จากกรณีกลุ่มชาวบ้านวัดตราชู ต.บ้านหม้อ อ.พรมบุรี จ.สิงห์บุรี เข้าร้องเรียนกองปราบปราม เพื่อให้ช่วยตามหาพระพุทธรูปสมัยรัชกาลที่ 4 รวม 3 องค์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในพื้นที่ เก็บรักษาไว้บนหอระฆังวัดตราชู ถูกมือดีฉกหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ มาทราบว่าหายไปแล้วเมื่อปี 2559 โดยชาวบ้านระบุว่าได้สอบถามพระครูไกรศร วิลาศ เจ้าอาวาสวัดตราชู ซึ่งเป็นผู้ถือกุญแจหอระฆัง ก็บอกไม่รู้และจะตามหามาคืนให้ สุดท้ายไปเอาพระอื่นมาแทน สร้างความไม่พอใจให้กับชาวบ้าน จากนั้นเจ้าอาวาสหายตัวไปเมื่อเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา ตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น
ตำรวจสอบเจ้าอาวาสวัดดังสิงห์บุรี หลังตกเป็นผู้ต้องหาคดีขโมยพระพุทธรูปโบราณไปขาย
สำหรับความคืบหน้า เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 24 พ.ค. พ.ต.อ.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบก.ป. พ.ต.อ.แมน เม่นแย้ม ผกก.4 บก.ป. พร้อมกำลังนำหมายจับศาลอาญา เข้าจับกุมพระครูวิลาสกิจจานุกูล รองเจ้าอาวาสวัดกุฎีทอง อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี ในข้อหาเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานและมีหน้าที่ซื้อทำจัดการหรือรักษาทรัพย์ใด หรือเป็นของผู้อื่นหรือโดยทุจริต ยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย และพระครูไกรศร วิลาศ เจ้าอาวาสวัดตราชู ในข้อหาเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อทำจัดการหรือรักษาทรัพย์ใดหรือเป็นของผู้อื่นหรือโดยทุจริต ยอมให้ผู้อื่นเอาทรัพย์นั้นเสีย หลังจากก่อนหน้านี้มีชาวบ้าน ต.บ้านหม้อ อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี เข้าแจ้งความร้องว่าพระพุทธรูปบูชาเก่าแก่ของวัดได้หายไป
พ.ต.อ.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตั้งแต่รับเรื่องร้องเรียนก็ส่งทีมสืบสวนลงพื้นที่สืบหาเบาะแส จนทราบว่าพระทั้ง 2 รูปนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว โดยทราบว่าพระครูไกรศร เป็นผู้นำเอาพระพุทธรูปบูชา ทั้ง 3 องค์ไปขอแลกกับเงินสด 2 แสนบาทจากพระครูวิลาสกิจจานุกูล ซึ่งหลังจากทราบว่ากองปราบปรามเข้ามาสืบสวนพระครูไกรศรก็หลบหนีออกจากวัดไป ต่อมาพนักงานสอบสวนได้รวบรวมพยานหลักฐาน และขออนุมัตศาลเพื่อออกหมายจับ
พ.ต.อ.จรูญเกียรติ กล่าวอีกว่า ต่อมาวันนี้ทราบว่าพระครูไกรศรเพิ่งจะกลับมาอยู่ที่วัดตราชูได้เพียงไม่วัน จึงนำกำลังเข้าควบคุมตัว ส่วนกำลังอีกชุดก็เข้าคุมตัวพระครูวิลาสกิจจานุกูล ได้ที่วัดกุฎีทอง เบื้องต้นสอบสวนพระทั้ง 2 รูปได้ให้การปฏิเสธ จึงควบคุมตัวมาสอบปากคำและดำเนินคดีที่กองปราบปราม
