยชนะ” โดยสร้างเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยที่มีความหมายปราบมารได้ชัยชนะ สำหรับขจัดมาร อุปสรรคและอำนวยให้สำเร็จผลพระชัยเมืองนครราชสีมา เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะอยุธยา พุทธศตวรรษที่ 19 – 20 ชนิดสำริด เป็นพระพุทธรูปสำคัญ 1 ใน 9 องค์ที่ใช้สำหรับประกอบพิธีต่างๆ ของบ้านเมืองในปัจจุบัน โดยบริเวณศาลาการเปรียญ วัดเทพมงคล มีพุทธศาสนิกชน ทั้งเด็กเล็ก ผู้เฒ่าผู้แก่ นับพันคน ร่วมกันทำบุญตักบาตร สวนมนต์ทำวัด ถวายเทียน ผ้าอาบน้ำฝน เนื่องในวันสำคัญทางศาสนา วันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา อย่างเนืองแน่น
โดยในปีนี้วันอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา หยุดติดต่อกันหลายวัน ส่งผลให้ประชาชนที่ทำงานอยู่ที่ต่างจังหวัดที่เดินทางกลับมาบ้าน มาร่วมกันทำบุญเป็นจำนวนมาก ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจค้าขายในพื้นที่ รวมถึงร้านจำหน่ายเครื่องสังฆภัณฑ์ ร้านขายดอกไม้บูชาพระ มียอดขายเพิ่มมากขึ้น ซึ่งในช่วงวนอาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา ทางวัดเทพมงคล ได้จัดให้มีกิจกรรมส่งเสริมพระพุทธศาสนาตลอดทั้งวัน ในช่วงเย็นที่จะการร่วมสวดมนต์ทำวัดเย็น และจะมีพิธีเวียนเทียบรอบพระอุโบสถเย็นวันนี้ด้วย
ส่วนที่ลานธรรมวัดคูยาง พระอารามหลวง อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร พระธรรมภาณพิลาส เจ้าคณะจังหวัดกำแพงเพชร เจ้าอาวาสวัดคูยาง พระอารามหลวง พระครูวิเชียรคุณโชติ ท่านเจ้าอาวาสวัดบาง และพระครูสุทธิวชิรศาสน์ ท่านเจ้าอาวาสวัดเสด็จ ได้นำพระภิกษุทั้ง 3 วัด รับศรัทธาจากพุทธศาสนิกชนชาวกำแพงเพชร ที่มาร่วมตักบาตร ทำบุญ หล่อเทียนเข้าพรรษา ถวายเทียนเข้าพรรษา เนื่องในวันอาสาฬหบูชา อย่างเนืองแน่น โดยมี นายนลิน ตั้งประสิทธิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดกำแพงเพชร นายสมนึก ปาปะเค วัฒนธรรมจังหวัดกำแพงเพชร และนายสุรพงษ์ ธนสังข์นุชิต ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดกำแพงเพชร ร่วมเป็นประธานในพิธี
โดย พระธรรมภาณพิลาส เจ้าคณะจังหวัดกำแพงเพชร เจ้าอาวาสวัดคูยาง พระอารามหลวง แสดงพระธรรมเทศนาให้พุทธศาสนิกชนชาวกำแพงเพชร สดับรับฟัง ว่า วันอาสาฬหบูชา 2559 ตรงกับวันอังคารที่ 19 กรกฎาคม โดยวันอาสาฬหบูชา คือวันที่พระพุทธองค์ได้ทรงแสดงธรรมเทศนา หรือหลักธรรมที่ทรงตรัสรู้เป็นครั้งแรก หลังจากตรัสรู้ได้ 2 เดือน โดยแสดงปฐมเทศนาโปรดพระปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 ได้แก่ พระโกณฑัญญะ พระวัปปะ พระภัททิยะ พระมหานามะ และพระอัสสชิ ที่ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน เมืองพาราณสี แคว้นมคธ จนพระอัญญาโกณฑัญญะ ได้บรรลุธรรมและขอบวชเป็นพระภิกษุรูปแรกในพระพุทธศาสนา จึงถือว่าวันนี้มีพระรัตนตรัยครบองค์สามบริบูรณ์ครั้งแรกในโลก คือ มีทั้งพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นก่อนพุทธศักราช 45 ปี
