วันที่ 18 พ.ค. พล.ต.ต.ปรีชา วิมลไชยจิต ผบก.ภ.จว.แม่ฮ่องสอน ได้สั่งการไปยัง พ.ต.อ.สันติ สุภา ผกก.สภ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน ให้สอบปากคำ นายเอ (นามสมมุติ) อายุ 59 ปี และ น.ส.บี (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นสามีภรรยากัน และเป็นชาวบ้าน ต.แม่อูคอ อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน หลังจากนายเอ อายุ 59 ปี ร้องเรียนสื่อมวลชนว่า มีผู้มีอิทธิพลรายหนึ่งในหมู่บ้าน ข่มขืนภรรยาของตน ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นต่อเนื่องมาเกือบปีแล้ว
ด้าน พ.ต.ท.ชาญวิทย์ ธรรมรักษ์ รอง ผกก.สส.สภ.ขุนยวม เปิดเผยว่า ชุดสืบสวนได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปรับตัว น.ส.บี มาสอบปากคำและแจ้งความเพื่อเอาผิดกับ นายซี (นามสมมุติ) ที่ถูกกล่าวหาว่าข่มขืน น.ส.บี โดยจะให้สหวิชาชีพสอบปากคำในวันที่ 21 พ.ค.นี้ สำหรับนายซี เคยได้รับการยืนยันจากนายดี (นามสมมุติ) กำนันตำบลแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.ขุมยวม ซึ่งเป็นลูกชายว่า ว่าพ่อป่วยเป็นโรคประสาทมาก่อน และเคยต้องคดีฆ่าคนตาย ซึ่งกรณีดังกล่าวหากป่วยจริงจะต้องมีการรักษา และมีผลการรักษาจากแพทย์อย่างถูกต้อง ไม่ใช่ว่าอ้างว่าป่วยและจะทำอะไรผิดกฎหมายอย่างไรก็ได้
ขณะที่นายเอ กล่าวว่า เมื่อประมาณต้นปีพ.ศ.2561 นายซี ได้มาชอบพอกับภรรยาตน โดยได้มีการข่มขู่หมายเอาชีวิตตน ทำให้ต้องหลบหนีออกจากบ้านของตัวเองไปหลบซ่อนตัวในป่า และอาศัยตามบ้านญาติในหมู่บ้านมาแล้วกว่า 3 เดือน ต่อมาภายหลังทราบจากภรรยาว่าได้ถูกนายซี ข่มขืน ตนจึงได้ร้องเรียนไปยังกำนัน แต่ไม่มีการดำเนินการแก้ไขหรือดำเนินการตามกฎหมายแต่อย่างใด
สำหรับนายซี เคยถูกราษฎรในหมู่บ้านร้องเรียนเรื่องการบุกรุกป่าและปิดเส้นทางเข้า-ออก ในการเดินทางไปทำสวนและไร่ข้าวของราษฎรกว่า 10 รายมาแล้วหลายครั้ง ล่าสุด นายมานพ สายอุ่นใจ ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม่ที่ 1 สาขาแม่ฮ่องสอนได้รับแจ้งจากนายทวีชัย กันทใจ หัวหน้าหน่วย มส.3 อำเภอขุนยวม ว่าวันที่ 11 พ.ค. เวลา 08.00 น. เจ้าหน้าที่หน่วย มส.3 (อำเภอขุนยวม) ร่วมประชุมที่ศูนย์ดำรงค์ธรรมอำเภอขุนยวม พร้อมกับเจ้าหน้าที่ทหารพราน, เจ้าหน้าที่ มว.ตชด.3362, เจ้าหน้าที่ กก.4 บก.ปทส., ฝ่ายปกครองอำเภอขุนยวม, กำนัน, ผู้ใหญ่บ้านและคณะครู ร.ร.พุทธเกษตร เพื่อหารือเกี่ยวกับกรณีร้องเรียนที่บ้านใหม่พัฒนา หมู่ 4 ต.แม่อูคอ อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน ผลสรุปให้ นายซี ล้อมรั้วบริเวณที่อยู่อาศัยและเปิดทางสัญจรโดยไม่ให้ปิดแบบถาวร สั่งการให้เข้าไปดำเนินการตรวจสอบพื้นที่ที่มีการบุกรุกป่า และล่าสุดเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่า ได้สั่งการให้เลิกล้อมรั้วปิดกั้นทางเดินเข้าสู่ที่ทำกินของราษฎรรายอื่นๆ มาแล้วนอกจากนั้นยังสั่งให้กั้นรั้วด้านอื่นเพื่อแสดงแนวเขตที่ชัดเจน
ในส่วนของกรณีการข่มขืนภรรยาของนายเอ ทางมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้รับเรื่องร้องเรียนดังกล่าว และได้ประสานมายังสำนักงานพัฒนาเพื่อความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) แม่ฮ่องสอนแล้วแต่ยังไม่มีความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด
