ตร.ภ.4 รวบแก๊งไนจีเรียร่วมภรรยาชาวไทย หลอกเงินสาวอีสานสูญครึ่งล้าน อ้างตัวเป็นวิศวกร บริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก ต้องการมาเที่ยวไทยแต่เข้าประเทศไม่ได้เพราะต้องเสียภาษี ตำรวจเร่งล่าทั้งขบวนการคาดมีผู้ถูกหลอกจำนวนมาก โดยเฉพาะหญิงสาวสูงอายุที่ต้องการมีสามีเป็นชาวต่างชาติ

201611241302324-20161102133616

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 24 พ.ย. ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 4 (บก.สส.ภ.4) จ.ขอนแก่น พล.ต.ต.จตุพล ปานรักษา รักษาการ ผบช.ภ.4 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ฐากูร นัทธีศรี รอง ผบช.ภ.4 พล.ต.ต.ยรรยง เวชโอสถ ผบก.สส.ภ.4 พ.ต.อ.พงศ์ฤทธิ์ คงศิริสมบัติ ผกก.สส.3บก.สส.ภ.4 และ พ.ต.อ.เจษฎา สวยสม ผกก.3บก.ทท.

201611241302322-20161102133616

ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมนายโอคูตอร์ โอเดรียน ปีเตอร์ อายุ 29 ปี สัญชาติไนจีเรีย นายเจเรไมล์ สตัดเดย ดิออน อายุ 27 ปี สัญชาติไนจีเรีย น.ส.เจรติ สายสิน อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 79/29 ม.3 ต.บ้านฉาง อ.บ้านฉาง จ.ระยอง น.ส.ณัฐชา ทองใบ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 102 ม.4 ต.คำไผ่ อ.ไทยเจริญ จ.ยโสธร และน.ส.เกศรา มากศรี อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 17 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กรุงเทพฯ

พร้อมของกลางสมุดบัญชีธนาคารพาณิชย์ ที่เปิดให้บริการในประเทศไทยทุกธนาคาร และบัตรเอทีเอ็ม รวม 20 รายการ โทรศัพท์มือถือ 15 เครื่อง คอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ค 1 เครื่อง และทรัพย์สินมีค่าต่างๆรวมกว่า 50 ราย การ หลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน 3 บก.สส.ภ4 ติดตามจับกุมตัวได้ที่คอนโดหรูแห่งหนึ่ง ในเขตบางกะปิ

พล.ต.ต.จตุพล ปานรักษา รักษาการ ผบช.ภ.4 กล่าวว่า ในขณะจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งหมดซึ่งพักอาศัยอยู่ในคอนโดชื่อดัง ที่กรุงเทพฯ ได้พยายามทำลายของกลางด้วยการฉีกสมุดบัญชีธนาคารและบัญชีรายชื่อของผู้ที่เตรียมการที่หลอกให้โอนเงิน

ซึ่งจากการสืบสวนสอบสวนพบว่า กลุ่มขบวนการชาวต่างชาติที่เข้ามากระทำความผิดดังกล่าวนี้ อยู่ในเครือข่ายหลอกลวงชาวไนจีเรีย ที่กระทำกันเป็นขบวนการ โดยเข้ามาประเทศไทยและขอวีซ่านักท่องเที่ยวเข้ามาในปี 2557 และขณะนี้วีซ่าได้หมดอายุแล้ว และขาดการต่ออายุมานานกว่า 2 ปี ขณะที่พฤติกรรมของการหลอกหลวงนั้น ตำรวจได้รับแจ้งจาก เจ้าของสวนยางพารา รายใหญ่ของภาคอีสานว่า ถูกชาวต่างชาติหลอกให้โอนเงินไปแล้วกว่า 500,000 บาท ด้วยการติดต่อกันผ่านทางเฟซบุ๊ก

รักษาการ ผบช.ภ.4 กล่าวต่อว่า เจ้าหน้าที่จึงทำการแกะรอยและสืบสวนสอบสวนจนพบว่า เฟซบุ๊กที่ใช้ในการพูดคุยกับเหยื่อชื่อ Bush Bush มีการนำภาพของบุคคลอื่นมาใช้ และอ้างตัวว่าเป็นวิศวกร บริษัทชื่อดังระดับโลกและต้องการเดินทางเข้ามาเที่ยวประทเศไทย หรือต้องการพาแฟนสาวชาวไทย จึงมีการพูดคุยกันนานกว่า 6 เดือน หญิงสาวชาวไทย ที่ถูกหลอกรายล่าสุดจึงหลงเชื่อและนัดพบกันที่ประเทศไทย ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมตัวได้ก็อ้างว่า เดินทางมาถึงไทยแล้วแต่ถูกด่านตม.ภูเก็ตและศุลกากรควบคุมตัวไว้ เนื่องจากนำเงินมาเกินกว่าที่รัฐบาลไทยกำหนด จำเป็นต้องเสียภาษี เหยื่อจึงหลงเชื่อโอนเงินไปให้ จากนั้นอีก 2 วันก็แจ้งว่า เดินทางถึงท่าอากาศยานดอนเมืองแล้ว และถูกเจ้าหน้าที่กักตัวในลักษณะเดียวกัน และขอให้ผู้เสียหายโอนเงินให้อีกครั้ง ก่อนที่จะไม่สามารถติดต่อได้

“หญิงสาวคนล่าสุดที่ถูกหลอกเป็นเจ้าของสวนยางอายุ 45 ปี หลังทราบว่าโดนหลอก จึงเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี เมื่อเดือนต.ค.2559 จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงประสานการทำงานร่วมกันทุกฝ่ายจนสืบลทราบและแกะรอยตัวคนร้าย ก่อนสามารถจับกุมตัวได้ดังกล่าว ทั้งนี้ จากการสืบสวนสอบสวนพบว่ากลุ่มผู้ต้องหาชาวไนจีเรีย มีการกระทำกันเป็นขบวนการ 2 คนที่จับกุมตัวได้นั้นเป็นเพียงสาขาย่อยเท่านั้น และยังคงมีเครือข่ายอยู่ทั่วโลกที่มีพฤติการณ์เดียวกัน โดยเน้นหลอกลวงหญิงสาวอีสาน ที่ต่างต้องการมีสามีเป็นชาวต่างชาติ และต้องการเงินจากชาวต่างชาติ จึงติดต่อกันผ่านเฟซบุ๊กและใช้โปรแกรมแปลภาษาพูดคุยกันเรื่อยมา และเมื่อมีหญิงสาวหลงเชื่อ ก็จะเขียนชื่อและรายละเอียดไว้ และพูดคุยกันเรื่อยมาเฉลี่ยรายละ 6 เดือน จากนั้นก็จะหลอกลวงให้โอนเงินให้ ซึ่งจากการตรวจสอบสมุดบัญชีพบว่า ยอดเงินที่โอนเข้านั้นอยู่ที่ 50,000-200,000 บาทต่อครั้ง ซึ่งนับรวมยอดเงินหมุนเวียนในบัญชีที่ตรวจยึดได้นั้นมากกว่า 50 ล้านบาท” พล.ต.ต.จตุพล กล่าว

พล.ต.ต.จตุพล กล่าวว่า เฉพาะเดือนต.ค.-พ.ย. มีสาวอีสานอายุตั้งแต่ 45 ปีขึ้นไป มาแจ้งความในการถูกพฤติกรรมดังกล่าวแล้ว 3 ราย ซึ่งเจ้าหน้าที่อยู่ในระหว่างการสืบสวนสอบสวนขยายผล ขณะที่ผู้ต้องหาที่เป็นหญิงสาวนั้น เป็นภรรยาของผู้ต้องหาชาวไนจีเรียและกลุ่มเพื่อน มีหน้าที่กดเงินสดและดูแลระบบการเงิน หรือแนะนำและให้ข้อมูลในด้านต่างๆ จากการตรวจสอบภายในห้องพักที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัวนั้นมีการยึดบัตรประชาชนของผู้ที่ร่วมขบวนการได้อีกกว่า 10 ใบ ทั้งหมดเป็นของจริง

จากการสอบสวนพบว่าบัตรประชาชนที่ยึดมานั้น ไว้สำหรับการเปิดสมุดบัญชีธนาคาร ซึ้งแต่ละคนมีไม่น้อยกว่า 10 บัญชีธนาคาร โดยกลุ่มชาวต่างชาติจะขอซื้อ สำหรับหลอกให้เหยื่อโอนเงินให้นั้นอยู่ที่ราคาเล่มละ 5,000 บาท ซึ่งมีกลุ่มบุคคลที่รับจ้างเปิดสมุดบัญชีธนาคารให้กับแก๊งไนจีเรียกลุ่มนี้เช่นกัน ส่วนใหญ่อยู่ในย่านสีลม นานา และพัทยา

อย่างไรก็ตาม จากการสอบสวนขยายผลพบว่า ผู้ต้องหาดังกล่าวนั้นอยู่ในกลุ่มของนายยูซุป มาเฟียชาวไนจีเรีย ที่คาดว่ายังคงอยู่ในประเทศไทย ที่เป็นหัวหน้าใหญ่ คอยสั่งการและคุ้มครองกลุ่มผู้กระทำความผิดเนื่องจากเงินที่สามารถหลอกลวงมาได้นั้น ผู้ต้องหาจะได้ส่วนแบ่งครั้งละ 60-70 เปอร์เซ็นต์ ของแต่ละยอดเงิน ที่เหลือเป็นของนายยูซุป ซึ่งเจ้าหน้าที่จะทำการสืบสวนสอบสวนขยายผลต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน