จากกรณี น.ส.พิมลวรรณ หมอนอิง อายุ 31 ปี พนักงานธนาคารแห่งหนึ่งใน จ.กาญจนบุรี เสียชีวิตหลังรับประทานยาลดความอ้วนยี่ห้อลีน ซึ่งผลการตรวจร่างของผู้เสียชีวิตของแพทย์นิติเวชยืนยันสาเหตุการเสียชีวิตว่า หัวใจล้มเหลวจากผลแทรกซ้อนของสารไซบูทรามีน
ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 พ.ค. นายวุฒิกร หมอนอิง อายุ 30 ปี น้องชายของ น.ส.พิมลวรรณ เดินทางเข้าพบ ร้อยเวรเจ้าของคดีที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี เพื่อขอรับรายงานผลการตรวจศพของแพทย์นิติเวช โรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี พร้อมกับให้ปากคำเพิ่มเติม
โดยนายวุฒิกร กล่าวว่า ตนเดินทางมารับผลการชันสูตรเพื่อนำเอกสารหลักฐานดังกล่าวเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนกองปราบปราม ในวันที่ 16 พ.ค. เวลาประมาณ 09.00 น. เพื่อให้ดำเนินคดีกับบริษัทผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดังกล่าว โดยจะเดินทางไปพร้อมกับนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ทนายความส่วนตัว ซึ่งตนไม่ทราบมาก่อนว่าพี่สาวได้รับประทานอาหารเสริมยี่ห้อดังกล่าว มาทราบภายหลังจากที่พี่สาวได้เสียชีวิตลงแล้ว
ด้านร้อยเวรเจ้าของคดี เปิดเผยถึงความคืบหน้าในทางคดีว่า สำหรับผลการตรวจของแพทย์นิติเวชระบุถึงสาเหตุการตายว่า เป็นเพราะหัวใจล้มเหลวจากผลแทรกซ้อนของยาไซบูทรามีน ตนได้ทำการสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดังกล่าว โดยสอบไปแล้วประมาณ 6 ปาก เป็นตัวแทนจากพื้นที่กาญจนบุรี จำนวน 3 ปาก และจากพื้นที่กรุงเทพฯ จำนวน 3 ปาก ซึ่งแต่ละคนให้ข้อมูลตรงกันว่า ได้ทดลองรับประทานผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมาก่อ และเห็นผล โดยไม่มีผลข้างเคียงใดๆ จึงมีผู้สนใจสอบถาม จากนั้นจึงได้แนะนำต่อๆ กันไป ซึ่งทราบว่าตัวแทนแต่ละคนมีเครือข่ายประมาณ 30-40 คน และกลุ่มตัวแทนดังกล่าวมีอยู่ประมาณ 200 คน
“หากพาดพิงและเชื่อมโยงไปถึงใครก็จะเชิญมาให้ปากคำ ในส่วนของผู้เสียชีวิตได้สั่งซื้อมาจากตัวแทนในพื้นที่ อ.ท่าม่วง ซึ่งเป็นเพื่อนที่รู้จักกัน เนื่องจากเป็นผู้ปกครองของเพื่อนบุตรชาย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ รวมทั้งตรวจสอบประวัติสุขภาพของผู้เสียชีวิตจากโรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 19 ว่า ผู้เสียชีวิตมีโรคประจำตัวหรือไม่ เพื่อรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน” ร้อยเวรเจ้าของคดีกล่าว
