เมื่อเวลา 01.40 น. วันที่ 9 พ.ค. เจ้าหน้ที่ตำรวจ สน.บางพลัด รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้มีดสปาต้าร์และไม้เบสบอล บุกปล้นร้านสะดวกซื้อ หน้าปากซอยอัศวิน 3 ถ.บรมราชชนนี เขตบางพลัด กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.บางพลัด
ที่เกิดเหตุพบพนักงานยืนรอให้ปากคำ จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพ 2 คนร้าย ลักษณะการแต่งตัวด้วยเสื้อกีฬาสีน้ำเงินและสีขาว ทำทีเข้ามาซื้อของภายในร้านก่อนจะแอบหยิบนำสินค้าจำพวกโฟมล้างหน้า สเปรย์ระงับกลิ่น ครีม เครื่องสำอาง ใส่ตามกระเป๋ากางเกงต่างๆ จากนั้น ได้ทำทีซื้อน้ำแข็งแล้วเดินออกไป กระทั่ง เวลาผ่านไปประมาณ 10 นาที ปรากฏว่า วัยรุ่น 2 คนที่กล้องวงจรปิดจับภาพได้ในตอนแรกได้เดินทางมาพร้อมกับพวกอีก 2 คน รวมเป็น 4 คน พร้อมอาวุธเป็นไม้เบสบอลและมีสปาต้า เข้ามาที่ร้านสะดวกซื้อดังกล่าวอีกครั้ง ก่อนที่วัยรุ่นที่ใส่เสื้อกีฬาจะปรี่เข้าไปใช้ไม้เบสบอลตีพนักงานชายรายหนึ่ง
ส่วนคนร้ายอีกคนพยายามขโมยของพวกโฟมล้างหน้า สเปรย์ระงับกลิ่น ครีม เครื่องสำอาง ก่อนจะเรียกพนักงานชายคนดังกล่าวให้ออกไป แต่พนักงานคนดังกล่าวไม่ออกไปจากร้าน กลุ่มวัยรุ่น 4 คน จึงพากันขับรถจักรยานยนต์ 2 คันหลบหนีไป
จากการสอบสวนนายสุอำนาจ ชินพโชติ อายุ 34 ปี พนักงานที่ถูกกลุ่มวัยรุ่นทำร้าย ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุก็มีวัยรุ่น 2 คน ใส่เสื้อสีน้ำเงินและสีขาว ทำทีมาซื้อของโดยเดินวนเวียนอยู่ที่ชั้นจำหน่ายพวกสเปรย์ระงับกลิ่นกาย โฟมล้างหน้า จากนั้นก็ได้ทำทีเรียกไปสอบถามราคา ก่อนจะตัดสินใจซื้อน้ำแข็งก่อนจะเดินออกไป จากนั้น ผ่านไป 10 นาที วัยรุ่นทั้ง 2 คน ได้เดินทางมาที่ร้านพร้อมเพื่อนอีก 2 คน โดย 1 ในนั้นได้ถือไม่เบสบอลเข้ามาตีที่ตน
นายสุอำนาจ ให้การต่อว่า พอตนตั้งหลักได้จึงคว้ากล่องลังที่อยู่ใกล้ๆ ทำท่าจะสู่กลุ่มวัยรุ่นจึงวิ่งหนีออกไปนอกร้าน แต่ก็ยังพยายามเรียกตนให้ออกไปหน้าร้าน แต่ตนไม่ได้ออกไป วัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวจึงพากันขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป ตนจึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางพลัด และเปิดกล้องวงจรปิดดูจึงรู้ว่าวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวได้ขโมยของภายในร้านไปด้วย ทั้งนี้ ตนยืนยันว่าไม่รู้จักวัยรุ่นกลุ่มนี้ แต่ตอนเกิดเหตุได้ยินกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มดังกล่าวคุยโทรศัพท์กับเพื่อนว่ามีปัญหากับเด็กที่ร้านเซเว่นเมื่อช่วงหัวค่ำของวันที่ 8 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งตนยังไม่ได้เข้าเวรเลย จึงอาจจะจำผิดคนก็ได้
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ สน.บางพลัด จึงได้เข้ามาตรวจพื้นที่จุดเกิดเหตุ และติดตามหาตัวคนร้าย ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นวัยรุ่นในพื้นที่มาสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป
