วันที่ 23 พ.ย. พระอธิการพรหมวุฒิชยาภินันโท เจ้าอาวาสวัดโพรงจระเข้ อ.ย่านตาขาว จ.ตรัง เดินทางเข้าแจ้งความที่ สภ.ในควน หลังจากเมื่อกลางดึกวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา ถูกคนร้ายยิงปืนข่มขู่ใกล้ๆ กับวัดหลายนัด กระสุนแฉลบมาถูกหลังคากุฎิจนได้รับความเสียหาย
พระอธิการพรหมวุฒิชยาภินันโท กล่าวว่า เมื่อวันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้มีกลุ่มคนไม่หวังดีจำนวน 50 คน บุกรุกเข้ามาก่อความวุ่นวาย ข่มขู่คุกคาม บริเวณกุฏิภายในวัด และก่อกวนทำลายพิธีกรรมขณะกำลังถวายองค์กฐิน โดยมีจุดประสงค์เพื่อขับไล่และถอดถอนตนออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาส โดยอ้างว่าประพฤติปฏิบัติตัวไม่เหมาะสมกับความเป็นสมณะตามวินัยสงฆ์ เช่นไม่เดินออกบิณฑบาต ไว้หนวดเครา และบวชแม่ชีให้นอนหน้าโรงธรรมภายในวัด รวมทั้งอวดอุตริรักษาคนไข้ได้ ซ้ำกล่าวหาว่าใช้จ่ายเงินวัดโดยไม่มีบัญชีรายรับรายจ่าย อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ทางคณะสงฆ์ จ.ตรัง ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริง และสรุปว่าตนไม่มีความผิดทางวินัยสงฆ์ร้ายแรงตามที่ถูกกล่าวหา
“สำหรับประเด็นขัดแย้งดังกล่าว เริ่มขึ้นประมาณ 3-4 ปีที่ผ่านมา หลังจากตนได้หันมาทำกิจกรรมด้านพระพุทธศาสนาแบบเชิงรุก จนมีผู้มีจิตศรัทธานำปัจจัยมาถวายอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ผู้นำในชุมชนบางคนไปรวมตัวกับชาวบ้านออกมากล่าวหาว่า ตนมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เพียงเพื่อที่จะต้องการเข้ามาบริหารจัดการเงินของวัดโพรงจระเข้เอง ซึ่งตนก็ไม่ยอมรับบุคคลที่ถูกเสนอชื่อมา เนื่องจากตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาบุคคลเหล่านั้นเคยมีการพูดจาให้วัดเสียหายมาตลอด กระทั่งเป็นที่มาของการรวมตัวกันขับไล่ตนออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาส จนตนต้องเดินทางออกจากวัดไประหว่างวันที่ 17-22 พ.ย. เพื่อลดปัญหาความขัดแย้ง แต่ล่าสุดเมื่อวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้มีหนังสือจากคณะ จ.ตรัง ที่ 18/2559 แจ้งมาว่า ขอยกเลิกคำสั่งถอดถอนพระสังฆาธิการออกจากตำแหน่งหน้าที่ ซึ่งมีผลทำให้ตนสามารถกลับมาทำหน้าที่เจ้าอาวาสวัดดังเดิม” พระอธิการพรหมวุฒิชยาภินันโท กล่าว
ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ระหว่างที่ตนไม่อยู่ที่วัดโพรงจระเข้ ปรากฎว่า บรรดาพระภิกษุ สามเณร และแม่ชี ที่อาศัยอยู่ภายในวัด กลับถูกบุคคลไม่ประสงค์ดี ข่มขู่คุกคามจำนวนหลายครั้ง จนสร้างความหวาดกลัวและเสียขวัญให้เป็นอย่างมาก ล่าสุดเมื่อคืนวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา ยังได้มีกลุ่มคนนำอาวุธปืนมายิงบริเวณใกล้วัดอีกจำนวนหลายนัด และกระสุนบางนัดก็แฉลบมาถูกหลังคากุฎิจนได้รับความเสียหายด้วย ตนจึงรวมตัวมาแจ้งความดังกล่าว เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริง และขอให้มีการจัดชุดรักษาความปลอดภัยเข้ามาดูแลที่วัดแห่งนี้ด้วย เพราะสถานการณ์เลวร้ายจากกลุ่มคนไม่หวังดียังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
