จากกรณีหญิงสาวชาวราชบุรี เป็นบุคคลากรทางการแพทย์วัย 46 ปี เข้าร้องขอความเป็นธรรมผ่านสื่อมวลชนและทนายความชื่อดัง หลังถูกตำรวจยศ ร.ต.อ. นายหนึ่งใน จ.ราชบุรี หลอกยืมรถกระบะ อ้างว่าไปร่วมงานที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งใน อ.เมืองราชบุรี และหลอกเธอเข้าไปยังรีสอร์ต เพื่อพยายามข่มขืน จนถูกทำร้ายร่างกาย เยื่อหูฉีกขาดและแก้วหูทะลุ มีรอยฟกช้ำหลายจุดตามร่างกาย ก่อนหลบหนีออกมาได้แล้วไปแจ้งความไว้ที่ สภ.เมืองราชบุรี หลังจากนั้นก็ถูกคุกคามข่มขู่ให้ถอนแจ้งความ เพื่อแลกกับความปลอดภัยต่อชีวิต

น.ส.หมวย (นามสมมุติ) กล่าวว่า ตนอยู่กับครอบครัว โดยมีแม่และยาย พักอาศัยอยู่ใน อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ซึ่งรู้จักกับ ร.ต.อ. คนดังกล่าว ได้ประมาณ 3 เดือน จากการติดตามเรื่องคดีและได้รู้จักกันมากขึ้น โดย ร.ต.อ. มักจะมาหยิบยืมเงินจากตน ซึ่งตนก็ช่วยเหลือและคิดดอกราคาถูก และมักจะมายืมรถให้ไปทำธุระหลายครั้ง ซึ่งหลายครั้งที่ ร.ต.อ. พยายามจีบ แต่ตนก็ปฏิเสธเพราะ ร.ต.อ.นายนี้มีครอบครัวแล้ว จนวันที่ 27 เม.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 21.00 น. ร.ต.อ.คนดังกล่าวได้มาขอยืมรถยนต์ตน ก่อนจะพาไปงานเลี้ยงสังสรรค์ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งใน อ.เมืองราชบุรี โดยที่ ร.ต.อ.นายนี้ได้นั่งดื่มกินสุรากับเพื่อน ต่อมาเวลาประมาณ 23.00 น. ตนจึงเข้าไปบอกให้ ร.ต.อ. กลับบ้าน เพราะแม่และคนที่บ้านโทรตาม

สภาพใบหูที่ถูก ร.ต.อ.ตบจนแก้วหูทะลุ

สภาพใบหูที่ถูก ร.ต.อ.ตบจนแก้วหูทะลุ

แต่ ร.ต.อ. กลับไม่ยอมกลับ ตนจึงเดินเข้าไปเอากุญแจและรีบเดินไปที่รถเพื่อที่จะกลับบ้านและปิดล็อคประตู จังหวะเดียวกันที่ ร.ต.อ. ก็รีบเดินมาแล้วใช้มือทุบที่กระจกรถ ตนจึงลดกระจกลง ร.ต.อ.นายนี้ได้ยื่นมือเข้าไปแย่งลูกกุญแจออกมา และใช้มือตบที่ใบหน้าของตน 1 ครั้ง พร้อมกับไล่ให้ตนไปนั่งที่นั่งด้านข้าง ส่วน ร.ต.อ.นายนี้ ได้บอกว่าจะกลับโรงพัก เมื่อขับมาได้ระยะหนึ่งเกือบจะถึงอำเภอปากท่อ ร.ต.อ.คนดังกล่าวกลับพาตนเข้าไปยังโรงแรมรีสอร์ต ตนก็พยายามขัดขืนจึงถูกตบเข้าที่ใบหน้า 1 ครั้ง จากนั้น ร.ต.อ.นายนี้ก็เดินไปจ่ายค่าห้อง ตนก็บอกว่าขอกุญแจรถคืน ด้วยความหวาดกลัวและไหว้ร้องขอเพื่อจะกลับบ้าน แต่ ร.ต.อ. ก็ไม่ยอมได้ฉุดดึงกระชากตนเข้าไปในห้อง จนหน้าเกือบกระแทกทีวี

