จากกรณีศาลปกครองตัดสินให้น.ส.บุญศรี น.ส.บุญศรี แสงหยกตระการ อายุ 65 ปี และน.ส.รัตนฉัตร แสงหยกตระการ อายุ 61 ปี เป็นฝ่ายชนะคดี และมีคำสั่งให้รื้อตลาดทั้ง 5 แห่งที่ตั้งอยู่บริเวณโดยรอบบ้านของน.ส.บุญศรี ภายใน 60 วัน ประกอบด้วย ตลาดร่มเหลือง ตลาดสวนหลวง , ตลาดรุ่งวานิชย์ , ตลาดเปิ้ลมาร์เก็ต และตลาดยิ่งนรา เมื่อวันที่ 16 พ.ค.ที่ผ่านมา อ่านข่าว : ป้าขวานเฮ! ศาลสั่งรื้อตลาดรอบบ้าน กทม.ชดใช้ค่าเสียหาย หลังโดนรถจอดขวางมา4ปี

ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 17 พ.ค. ที่บ้านพักของน.ส.บุญศรี และน.ส.รัตนฉัตร ภายในซอยหมู่บ้านเสรี (ซ.ศรีนครินทร์ 55) แขวงหนองบอน เขตประเวศ กรุงเทพฯ โดยน.ส.บุญศรี กล่าวว่า หลังจากที่ศาลตัดสินก็จะนำคำสั่งศาลมาติดป้ายไว้หน้าบ้านเพิ่มเติม เพื่อให้ประชาชนรู้ว่าเป็นพื้นที่ที่ศาลคุ้มครอง โดยจะไม่ถอดป้ายอื่นออกแต่จะติดเพิ่มเติม เพราะยังมีที่ว่างเหลืออยู่ ซึ่งคาดว่าจะสามารถติดได้เร็วๆนี้ ทั้งนี้ ก็เพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ความเดือดร้อน และการต่อสู้มาอย่างยาวนานหลายสิบปี

น.ส.บุญศรี กล่าวต่อว่า จากวันที่เกิดเหตุการณ์ทุบรถมาจนถึงวันที่ศาลตัดสิน ตลอดเวลาคือการรอความชัดเจน ซึ่งขณะนี้ก็มีความชัดเจนมากขึ้นแล้ว เรื่องโต้แย้งก็ไม่เกิดขึ้นอีก ความสงบสุขก็กลับสู่ผู้อยู่อาศัย ส่วนกรณีที่ทางกรุงเทพมหานครจะมีการยื่นอุทธรณ์นั้น ตนคิดว่า ขณะนี้ศาลพิจารณาและตัดสินแล้วว่าพื้นที่นี้เป็นพื้นที่ที่อยู่อาศัย ซึ่งควรเคารพการตัดสินของศาล ไม่ควรยืดเยื้อ เพราะศาลตัดสินว่าให้พื้นที่ดังกล่าวกลับคืนสู่สภาพที่อยู่อาศัย ซึ่งก่อนหน้านี้ก็อยู่อย่างสงบสุขมาตลอด กระทั่ง มาเกิดปัญหาขึ้น จึงอยากให้เจ้าหน้าที่รัฐเคารพการตัดสินครั้งนี้ แล้วยึดไปปฏิบัติและเยียวยาผู้ที่ได้รับความเดือดร้อนให้เร็วที่สุด อ่านข่าว : บรรยากาศวันแรก หลังศาลพิพากษาให้ “ป้าทุบรถ” ชนะคดี ตลาด 5 แห่ง รอบบ้านยังปกติ!

น.ส.บุญศรี กล่าวอีกว่า สำหรับกรณีหากมีการก่อสร้างอาคารพาณิชย์ หรือตึกแถวรอบบ้านนั้น ตามคำสั่งของศาลคือให้เป็นพื้นที่อาศัยในการก่อสร้างบ้านเดี่ยว ซึ่งชัดเจนอยู่แล้ว หากไปก่อสร้างตึกแถวก็จะเกิดข้อพิพาทไม่สิ้นสุด ผู้ว่ากรุงเทพมหานคร ผอ.สำนักงานเขตประเวศ ควรมีสำนึกในสิ่งที่เกิดขึ้น การละเมิดสิทธิของประชาชนที่เป็นผู้อยู่อาศัยถือว่าเป็นความเดือดร้อน และความเสียหายอย่างชัดเจน จึงควรนำไปปฏิบัติและไม่ควรไปทำแบบนี้กับสถานที่อื่น

“ขอให้คดีนี้เป็นคดีตัวอย่าง ส่วนกรณีที่ทางเจ้าของตลาดจะยื่นอุทธรณ์ ก็ถือเป็นสิทธิของเขา แต่สิทธิอันชอบธรรมที่จะอุทธรณ์หรือไม่ ต้องถามตัวเขาเองว่า เขาเป็นบุคคลที่นำความเดือดร้อนเข้ามาในสถานที่ หรือแสวงหาผลประโยชน์หรือไม่ เพราะตนอยู่ในพื้นที่ที่อยู่อาศัย จึงอยากให้ไตร่ตรองดูให้ดี” น.ส.บุญศรี กล่าว

น.ส.บุญศรี กล่าวว่า ส่วนกรณีที่มีเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานครเข้าไปเกี่ยวข้อง แต่ถูกลงโทษทางวินัยนั้น ถ้าการลงโทษทางวินัยเป็นโทษน้อยนิด แล้วการเยียวยาความเดือดร้อนของตนมาตลอด 10 ปี จะเยียวยาอย่างไร จึงอยากให้ผู้บังคับบัญชาของบุคคลกระทำความผิด ได้รับบทลงโทษที่สมเหตุสมผลกับสิ่งที่เกิดขึ้น ยืนยันไม่ได้โกรธแค้นแต่อย่างใด ส่วนเรื่องข้อพิพาทระหว่างบ้านของตนกับตลาดทั้ง 5 แห่งรอบบ้าน ตนยืนยันว่า ไม่ได้โกรธแค้นพ่อค้าแม่ค้า

“แต่กรณีที่เกิดขึ้นเริ่มจากการที่กรุงเทพมหานคร ผอ.สำนักงานเขตประเวศ ออกใบอนุญาตที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ส่วนของพ่อค้าแม่ค้าตนไม่ได้ฟ้อง แต่ตนได้รับความเดือดร้อนจากผู้ที่เข้ามาทำการพาณิชย์ในนี้ มันเป็นความเดือดร้อนที่เกิดขึ้น ผู้รับผิดชอบต้องนำสิ่งเหล่านี้ออกไปสู่สถานที่ที่เหมาะสม และต้องช่วยเหลือพ่อค้าแม่ค้าให้มีที่ทำมาหากิน ตนไม่ได้โกรธแค้นผู้ค้าแต่อย่างใด และยินดีเป็นลูกค้าหากจัดระเบียบผู้ค้าให้ไปอยู่ในที่ที่เหมาะสม ไม่รบกวนสิทธิประชาชน” เจ้าของบ้าน กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน