เมื่อวันที่ 1 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนางไขศรี ศิรินำบุญทวี นักสังคมสงเคราะห์ชำนาญการ โรงพยาบาลอุดรธานี ว่ามีผู้ป่วยเป็นเด็กหญิงอายุ 1 ปี 4 เดือน ที่เข้ารักษาตัวด้วยอาการหมดสติ หลับปลุกไม่ตื่น ที่โรงพยาบาลน้ำโสม อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี แต่แพทย์ พยาบาล ตรวจอาการแล้วถึงขั้นโคม่า เป็นอันตรายถึงชีวิตได้ จึงได้ส่งตัวมารักษาต่อที่โรงพยาบาลอุดรธานี เมื่อเวลาประมาณ 19.59 น.ของวันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมา

ภาพของเด็กหญิงอายุ 1 ปี 4 เดือน ที่เข้ารักษาตัวด้วยอาการหมดสติ

เบื้องต้นแพทย์ตรวจดูอาการพบว่า กะโหลกศีรษะร้าว มีเลือดออกในสมอง ภายนอกศีรษะบวมปูดหลายแห่ง ลิ้นช้ำแดงอักเสบ ต้องอยู่ในห้องไอซียูเด็กนาน 3 วัน จึงสามารถถอดเครื่องช่วยหายใจได้ ซึ่งจากการตรวจบาดแผลและอาการของผู้ป่วย ขัดกับคำให้การของพ่อและแม่ของเด็กที่ แจ้งกับทางโรงพยาบาลน้ำโสม ที่เป็นจุดรับผู้ป่วยในครั้งแรกว่า เด็กวิ่งชนตู้ ซึ่งบาดแผลและอาการบาดเจ็บมันมากกว่าที่เด็กอายุแค่ 1 ปี 4 เดือน จะวิ่งชนตู้จนบาดเจ็บหนักขนาดนี้ โดยเฉพาะ อสม.น้ำโสม ที่ดูแลครอบครัวนี้ ระบุว่า ปู่ของเด็กยืนยันว่า ถูกพ่อทำร้ายร่างกายเป็นประจำ จึงได้ประสานไปยัง สภ.น้ำโสม ให้ช่วยดูแลเรื่องคดี

นางไขศรี กล่าวว่า ภายหลังที่ได้รับแจ้งผลการตรวจรักษาจากแพทย์ พยาบาล แล้วได้รายงานมายังนางสมศรี สิงห์สุวรณ หัวหน้าศูนย์พึ่งได้ โรงพยาบาลอุดรธานี ได้ทราบเรื่องและสั่งการให้ตนดำเนินการตามขั้นตอน และแจ้งรายงานไปยังหน่วยงานต่างๆเพื่อดำเนินการ เนื่องจากพยานแวดล้อมและอาการบาดเจ็บค่อนข้างแน่ชัดว่าเด็กถูกทำร้าย โดยเฉพาะปู่ของเด็ก ยืนยันว่า พ่อของเด็กคือนายเอ (นามสมมติ) อายุ 18 ปี และแม่ของเด็กคือ น.ส.ณัฐริกา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 19 ปี ชาวจ.อุดรธานี พ่อของเด็กมีอาการคล้ายคนติดยาเสพติด และคลุ้มคลั่งอาละวาดทำร้ายคนในครอบครัว

เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องประชุมร่วมกันถึงกรณีที่เกิดขึ้น

นงาไขศรี กล่าวต่อว่า โดยเฉพาะภรรยาและลูกน้อยเป็นประจำ และเป็นปัญหาที่พบเห็นได้บ่อยในพ่อแม่วัยรุ่น ที่ไม่มีความพร้อมและติดยาเสพติด ทำร้ายลูกตัวเอง บางรายถึงขั้นเสียชีวิต ตัวอย่างในอดีตเมื่อปี 2560 ที่ต.สีออ อ.กุมภวาปี จ.อุดรธานี พ่อเลี้ยงทำร้ายลูกวัย 5 ปี จนเสียชีวิต ก่อนจะถูกศาลตัดสินจำคุก 17 ปีไปแล้ว

ด้าน พล.ต.ต.พีระพงศ์ วงษ์สมาน ผบก.ภ.จว.อุดรธานี หลังทราบเรื่องดังกล่าว ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.วิธ มุทธสินธุ์ ผกก.สส.ภ.จว.อุดรธานี และพ.ต.อ.อาลักษณ์ เจริญธนกุล ผกก.สภ.น้ำโสม นำชุดสืบสวนลงพื้นที่สืบสวนสอบสวนผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด และหลักฐานจากการตรวจรักษาของแพทย์ ที่ระบุบาดแผลที่เกิดขึ้นทั้งร่างกายของเด็ก เบื้องต้นทราบว่า พ่อและแม่ของเด็กรายนี้ ยังไม่ได้เข้าให้ปากคำกับทางโรงพยาบาลอุดรธานี ที่ได้เรียกตัวมาสอบถามถึงสาเหตุการบาดเจ็บของเด็ก หากพบตัวผู้กระทำผิดว่าได้ทำร้ายเด็กจริงก็ต้องดำเนินคดีไปตามกฎหมาย

แพทย์คอยดูแลอาการของเด็กหญิงอย่างใกล้ชิด

ขณะที่ พ.ต.อ.อาลักษณ์ เจริญธนกุล ผกก.สภ.น้ำโสม กล่าวว่า ตนได้ให้ชุดสืบสวนเข้าสอบสวนปากคำพยานแวดล้อมที่มีทั้งญาติของเด็ก และชาวบ้านใกล้เคียงก็พอจะมีข้อมูลว่า พ่อของเด็กได้เคยยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งเป็นไปได้ที่จะคลุ้มคลั่งหลังเสพยา หรือเวลาที่ต้องการจะพักผ่อนกับภรรยา แต่ลูกตัวน้อยๆอายุแค่ 1 ปี 4 เดือน อาจจะร้องและรบกวนเวลาพักผ่อน จึงทำให้หงุดหงิดและทำร้ายเอาได้ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเรียกตัวมาสอบสวนเพื่อดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมายต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้นางไขศรีได้ประชุมด่วนร่วมกับทีมสหวิชาชีพเพื่อคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก ตาม พ.ร.บ.ฯ เพื่อดำเนินการในเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน และอาการล่าสุดของเด็กหญิงรายดังกล่าว ดีขึ้นตามลำดับ หลังต้องอยู่ในห้องไอซียู นาน 3 วัน โดยแพทย์ต้องรอดูอาการแทรกซ้อนจากภาวะกะโหลกศีรษะร้าว และเลือดที่ออก หากเลือดหยุดไหลไม่กระทบกระเทือนที่ศีรษะรุนแรงอีก ก็จะมีอาการดีขึ้นตามลำดับ ส่วนทางตำรวจกำลังเร่งหาตัวพ่อมาสอบสวนดำเนินการต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน