เมื่อวันที่ 23 พ.ค. พ.ต.อ.อดิศักดิ์ เทพวรรณ์ ผกก.สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ควบคุมตัวนายนมัสการ อายุ 32 ปี ชาวต.ท่าวัง อ.เมือง ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช ในคดีลักทรัพย์หลายคดีในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่บริษัทซิงเกอร์ สาขาย่อยสถานีรถไฟ ต.ท่าวัง อ.เมือง หลังจับกุมได้เมื่อวันที่ 22 พ.ค. ที่ผ่านมา

เจ้าหน้าที่ตร.คุมตัวผู้ต้องหาทำแผนก่อเหตุลักทรัพย์

ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากเกิดเหตุคนร้ายบุกเข้าโจรกรรมทรัพย์ตามสถานประกอบการต่างๆ ในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราชมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งบริษัทซิงเกอร์ สาขาย่อยสถานีรถไฟ มีนายจิระพัฒน์ แสนเสนา เป็นผู้จัดการ เข้าแจ้งความกับตำรวจไว้ว่า มีคนร้ายบุกเข้ามาทางด้านหลังปีนหลังคาบนชั้น 2 แล้วลงมาขโมยทรัพย์สินทั้งเงินสดรวมทั้งเครื่องใช้ไฟฟ้ามาแล้วถึง 4 ครั้ง ทำให้ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก

เจ้าหน้าที่ตร.คุมตัวผู้ต้องหาทำแผนขโมยทรัพย์สินที่บริษัทฯ

อย่างไรก็ตาม ขณะที่คนร้ายเข้าไปขโมยทรัพย์สินภายในร้านดังกล่าว มีกล้องวงจรปิดสามารถจับภาพคนร้ายขณะก่อเหตุไว้ได้อย่างละเอียด ต่อมาตำรวจนำภาพวงจรปิดมาตรวจสอบและสืบสวนสอบสวนและไปขอหมายจับจากศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช หลังศาลอนุมัติหมายจับทางตำรวจก็สามารถจับกุมคนร้ายได้ที่บ้านพัก พร้อมนำตัวมาสอบสวน ในที่สุดนายนมัสการ ให้การรับสารภาพข้อกล่าวหา

กล้องวงจรปิดจับภาพผู้ต้องหาขณะก่อเหตุ

พ.ต.อ.อดิศักดิ์ เทพวรรณ ผกก.สภ.เมือง กล่าวว่า ครั้งแรกการสอบปากคำนายมนัสการให้การปฏิเสธ แต่เมื่อตำรวจนำภาพวงจรปิดมาเปรียบเทียบกับรอยสักในตัวที่เห็นอย่างชัดเจน ผู้ต้องหาจึงสารภาพว่า เป็นคนก่อเหตุลักทรัพย์ภายในสถานที่ต่างๆจริง โดยเข้าไปขโมยทรัพย์สินที่ร้ายบริษัทซิงเกอร์แห่งนี้ 4 ครั้ง ร้านขายของชำ ถนนพัฒนาการคูขวาง 3 ครั้ง และยังขโมยรถจักรยาน 2 ล้อพื้นที่ ต.โพธิ์เสด็จ อีก 1 ครั้ง รวม 8 ครั้ง จึงเข้ารวบตัวได้ขณะพาภรรยาไปรักษาตัวที่ รพ.มหาราชนครศรีธรรมราช ก่อนคุมตัวมาสอบสวน

นอกจากนั้นนายนายมนัสการ ยังให้การอีกว่า ส่วนใหญ่จะเลือกก่อเหตุในช่วงหลังเที่ยงคืน เนื่องจากผู้คนเริ่มพักผ่อนและปลอดสายตาประชาชน โดยเลือกอาคารที่ไม่มีคนอาศัย และเป็นคนว่างงาน อีกทั้งยังมีโรคประจำตัวคือโรคเอดส์ หลังจากได้ทรัพย์สินมาแล้วจะนำไปขายในราคาถูก เอาเงินมารักษาตัว เนื่องจากกำลังป่วยเป็นโรคเอดส์กับภรรยา กระทั่งมาโดนจับกุม และหลังจากทำแผนเสร็จแล้วเจ้าหน้าที่จึงนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมือง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

สำหรับภาพจากกล้องวงจรปิดพบว่านายมนัสการ กำลังปีนหลังคาทางด้านหลังร้านชั้น 2 เข้าไปรื้อค้นทรัพย์สินต่างๆ ตามลิ้นชักในร้าน โดยขณะก่อเหตุนายมนัสการหันไปเห็นกล้องวงจรปิดอยู่รอบ จึงใช้ทั้งกระจก และกล่องกระดาษมาปิดบังใบหน้า แต่ก่อนปิดใบหน้านั้นกล้องจับภาพไว้ได้อย่างละเอียดยิบ จนเจ้าหน้าที่ได้นำไปเป็นหลักฐานก่อนจะออกไล่ล่าจับกุมได้ในที่สุด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน