จากกรณีที่มีการแชร์คลิปเรือประมงลำหนึ่งนำฉลามวาฬขึ้นเรือ ก่อนจะถูกกลุ่มนักดำน้ำจากเรือไดรฟ์วิ่งลำหนึ่งช่วยกันกดดันจนทำต้องปล่อยกลับลงทะเล โดยระบุว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นกลางทะเลใกล้เกาะราชา อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 18 พ.ค.

ล่าสุดเมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 18 พ.ค. กัปตันพร้อมลูกเรือ “แสงสมุทร 3” ซึ่งเป็นเรือประมงอวนลากที่ระบุว่าจับฉลามวาฬได้นั้น ได้นำเรือเข้ามาเทียบท่าบริเวณท่าเรือแพปลาแสงอรุณใน ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต ตามที่ได้แจ้งไว้กับศูนย์ควบคุมการแจ้งเข้า-ออก เรือประมง เขต 3 (ภูเก็ต)

เจ้าหน้าที่ตรวจหน้าท่าของศูนย์ฯ จึงมารับรายงานตามขั้นตอน โดยมีนายวัชรินทร์ รัตนชู ผู้อำนวยการ ศูนย์ควบคุมการแจ้งเข้า-ออก เรือประมง เขต 3 (ภูเก็ต), น.อ.สมศักดิ์ อินทรเสมา หัวหน้าศูนย์ฯ, นายโกวิทย์ เก้าเอี้ยน ประมงจังหวัดภูเก็ต ตลอดจนเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้มาตรวจสอบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งในส่วนของเอกสารไต้ก๋งเรือ ลูกเรือ อุปกรณ์ในการจับปลา, ชนิดของปลาที่จับได้เบื้องต้นทุกอย่างเป็นไปตามที่ขออนุญาต และไม่พบปลาที่ผิดกฎหมาย จากนั้นได้ทำการสอบปากคำลูกเรือทั้งหมดที่อยู่ในเหตุการณ์ ก่อนรวบรวมรายละเอียดทั้งหมด เพื่อพิจารณาว่าเข้าข่ายความผิดใด หากพบกระทำความผิดชัดเจนก็จะแจ้งความดำเนินคดีต่อไป เนื่องจากฉลามเป็นสัตว์ห้ามทำการประมง และเป็นสัตว์คุ้มครองตามกฎหมาย (ประเภทปลา ลำดับที่ 6) รวมทั้งห้ามนำขึ้นบนเรือด้วย จากการสอบถามนายสมสมัย มีจอม อายุ 55 ปี ไต้ก๋งเรือ “แสงสมุทร 3” กล่าวว่า ช่วงบ่ายของวันที่ 18 พ.ค. ขณะอยู่บริเวณใกล้กับเกาะราชาได้ทำการกู้อวนขึ้นมาบนเรือ รู้สึกว่าค่อนข้างหนัก แต่ไม่รู้ว่าเป็นอะไร เมื่อเทปลาออกจากอวนก็เห็นว่ามีฉลามวาฬติดมาด้วย จึงพยายามช่วยกันจะดันลงทะเล แต่ทำได้ลำบาก เนื่องจากฉลามวาฬมีขนาดใหญ่มาก คาดว่าจะมีน้ำหนักประมาณ 800 กิโลกรัม ประกอบกับเรืออยู่สูง จึงต้องใช้เครนยกตามที่ปรากฏในภาพ ระหว่างนั้นก็มีเรือไดร์ฟวิ่งมาเทียบและพยายามบอกให้ปล่อย คนงานบนเรือก็พยายามช่วยกันจนสามารถผลักลงไปในน้ำให้ได้จนสำเร็จ ขณะที่ตกลงไปในน้ำก็เห็นมันว่ายน้ำออกไป โดยไม่มีอาการบาดเจ็บแต่อย่างใด เท่าที่เห็นฉลามวาฬตัวนี้ก็ไม่ได้ตั้งท้อง รวมระยะเวลาที่เกิดเหตุการณ์ประมาณ 15 นาที นายสมสมัย กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาทำอาชีพนี้มาร่วม 20 ปี ไม่เคยเจอฉลามวาฬหรือสัตว์ทะเลขนาดใหญ่มาติดอวน ครั้งนี้เป็นครั้งแรก ตนทราบดีว่าฉลามวาฬเป็นสัตว์สงวน หากจับหรือนำขึ้นเรือจะมีความผิด แต่เหตุที่นำขึ้นมาบนเรือด้วย เพราะไม่ทราบว่าเป็นฉลามวาฬ จึงไม่ได้ตัดอวนเพื่อให้มันหลุดไป แต่พอเอาขึ้นมาบนเรือ เราก็พยายามช่วยมันนำกลับลงไปในน้ำ ไม่มีเจตนาในการทำร้ายฉลามวาฬ โดยทุกคนพยายามช่วยให้มันกลับลงไปในทะเลอย่างเต็มที่ ไม่ได้คิดจะจับ ขอสังคมอย่ารีบติดสิน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน