เมื่อวันที่ 24 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณป่าด้านหลังห้องน้ำใกล้ผามออีแดง เขตอุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ พ.อ.จักรพงศ์ จันทร์สุทธิประภา ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 6 และผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี สืบทราบว่ามีขบวนการมอดไม้จากประเทศกัมพูชาแอบลักลอบตัดไม้พะยูงบริเวณติดกับแนวชายแดนไทย-กัมพูชา และมีชาวไทยที่อาศัยอยู่ตามแนวชายแดนเป็นคนชี้เป้าให้ชาวกัมพูชาเข้ามาตัดไม้จึงนำกำลังทหารหน่วยเฉพาะกิจที่ 1 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารพรานจากหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 23 และเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนที่ปฏิบัติหน้าที่บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชาใกล้กับปราสาทพระวิหารทำการปิดล้อมเพื่อจับกุม แต่ปรากฏว่า แก๊งมอดไม้ซึ่งคาดว่ามีประมาณ 30 คน ได้ไหวตัวและวิ่งหลบหนีเข้าไปในป่าทึบติดกับเขตประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้วิ่งไล่ติดตามและสามารถไล่ตะครุบจับกุมไว้ได้ จำนวน 1 คน เป็นชาวกัมพูชา พร้อมตรวจยึดไม้พะยูงขนาดใหญ่ที่ถูกตัดเป็นท่อน จำนวน 10 ท่อน รวมปริมาตรจำนวน 1.44 ลบ.ม. หากส่งไม้พะยูงทั้งหมดไปขายต่างประเทศจะมีมูลค่าประมาณ 5,000,000 บาทจากการสอบสวนชายชาวกัมพูชาที่ถูกจับกุม ให้การว่า ชื่อนายอำ ราวี อายุ 20 ปี เป็นชาวบ้านโอสะวาย ต.โอสะวาย ต.ตะเปียงปราสาท จ.อุดรมีชัย ประเทศกัมพูชา แอบลักลอบเข้าในเขตแดนไทยกับพวก จำนวน 30 คน เมื่อช่วงเวลาประมาณ 22.00 น. ของวันที่ 23 พ.ค. เพื่อเข้ามาลักลอบตัดไม้พะยูงตามแนวชายแดนไทย โดยจะมีชาวไทยคนหนึ่งอยู่หมู่บ้านใกล้ชายแดนเป็นคนชี้เป้าให้ทราบว่า มีไม้พะยูงบริเวณใดบ้าง เมื่อตัดไม้พะยูงได้แล้วและเตรียมลำเลียงไม้พะยูงทั้ง 10 ท่อน เข้าไปในเขตประเทศกัมพูชา ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ทหารจับกุม ส่วนเพื่อนที่มาด้วยกันวิ่งหลบหนีไปได้ แต่ตนวิ่งหนีไม่ทัน เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมของกลางไปส่งมอบให้พนักงานสอบสวน สภ.บึงมะลู เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายและจะติดตามจับกุมคนร้ายที่ยังหลบหนีต่อไปพ.อ.จักรพงศ์ จันทร์สุทธิประภา ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี กล่าวว่า กลุ่มชาวกัมพูชาได้แอบแทรกซึมเข้ามาเพื่อหาตัดไม้พะยูงตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยจะลักลอบเข้ามาในเวลากลางคืน เพื่อพยายามหลบหนีการลาดตระเวนตรวจค้นตามแนวชายแดนอย่างเข้มงวดของเจ้าหน้าที่ เหตุที่มีการแอบลักลอบตัดไม้ตามแนวชายแดน และขยายพื้นที่เข้ามาลักลอบตัดไม้พะยูงในเขตเมือง ตามวัด โรงเรียน และที่สาธารณะต่างๆ เนื่องจากคนร้ายมีการพัฒนาการตัดไม้พะยูงด้วยเลื่อยที่ไม่ให้มีเสียงดังมาก และมีการแอบลักลอบตัดไม้พะยูงอยู่เสมอ

พ.อ.จักรพงศ์ กล่าวต่อว่า แม้เจ้าหน้าที่จะสามารถจับกุมได้อย่างต่อเนื่อง แต่เนื่องจากโทษของการลักลอบตัดไม้พะยูงไม่หนักมาก เมื่อเจ้าหน้าที่จับกุมได้และโดนจำคุกได้ไม่นานก็ออกมาลักลอบตัดไม้พะยูงอีกเช่นเดิม ตนจึงขอเสนอว่า ควรจะมีการเพิ่มโทษเกี่ยวกับการลักลอบตัดไม้พะยูงและโทษเกี่ยวกับยาเสพติดให้สูงมากกว่านี้ เพื่อที่จะเป็นการป้องกันไม่ให้มีการแอบลักลอบตัดไม้พะยูงและป้องกันไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอีกต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน