เมื่อวันที่ 31 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ ด.ต.พรภิรมย์ ลุนพุฒิ สภ.เมืองเลย ตั้งด่านเพื่อกวดขันวินัยจราจรบริเวณถนนเลย-เชียงคาน แยกสามเหลี่ยมทองคำ ขณะปฏิบัติหน้าที่อยู่นั้นพบรถตู้ยี่ห้อ โตโยต้า สีฟ้า สภาพกระจกหลังแตก ขับผ่านด่านตำรวจในขณะปฎิบัติหน้าที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจสั่งให้หยุดรถ เมื่อตรวจสอบภายในรถถึงกับอึ้ง เพราะพบคนขับเป็นพระสงฆ์ อายุประมาณ 60-70 ปี เป็นผู้ขับขี่

ด.ต.พรภิรมย์ ตำรวจจราจรกำลังปฎิบัติหน้าที่ เข้าสอบถาม ได้ความว่า หลวงปู่ขับรถตู้มาคนเดียวโดยขับมาจากวัดจอมแจ้ง ตำบลนาดินดำ อ.เมือง จ.เลย จะเดินทางไปอำเภอท่าลี่ เพื่อจะไปหายามาฉัน โดยต้องขับรถเอง เพราะไม่มีใครว่างขับรถพาไป แต่ดันมาเจอด่านตำรวจ จนตกใจทำอะไรไม่ถูก ตำรวจจึงได้ว่ากล่าวตักเตือนหลวงปู่ทำผิดกฎหมาย เพราะไม่มีอนุญาตขับขี่ และไม่คาดเข็มขัดนิรภัย

ผู้ที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ตนขับรถตามคันดังกล่าวมาช่วงถนนเลยนาด้วง รถขับช้าทำให้รถติดเป็นยาว บางครั้งก็ขับส่ายไปส่ายมา คนขับตามต่างหงุดหงิดไปตามๆกัน จะหาโอกาสแซงก็ไม่ได้ เพราะมีรถวิ่งสวนมาตลอดเวลา จนมาเกือบถึงแยกนาด้วงจะเข้าเมืองจึงแซงมาได้พบว่าเป็นพระภิกษุ และดูสภาพรถก็เก่ามากกระจกหลังแตก ไม่เหมาะที่จะขับออกมาใช้ร่วมกับถนนใหญ่อาจเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ซึ่งการที่พระขับรถยนต์เห็นว่าไม่เหมาะสม และมาขับขี่บนท้องถนนใหญ่อีก ซึ่งในทางพระท่านว่าเป็นโลกวัชชะ อาบัติทางโลกหรือโลกติเตียน ไม่เหมาะสมกับสมณะ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน