วันที่ 14 พ.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายชัยวุธิ คหกิจไพศาล อายุ 46 ปี ว่า เวลาประมาณ 05.30 น. ของวันที่ 8 พ.ค. ที่ผ่านมา ขณะนั้นบิดาของตนคือนาย พงษ์ศักดิ์์ คหกิจไพศาล อายุ 71 ปี ได้ออกจากบ้าน ก่อนข้ามถนนเพื่อไปยืนรอรถเมล์ที่บริเวณป้ายรถโดยสาร ฝั่งตรงข้ามหมู่บ้านเพื่อไปทำธุระที่เยาวราช โดยระหว่างที่บิดาของตนข้ามถนนมาถึงบริเวณเกาะกลางถนน จู่ๆมีรถเก๋งสีดำ ขับมาด้วยความเร็วสูง ก่อนจะเฉี่ยวชนบิดาของตนจนเสียชีวิต
นายชัยวุธิ กล่าวต่อว่า ซึ่งขณะเกิดเหตุไม่มีใครรู้ว่าบิดาถูกรถชน จนได้รับการติดต่อจากตำรวจ คือ ร.ต.อ. ศุภชัย ขนทา รองสว.(สอบสวน)สน.ประเวศ ร้อยเวรเจ้าของคดี ที่ได้เข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุบริเวณตรงข้ามปากซอยกรุงเทพกรีฑา 8 ถนนกรุงเทพกรีฑาฝั่งขาออกมุ่งหน้าหมู่บ้านนักกีฬาแหลมทอง แขวงและเขตบางกะปี กรุงเทพฯ ทุกคนในบ้านจึงรู้เรื่องก่อนตามไปที่รพ.ตำรวจ เนื่องจากเจ้าหน้าที่นำศพของบิดาส่งรพ.ตำรวจ
นายชัยวุธิ กล่าวอีกว่า โดยหลังเกิดเหตุทางตำรวจได้แจ้งตนมาว่า ตรวจสอบแล้วไม่พบรถคู่กรณีและผู้ขับขี่จึงทำได้เพียงลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานเท่านั้น แต่อย่างไรก็ดี ตนได้ลงพื้นที่หากล้องโดยรอบจุดเกิดเหตุ จนพบภาพจากกล้องวงจรปิดที่ร้านค้าบริเวณนั้น สามารถจับภาพ เก๋งสีดำ คันหนึ่งที่ขับพุ่งมาชนบิดาของตนเองและหลบหนี ซึ่งในบริเวณจุดเกิดเหตุค่อนข้างมืดและรถเก๋งคันดังกล่าวขับมาด้วยความไว
“จากนั้นเมื่อประมาณ 2-3 วันก่อน ตนได้นำคลิปดังกล่าวให้ทางตำรวจตรวจสอบ โดยทางพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีรับปากมาว่าจะเร่งประสานฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่หาเบาะแส รถเก๋งคันดังกล่าวแต่จนถึงขณะนี้เวลาล่วงเลยมาประมาณ 1 สัปดาห์ ร่างของบิดาตนได้เผาไปแล้วแต่ในเรื่องของคดีความกลับไม่คืบหน้า เนื่องจากตนได้ไปสอบถามร้านค้าต่างๆที่อยู่บริเวณโดยรอบว่า มีตำรวจมาขอดูวงจรปิดบ้างหรือไม่ ทางร้านค้าบรินั้นบอกตนมาว่าไม่พบตำรวจมาตรวจสอบแต่อย่างใด ทำได้เพียงลงบันทึกประจำวันไว้เท่านั้น” นายชัยวุธิ กล่าว