ทั้งนี้ พระธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงแก่ปัญจวัคคีย์ทั้ง 5 เรียกว่า “ธัมมจักกัปปวัตนสูตร” แปลว่า พระสูตรแห่งการหมุนวงล้อธรรม ซึ่งหลังจากปฐมเทศนา หรือเทศนากัณฑ์แรกที่พระองค์ทรงแสดงจบลง พระอัญญาโกณฑัญญะก็ได้ดวงตาเห็นธรรม สำเร็จเป็นพระโสดาบัน จึงขออุปสมบทเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าก็ได้ประทานอุปสมบทให้ด้วยวิธีที่เรียกว่า “เอหิภิกขุอุปสัมปทา” พระโกณฑัญญะจึงได้เป็น พระอริยสงฆ์องค์แรกในพระพุทธศาสนา ต่อมา พระวัปปะ พระภัททิยะ พระมหานามะ และพระอัสสชิ ก็ได้ดวงตาเห็นธรรม และได้อุปสมบทตามลำดับ
สำหรับใจความสำคัญของการปฐมเทศนา มีหลักธรรมสำคัญ 2 ประการ คือ 1.มัชฌิมาปฏิปทา หรือทางสายกลาง เป็นข้อปฏิบัติที่เป็นกลางๆ ถูกต้องและเหมาะสมที่จะให้บรรลุถึงจุดหมายได้ มิใช่การดำเนินชีวิตที่เอียงสุด 2 อย่าง หรืออย่างหนึ่งอย่างใด คือ การหมกมุ่นในความสุขทางกาย มัวเมาในรูป รส กลิ่น เสียง รวมความเรียกว่าเป็นการหลงเพลิดเพลินหมกมุ่นในกามสุข หรือกามสุขัลลิกานุโยค การสร้างความลำบากแก่ตน ดำเนินชีวิตอย่างเลื่อนลอย เช่น บำเพ็ญตบะการทรมานตน คอยพึ่งอำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นต้น ซึ่งการดำเนินชีวิตแบบที่ก่อความทุกข์ให้ตนเหนื่อยแรงกาย แรงสมอง แรงความคิด รวมเรียกว่า อัตตกิลมถานุโยค
ดังนั้น เพื่อละเว้นห่างจากการปฏิบัติทางสุดเหล่านี้ ต้องใช้ทางสายกลาง ซึ่งเป็นการดำเนินชีวิตด้วยปัญญา โดยมีหลักปฏิบัติเป็นองค์ประกอบ 8 ประการ เรียกว่า อริยอัฏฐังคิกมัคค์ หรือ มรรคมีองค์ 8 ได้แก่ 1. สัมมาทิฏฐิ เห็นชอบ คือ รู้เข้าใจถูกต้อง เห็นตามที่เป็นจริง 2.สัมมาสังกัปปะ ดำริชอบ คือ คิดสุจริตตั้งใจทำสิ่งที่ดีงาม 3.สัมมาวาจา เจรจาชอบ คือ กล่าวคำสุจริต 4.สัมมากัมมันตะ กระทำชอบ คือ ทำการที่สุจริต 5.สัมมาอาชีวะ อาชีพชอบ คือ ประกอบสัมมาชีพหรืออาชีพที่สุจริต 6.สัมมาวายามะ พยายามชอบ คือ เพียรละชั่วบำเพ็ญดี 7.สัมมาสติ ระลึกชอบ คือ ทำการด้วยจิตสำนึกเสมอ ไม่เผลอพลาด 8.สัมมาสมาธิ ตั้งจิตมั่นชอบ คือ คุมจิตให้แน่วแน่มั่นคงไม่ฟุ้งซ่าน
และอริยสัจ 4 แปลว่า ความจริงอันประเสริฐของอริยะ ซึ่งคือ บุคคลที่ห่างไกลจากกิเลส ได้แก่ 1.ทุกข์ ได้แก่ ปัญหาทั้งหลายที่เกิดขึ้นกับมนุษย์ บุคคลต้องกำหนดรู้ให้เท่าทันตามความเป็นจริงว่ามันคืออะไร ต้องยอมรับรู้ กล้าสู้หน้าปัญหา กล้าเผชิญความจริง ต้องเข้าใจในสภาวะโลกว่าทุกสิ่งไม่เที่ยง มีการเปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างอื่น ไม่ยึดติด 2.สมุทัย ได้แก่ เหตุเกิดแห่งทุกข์ หรือสาเหตุของปัญหา ตัวการสำคัญของทุกข์ คือ ตัณหาหรือเส้นเชือกแห่งความอยากซึ่งสัมพันธ์กับปัจจัยอื่น ๆ 3.นิโรธ ได้แก่ ความดับทุกข์ เริ่มด้วยชีวิตที่อิสระ อยู่อย่างรู้เท่าทันโลกและชีวิต ดำเนินชีวิตด้วยการใช้ปัญญา และ4. มรรค ได้แก่ กระบวนวิธีแห่งการแก้ปัญหา อันได้แก่ มรรคมีองค์ 8 ประการดังกล่าวข้างต้น
สำหรับกิจกรรมวันอาสาฬหบูชาของพุทธศาสนิกชนชาวกำแพงเพชรนั้น พิธีกรรมโดยทั่วไปที่นิยมกระทำในวันนี้ คือ การทำบุญ ตักบาตร รักษาศีล ฟังพระธรรมเทศนา และสวดมนต์ ในตอนค่ำก็จะมีการเวียนเทียนที่เป็นการสืบทอดประเพณีอันดีงามของไทยเรา ดังนั้น พุทธศาสนิกชนทั้งหลายควรเข้าวัด เพื่อน้อมระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย อีกทั้งยังเป็นการช่วยชะล้างจิตใจให้ปลอดโปร่งผ่องใส จะได้มีร่างกายและจิตใจที่พร้อมสำหรับการดำเนินชีวิตในยุคที่ค่าครองชีพถีบตัวสูงขึ้นอย่างนี้
นายสุรพงษ์ ธนสังข์นุชิต ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดกำแพงเพชร เปิดเผยข่าวสดว่า เนื่องในวันสำคัญของชาวพุทธในวันนี้ ได้ให้เจ้าหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดกำแพงเพชร ออกแจกเอกสารรณรงค์ให้พุทธศาสนิกชนที่มาร่วมทำบุญ ไปออกเสียงประชามติ ในวันที่ 7 สิงหาคม 2559 นี้ เพื่อร่วมกระบวนการในการแสดงความคิดเห็น ด้วยการลงคะแนนออกเสียงเพื่อตัดสินว่าจะให้ความ “เห็นชอบ” หรือ “ไม่เห็นชอบ” ในเรื่องที่มีความสำคัญและมีผลกระทบต่อประโยชน์ได้เสียของประเทศชาติเรา หรือกระทบสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ก่อนที่จะนำมติหรือการตัดสินใจนั้น ไปออกเป็นกฎหมายหรือนำไปปฏิบัติเพื่อบังคับใช้เป็นการทั่วไป
การออกเสียงประชามติ จึงนับว่ามีความสำคัญต่อการปกครองที่อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชน เพราะนั่นหมายถึงประชาชนสามารถตัดสินใจในการออกความคิดเห็นเรื่องที่มีความสำคัญต่อบ้านเมืองได้ด้วยตนเอง สำหรับเอกสารที่เจ้าหน้าที่นำมารณรงค์ในครั้งนี้ มีเนื้อหาสาระเกี่ยวกับเรื่อง คุณสมบัติของผู้มีสิทธิออกเสียง หลักฐานที่ใช้ในการออกสียง การใช้สิทธิออกเสียงนอกเขตจังหวัด ตัวอย่างบัตรออกเสียงประชามติ ประเด็นการออกเสียงประชามติ ขั้นตอนการลงคะแนนออกเสียงประชามติ ภายใต้คำขวัญที่ว่า ออกเสียงประชามติคุณภาพ โดยพลเมืองคุณภาพ
ขณะที่ ที่ลานโพธิ์ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช นายศิริพัฒ พัฒกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช พร้อมพุทธศาสนิกชนจำนวนมาก พร้อมใจกันแต่งชุดขาวร่วมพิธีทำบุญตักบาตรพระสงฆ์ 89 รูป เบื้องหน้าองค์พระบรมธาตุเจดีย์ที่ ท่ามกลางสภาพอากาศที่อิ่มบุญในวันอาสาฬหบูชา ตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 8 โดยมีพระเทพวินยาภรณ์ รองเจ้าคณะภาค 16 17 18 เจ้าอาวาสวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ บรรยายธรรมว่า ขอให้พุทธศาสนิกชนรำลึกถึงพระรัตนตรัย ได้แก่พระพุทธเจ้า พระธรรมวินัย และพระสงฆ์ นอกจากปฏิบัติด้วยอามิสบูชา ถวายอาหาร ดอกไม้ธูปเทียน แล้ว ต้องปฏิบัติบูชาด้วย เพื่อให้เข้าถึงพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากนี้ยังตามวัดต่างๆ ในจังหวัดนครศรีธรรมราช พุทธศาสนิกชนยังนำอาหาร คาวหวาน ผลไม้ใส่ภาชนะไปทำบุญตักบาตร เพื่อทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา สร้างบุญสร้างกุศลในวันอาสาฬหบูชา ซึ่งเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาอีกวันหนึ่ง เป็นวันที่มีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้น 4 ประการ ประการแรกเป็นวันแรกที่พระพุทธองค์ ทรงแสดงปฐมเทศนา ประการที่สองเป็นวันแรก ที่พระพุทธองค์ ทรงได้ปฐมสาวก ประการที่สามเป็นวันแรกที่พระสงฆ์เกิดขึ้นในโลก และประการที่สี่เป็นวันแรกที่เกิดพระรัตนตรัย ครบทั้ง 3 รัตนะ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ส่วนวันเข้าพรรษาตรงกับวันแรม 1 ค่ำเดือน 8 เป็นวันที่พระสงฆ์ต้องจำพรรษา ตลอดเวลา 3 เดือน เพื่อศึกษาพระธรรมวินัยปฏิบัติธรรมถวายเป็นพุทธบูชาต่อไป
