วันที่ 14 พ.ค. ร.ต.ท.กนกวรรณ วุฒิเกษมจิต รองสว.(สอบสวน) สภ.เมืองสุพรรณบุรี รับแจ้งเหตุไฟไหม้อาคารหอพักของจนท.โรงเรียนกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี บริเวณด้านหลังวิทยาลัยช่างศิลป์สุพรรณบุรี ต.รั้วใหญ่ อ.เมือง จึงรีดไปตรวจสอบ พร้อมด้วย พ.ต.ต.ภุชงค์ ป้องศิริ สวป.สภ.เมืองสุพรรณบุรี จนท.สมาคมกู้ภัยเณรแก้วทางหลวงสุพรรณบุรี รถดับเพลิงเทศบาลเมืองสุพรรณบุรี 2 คัน

ที่เกิดเหตุอยู่บริเวณห้องพักเลขที่ 31 ชั้น 3 เจ้าหน้าที่พบกลุ่มควันและเปลวไฟกำลังโหมลุกไหม้ห้องดังกล่าวอยู่ ขณะเดียวกันยังพบนางนวลศรี ดาหลา อายุ 54 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของห้องพักอยู่ในอาการตกใจทำตัวไม่ถูก จนท.ระดมกำลังกันสกัดแสงเพลิงไม่ให้ลุกลามไปบริเวณอื่น ใช้เวลาประมาณ 30 นาที จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้

นางนวลศรี กล่าวด้วยสีหน้าตกใจว่า ตนเองนั้นทำงานเป็นแม่บ้านของโรงเรียนกีฬา อยู่อาศัยกับลูกสาววัย 19 ปี ขณะเกิดเหตุมีเพื่อนของห้องโทรศัพท์มาบอกว่าไฟไหม้ เนื่องจากขณะนั้นตนออกไปทำงานที่โรงเรียนกีฬาส่วนลูกสาวไปธุระข้างนอกและได้โทรแจ้งดับเพลิงแล้ว ตนจึงรีบกลับก่อนพบว่าเพลิงได้ลุกไหม้ข้าวของภายในห้องจนหมดไม่เหลืออะไร ส่วนสาเหตุตนก็ไม่ทราบว่าเกิดจากอะไร

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเกิดเหตุ ทั้งนางนวลศรี และ น.ส.นันทิยาพร รัฐสมบูรณ์ อายุ 19 ปี ได้เข้าไปสำรวจดูทรัพย์สินภายในห้องถึงกับตกตะลึง เมื่อพบว่าข้าวห้องภายในห้องพักถูกไฟไหม้เสียหาย แต่พระบรมสาทิสลักษณ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 รวมถึงปฏิทินอีก 5 ฉบับ อยู่ครบสมบูรณ์ไม่ถูกไฟไหม้เสียหาย ส่วนผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เป็นเพราะบุญบารมีของในหลวงรัชกาลที่ 9 จึงเกิดปาฏิหาริย์เช่นนี้

แต่อย่างไรก็ดี จากการตรวจสอบของตำรวจพบว่าภายในห้องนั้นมีหนังสือและกระดาษเป็นจำนวนมาก ถูกเก็บไว้ คาดว่าอาจเป็นเชื้อเพลิงชั้นดี ทำให้เพลิงลุกไหม้อย่างรวดเร็ว ส่วนความเสียหายคาดว่าประมาณ 3-4 แสนบาท

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน