เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 18 พ.ค. 61 ที่ห้องประชุมที่ว่าการ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส นายรุ่งเรือง ธิมาบุตร นายอำเภอสุไหงปาดี ร.ท.สมจิตร สุวรรณชาติ ผบ.ร้อย ทพ.4802 เจ้าหน้าที่ทหารชุดเฉพาะกิจนราธิวาส 30 และผู้ที่เกี่ยวข้อง ได้ควบคุมตัวผู้ต้องหามาแถลง ประกอบด้วย น.ส.นา เจ๊ะอาลี อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36 ม.3 ต.ปูโยะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส, น.ส.นอร์มา ตาพุด อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 49/2 ม.3 ต.ปูโยะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส และนายอนุสรณ์ เจ๊ะอีซอ อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 35/3 ม.3 ต.ปูโยะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส พร้อมยาบ้า 1,494 เม็ด เงินสดสกุลริงกิตประเทศมาเลเซีย ธนบัตรไทยและเงินสดสกุลวอนของประเทศเกาหลี รวมทั้งสิ้น 145,440 บาท รถจักรยาน 1 คัน โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง และสมุดบัญชีธนาคาร
สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 15.00 น.ของวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา รับแจ้งว่าจะมีการส่งมอบยาเสพติดในพื้นที่บ้านใหม่ ม.1 ต.สุไหงปาดี นายรุ่งเรืองจึงขอสนับสนุนกำลังเจ้าหน้าที่ทหารพราน ร้อย ทพ.4802 และเจ้าหน้าที่ทหารชุดเฉพาะกิจนราธิวาส 30 ร่วมสนธิกำลัง 30 นาย ไปตั้งจุดตรวจจุดสกัดที่บริเวณถนนในหมู่บ้านดังกล่าว และพบน.ส.นา เจ๊ะอาลี ขับรถจักรยานยนต์ผ่านมาอย่างมีพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น พบยาบ้า 934 เม็ด พร้อมโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวมาสอบสวนที่ห้องปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด อ.สุไหงปาดี
จากการสอบสวนน.ส.นา เจ๊ะอาลี ให้การรับสารภาพว่า ยาเสพติดดังกล่าวเป็นของนายอัสมิง สะมะแอ อายุ 27 ปี ซึ่งตนรับจากนายอัสมิง มาขายต่อ 1 ถุง มี 200 เม็ด จะได้ค่าตอบแทนเป็นเงิน 500 บาท และน.ส.นา เจ๊ะอาลี ได้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ ด้วยการโทรศัพท์ไปยังนายอัสมิง เพื่อสั่งยาบ้าเพิ่มให้กับลูกค้า โดยนายอัสมิงให้น.ส.นา เจ๊ะอาลี ไปรับยาบ้าที่บ้านของน.ส.นอร์มา เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวน.ส.นา เจ๊ะอาลี ไปรับยาบ้าที่บ้านดังกล่าว จำนวน 560 เม็ด
เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดยาบ้าและควบคุมตัว น.ส.นอร์มา และนายอนุสรณ์ ซึ่งอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว มาทำการสอบสวนขยายผลอีกครั้งที่ห้องปฏิบัติการปราบปรามยาเสพติด อ.สุไหงปาดี โดยนายอนุสรณ์ ให้การปฏิเสธไม่มีส่วนเกี่ยวข้องแต่เป็นความบังเอิญที่เดินผ่านบ้าน น.ส.นอร์มา ขณะที่เจ้าหน้าที่บุกจับกุม แต่เจ้าหน้าที่ได้ทำการส่งตรวจปัสสาวะ พบว่าเป็นสีม่วง เจ้าหน้าที่จึงได้คุมตัวดำเนินคดีในข้อหาเสพยาเสพติด
จนกระทั่งเวลา 21.00 น.ของวันเดียว นายรุ่งเรืองได้นำกำลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นบ้านของนายอัสมิง จากความร่วมมือของน.ส.นา เจ๊ะอาลี และน.ส.นอร์มา ซึ่งพบว่านายอัสมิงไหวตัวหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ไปได้ จากการตรวจค้นบ้านพักของนายอัสมิง เจ้าหน้าที่พบเงินสดสกุลริงกิต ประเทศมาเลเซีย ธนบัตรไทย และเงินสดสกุลวอนของประเทศเกาหลี รวมทั้งสิ้น 145,440 บาท และสมุดบัญชีธนาคาร ซึ่งซุกซ่อนอยู่ภายในห้องนอน เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด้าน นายรุ่งเรือง เปิดเผยว่า ส่วนกรณีโทรศัพท์มือถือของน.ส.นา เจ๊ะอาลี ที่เจ้าหน้าที่ยึดไว้เป็นของกลางนั้น จากการตรวจสอบในเบื้องต้นของเจ้าหน้าที่หน่วยความมั่นคง พบว่าหมายเลขโทรศัพท์เบอร์ดังกล่าว มีส่วนพัวพันและโยงใยกับเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในพื้นที่ อ.สุไหงปาดี และ อ.สุไหงโก-ลก เมื่อปี พ.ศ. 2560 ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะทำการขยายผล น.ส.นา เจ๊ะอาลี ถึงที่มาที่ไปของโทรศัพท์หมายเลขดังกล่าวต่อไป
