เมื่อวันที่ 9 พ.ค. พ.ต.ท.สุรโชค เจษฎาเดช ผกก.ภจว.อำนาจเจริญ รับแจ้งจากสายลับว่า ที่บ้านเลขที่ 110 ม.7 บ้านดอนดู่ ต.น้ำปลีก อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด โดยจะนำยาเสพติดมาจำหน่ายให้กับวัยรุ่นในหมู่บ้าน และจากการสืบสวนทางลับทราบว่าบ้านหลังดังกล่าว เพิ่งมีการนำยาบ้ากว่า 4,000 เม็ด มาเตรียมจำหน่ายให้กับวัยรุ่น จึงสั่งการให้พ.ต.ท.ไมตรี บุญมาศ รอง ผกก.ภจว.อำนาจเจริญ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จว.อำนาจเจริญ เข้าตรวจสอบที่บ้านหลังดังกล่าว
เมื่อไปถึงพบมีการปิดบ้านมิดชิดผิดวิสัยของคนทั่ว พบหญิงสาวคนหนึ่งนั่งอยู่กับลูกที่บริเวณหน้าบ้านหลังดังกล่าว ทราบชื่อภายหลังคือ น.ส.รจนา ทานะสิทธิ์ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 140 ม.2 ต.ดอนเมย อ.เมือง จ.อำนาจเจริญ เห็นเจ้าหน้าที่ก็แสดงท่าทีมีพิรุธ พยายามเดินหลบหนีเจ้าหน้าที่ จึงได้ควบคุมตัวน.ส.รจนาไว้ ก่อนขอเข้าตรวจค้นภายในบ้าน ซึ่งจากการตรวจสอบพบห่อยาบ้า 15 ถุง พร้อมอาวุธปืน .38 ไทยประดิษฐ ลูกกระสุน 1 ลูก ซุกซ่อนอยู่ในถังข้าวสาร เพื่อตบตาและหลีกเลี่ยงการตรวจค้นเจอของเจ้าหน้าที่
นอกจากนี้ ยังตรวจค้นเจอยาบ้าอีก 100 กว่าเม็ดอยู่ในกล่องพลาสติกสีเขียว พร้อมอุปกรณ์การเสพในกระเป๋ากางเกงด้านขวาของน.ส.รจนา และการตรวจปัสสาวะเบื้องต้นก็พบว่ามีสารเสพติดจริง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางทั้งหมด มาสอบสวนเพิ่มเติมที่ ภจว.อำนาจเจริญ
พ.ต.ท.ไมตรี กล่าวว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่ายาบ้า 100 กว่าเม็ดที่อยู่ในกล่องสีเขียวเป็นของผู้ต้องหาจริง โดยที่สามีของผู้ต้องหาเป็นคนทิ้งเอาไว้ให้เสพ ก่อนที่จะออกไปทำธุระข้างนอก ส่วนยาบ้าที่ค้นเจออีกกว่า 3,000 เม็ดนั้น ผู้ต้องหาอ้างว่าเป็นของสามี ซึ่งถึงแม้ผู้ต้องหาจะรู้ว่าสามีของตนค้ายาบ้าจริง แต่ก็ไม่คิดไม่ฝันว่าสามีจะซุกซ่อนยาบ้าเอาไว้ที่บ้านเยอะขนาดนี้ อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ไม่ได้ปักใจเชื่อ
พ.ต.ท.ไมตรี กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีสามีของผู้ต้องหาคือนายสุขสันต์ ประสงค์สี อายุ 31 ปีนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกหมายจับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพื่อจะได้ติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย นอกจากนี้ จากการตรวจสอบประวัติยังพบว่าสามีของผู้ต้องหามีประวัติการเข้าออกคุกอยู่บ่อยครั้งในคดียาเสพติด จากนั้น เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอำนาจเจริญ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
