วันที่ 14 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรับแจ้งว่าที่บ้านเลขที่ 77/1 หมู่ที่ 3 ต.พรหมบุรี อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี บ้านนายเชษฐา เต่งภาวดี อายุ 58 ปี อดีตกำนันตำบลพรหมบุรี มีเต่าสองหัว เดินทางไปตรวจสอบเปิดเป็นร้านขายของชำ พบนายเชษฐา เจ้าของบ้านกำลังนั่งขายของอยู่ สอบถามนายเชษฐา จึงไปหยิบเต่ามาให้ดูเป็นเต่าพันธุ์ซูโกต้า อายุ 10 วัน ตัวสีน้ำตาลสลับกับสีดำ ทั้งหมดคลอกนี้มีประมาณ 14 ตัว อายุเท่ากันทั้งหมดลำตัวยาวประมาณ 4 เซนติเมตร สูงประมาณ 1.5 เซนติเมตร มีแขน ขา ครบ แต่มีอยู่ตัวหนึ่งที่ไม่เหมือนใคร เนื่องจากมีสองหัว สองหางชูคอขยับไปมา ภายในตะกร้าที่นายพิเชษฐจัดไว้ให้
นายเชษฐา เล่าให้ฟังว่า ตนได้พ่อพันธุ์ แม่พันธุ์เต่าซูโกต้า สายพันธุ์จากประเทศซูดาน มาได้ปีกว่า และลองเพราะพันธุ์ขายดูก็ขายได้ ตัวหนึ่งขายได้ประมาณหลักพันบาทแต่คนขายก็ไปขายเอากำไรอีกทีหนึ่ง พอมาถึงชุดนี้ตนเองสังเกตว่ามีอยู่ตัวหนึ่งที่มีสองหัวและสองหางตนเองรู้สึกดีใจ และคิดว่าจะเก็บไว้ไม่ขาย แต่ยังไม่ได้ตั้งชื่อ จะขายเฉพาะตัวที่มีอาการปกติ ซึ่งตนเองหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตก็ทราบว่า ตัวนี้เป็นตัวที่สามของโลก
พอเพื่อนบ้านในละแวกนั้นทราบข่าวต่างเริ่มมาดู และขอจับตัวเต่าและลูบไปมาต่างก็เห็นเป็นเลข แต่เลขที่เห็นคือ 168 เมื่อเพื่อนบ้านเริ่มรู้ข่าวเริ่มมากันหลายคนจนนายเชษฐา ต้องเก็บเต่าเนื่องจากเต่ายังเล็กจัดเกรงว่าเมื่อคนจับไปมากันเยอะแล้ว จะได้รับการกระทบกระเทือนได้ จึงเก็บเข้าที่ให้เต่าพัก ซึ่งชาวบ้านเชื่อเป็นสิ่งที่แปลกประหลาดไม่ค่อยพบเจอกันบ่อยหนัก