รอยเขียวช้ำที่แขน

รอยเขียวช้ำที่แขน

จากนั้น ร.ต.อ.นายนี้ก็พูดกับตนในทำนองที่ว่า “อะไรที่เคยบอกว่าเป็นไปไม่ได้ ก็จะเป็นไปได้ อะไรที่เคยบอกว่าขอความเป็นเพื่อน เพื่อนมีเยอะแล้ว” ตนก็บอกไปว่า “ไม่ได้เราไม่ได้คบแบบเพื่อน คบกันแบบว่ายิ่งกับพี่น้อง ยิ่งกว่าคำว่าเพื่อน ช่วยเหลือคุณอีกทั้งยังมีน้ำใจดูแลแม่คุณที่ไม่สบาย ลูกคุณเมียคุณ แม้กระทั้งตัวคุณเองจะหยิบยืม อะไรที่เราช่วยได้เราก็ช่วยมันยิ่งเหมือนกับพี่น้องมากกว่าคำว่าเพื่อน”

หมอตรวจอาการของเหยื่อสาว

หมอตรวจอาการของเหยื่อสาว

น.ส.หมวย เล่าอีกว่า จังหวะที่ตนพูดเสร็จ ร.ต.อ.นายนี้ก็รีบปรี่เข้ามาและโอบกอดและกดลงบนที่นอนเพื่อหวังจะข่มขืน ตนจึงสู้สุดชีวิตแล้วคว้ากุญแจทิ่มไปที่แขนของ ร.ต.อ. พร้อมทั้งใช้เล็บข่วน จนถูกตบเข้าหูซ้ายอย่างแรงจนมึนเหมือนหูจะดับ ก่อนถูกถูกต่อยเข้าที่ท้ายทอย พอตนดิ้นหลุดก็รีบขับรถหนีไปที่ปั๊มแก๊สก่อนจะให้คนช่วย ประสานมูลนิธินำตัวพาส่งโรงพยาบาล หลังจากนั้นจึงเข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองราชบุรี เพื่อให้ช่วยดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

เหยื่อสาวชี้ให้ดูบาดแผล

เหยื่อสาวชี้ให้ดูบาดแผล

หลังจากแจ้งความแล้วมีนายตำรวจนายหนึ่งมาบอกตนว่าอย่าไปแจ้งนักข่าว และจะย้ายตำรวจนายนี้ไปช่วยราชการ แต่ทว่าจนวันนี้ผ่านมากว่า 20 วันแล้ว ร.ต.อ.ก็ยังคงทำงานที่เดิมแถมยังข่มขู่คุกคามตนด้วยว่า “มึงจะทำไรกูได้ เดี๋ยวกูก็ไปเป็นรอง ผกก. หรือ ผกก. แล้ว กูรู้จักนักข่าวหลายคน มึงจะทำไรได้ ไปถอนแจ้งความ แล้วจะได้ใช้ชีวิตตามปกติ” ทำให้ตนหวาดกลัว ต้องใช้ชีวิตแบบหลบๆ ซ่อนๆ ตนอยากวอนผู้ที่เกี่ยวข้องช่วยให้ความเป็นธรรมกับตนด้วย

ล่าสุด น.ส.หมวย เข้าร้องขอความช่วยเหลือจากทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เข้ายื่นหนังสือร้องเรียน พล.ต.ต.ไมตรี ฉิมเฉิด ผบก.ป. เพื่อขอให้ช่วยดำเนินคดีและจับกุมนายตำรวจรายนี้ เนื่องจากเกรงกลัวอิทธิพลของคนมีสีในพื้นที่ จ.ราชบุรี ประกอบกับผู้กระทำผิดได้ข่มขู่พยานที่เห็นเหตุการณ์จนเกิดความหวาดกลัวจะเกิดอันตราย

ด้าน พ.ต.อ.อภิชาต พุทธบุญ ผกก.สภ.เมืองราชบุรี เปิดเผยถึงเรื่องราวดังกล่าวว่า ตำรวจ สภ.เมืองราชบุรี ทำคดีนี้อย่างตรงไปตรงมาและเที่ยงธรรม จากการที่ผู้เสียหายได้ร้องว่าคดีไม่มีความคืบหน้าตรงนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องขอชี้แจงว่า เราได้มีการติดตามความคืบหน้าของคดีมาโดยตลอดตั้งแต่ต้น ซึ่งเมื่อวันที่ 16 พ.ค. ได้ทำหนังสือชี้แจงความคืบหน้าของคดี เป็นหนังสือชี้แจงความคืบหน้าการสอบสำนวนคดีอาญา ที่ ตช 002(รบ).74/พิเศษ ลง ณ เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2561 โดยได้เรียนถึงหญิงสาวผู้เสียหาย โดยสรุปใจความหนังสือระบุว่า พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองราชบุรี ขอแจ้งความคืบหน้าผลการดำเนินการของพนักงานสอบสวนว่า เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2561 ผู้ต้องหาได้เข้าพบพนักงานสอบสวน พนักงานสอบสวนจึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาทราบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งตรงนี้ในท้ายหนังสือทางหญิงสาวผู้เสียหายได้มีการเซ็นลายมือชื่อของตนเองลงรับหนังสือไว้อย่างชัดเจน

ส่วนในเรื่องของรูปคดีตอนนี้พนักงานสอบสวนได้ผลการตรวจของทางแพทย์มาเรียบร้อย เหลือเพียงผลของลายพิมพ์นิ้วมือของผู้ต้องหาที่ยังขาดอยู่ เบื้องต้นเราก็เร่งดำเนินการอยู่ หากได้มาเราก็จะนำมาประกอบสำนวนเพื่อส่งฟ้องศาลทันที ถ้าผู้เสียหายกังวลในเรื่องของความไม่เป็นธรรมก็สามารถเข้ามาร้องเรียนเพิ่มเติมได้ เรายืนยันว่าทำคดีอย่างเที่ยงธรรมที่สุด ในส่วนของพวกพ้องตรงนี้ไม่มีแน่นอน ใครทำผิดก็ต้องว่ากันไปตามผิด สำหรับในเรื่องของการถูกข่มขู่คุกคามนั้นเบื้องต้นตรงนี้ทางเจ้าหน้าที่ไม่สามารถตอบได้เพราะเป็นเรื่องของตัวบุคคล หากผู้เสียหายถูกข่มขู่สามารถเข้าแจ้งความได้ ณ ตำรวจท้องที่ได้ทันที และในเรื่องที่มีข่าวว่าทางผู้ต้องหาเกิดก่อเหตุในลักษณะนี้ ตรงนี้อยากให้หญิงสาวที่เคยถูกกระทำสามารถเข้าแจ้งความเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินคดีกับผู้ต้องหาหากพิสูจน์ว่าก่อเหตุจริง

พ.ต.อ.อภิชาต กล่าวอีกว่า สำหรับในคดีนี้หากผู้เสียหายสงสัยการทำคดีของพนักงานสอบสวนก็สามารถเข้ามาติดตามคดีได้ เพราะคดีนี้ทางเจ้าหน้าที่ทำกันอย่างระมัดระวัง พร้อมที่จะให้ความเป็นธรรม และจากรายงานเบื้องต้นจาก สภ.ปากท่อ ซึ่งเป็นต้นสังกัดของ ตำรวจนายนี้ ในเรื่องของการพิจารณาโทษทางวินัยข้าราชการตำรวจ ทาง สภ.ปากท่อ ได้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง โดยระยะเวลาในการสืบสวนข้อเท็จจริงกำหนดเป็นไปตามระเบียบฯ เช่นเดียวกัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน