จบด้วยดี พ่อเข้าร้องเรียน ไม่ยอมผ่าคลอด จนลูกตาย แพทย์แจงเด็กเสียชีวิตก่อนแล้ว

วันที่ 7 มิ.ย. เวลา 10.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสมศักดิ์ ทองรอด อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 6 หมู่ที่ 7 ต.ปาทางทาง อ.เมืองพิจิตร จ.พิจิตร พร้อมชาวบ้าน กว่า 50 คน แห่ศพ ด.ช.ขุนศึก ทองรอด ซึ่งเป็นทารากคลอดใหม่ ใสโรงแห่ ชูป้ายขอให้รับผิดชอบ มาในบริเวณศาลากลางจังหวัดพิจิตร เพื่อร้องศูนย์ดำรงธรรม ขอความเป็นธรรม เนื่องจากไม่พอใจที่ โรงพยาบาลพิจิตร ทำคลอดจนเด็กเสียชีวิต

ต่อมานายศิริบูรณ์ ชูตะกูล หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วยพ.ต.ท.กฤติกร ปานผล หัวหน้าชุดเฉพาะกิจ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพิจิตรมารับเรื่องร้องเรียน โดยนาย สมศักดิ์ ทองรอด ให้การกับทางศูนย์ดำรงธรรมว่า เนื่องจากเมื่อวันที่ 6 มิ.ย. เวลา 8.00 น. ได้ไปหาหมอตามกำหนดนัดตรวจครรภ์ แล้วพบว่าคลื่นหัวใจของเด็กมีอาการขาดๆ หายๆ ซึ่งผิดปกติ ประกอบกับเด็ก ที่อยู่ในท้องมีน้ำหนักมากผิดปกติ ตนเกรงว่า ลูกชายจะเสียชีวิตในท้อง จึงขอร้องให้แพทย์รีบผ่าคลอด แต่แพทย์ไม่ยอม เนื่องจากแพทย์ตรวจพบว่า นางนภานั้น มีโรคประจำตัว คือ โรคเบาหวาน และโรคลูคีเมีย ซึ่งเกรงว่าจะได้รับอันตราย โดยไม่มีการชี้แจงกับคนไข้ มิหนำซ้ำยังพูดว่า เป็นโรคนี้จะปล่อยให้มีลูกทำไม หากจะผ่าตัดจะต้องทำหมัน ซึ่งภรรยาไม่ยอม แพทย์จึงให้กินยาเร่งคลอดเอง นายสมศักดิ์ อ้างว่าไปขอร้องทางแพทย์ ด้วยกัน 5-6 ครั้ง เพื่อให้ผ่าตัด

ทำคลอด

ญาติเด็กตายในท้อง เข้าร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรม-1

ทำคลอด

ญาติเด็กตายในท้อง เข้าร้องเรียนศูนย์ดำรงธรรม-2

จนกระทั่ง เวลา 02.00 น. วันนี้(7 มิ.ย.) แพทย์ตามให้ญาติ มาเซ็นต์เอกสารยินยอม เนื่องจากนางนภา อาการทรุด ปรากฏว่าเมื่อทำการผ่าตัด เด็กนั้นเสียชีวิตแล้ว โดยมี น้ำหนัก 5.4 กิโลกรัม การทำคลอดของแพทย์ ในครั้งนี้ ทำให้นายสมศักดิ์ พ่อเด็ก และญาติๆ คาใจว่าเมื่อทางญาติขอให้ผ่าตั้งแต่ ในช่วงเช้าวันที่ 6 แต่แพทย์ไม่ยอมผ่า จนกระทั่งปล่อยเวลาจนเด็กเสียชีวิต

ต่อมาทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพิจิตร ได้ประสานไปยังนายวิริยะ เอี้ยวประเสริฐ ผอ.โรงพยาบาลพิจิตร พร้อมคณะ ให้เดินทางมาชี้แจงที่ห้องรับเรื่องของเรียนศูนย์ดำรงค์ธรรม โดยมีนายสมศักดิ์ และญาติๆ ร่วมฟังการชี้แจง นายวิริยะ ชี้แจงว่า นางนภาคนไข้ที่ มาคลอดลูกนั้น มีโรคเบาหวาน อายุน้อย ซึ่งเป็นความเสี่ยงต่อสภาวะแทรกซ้อน ซึ่งเคยให้ข้อมูล ตั้งแต่เริ่มฝากท้องแล้ว ครั้งสุดท้ายที่มานั้นนางนภา รู้สึกว่าเด็กในท้องไม่ค่อยดิ้น หรือดิ้นน้อยลง ตรวจพบว่า เด็กไม่หายใจ ผิวหนังเด็กเริ่มลอก และแพทย์ วินิจฉัยว่า เด็กน่าจะเสียชีวิต แล้วในท้องมา 1 วัน

ทางแพทย์จึงตัดสินใจคุยกับแม่ว่าจะคลอดเองหรือผ่าเด็กออก ซึ่งแม่เด็กอยากคลอดเอง ทางแพทย์จึงได้ ให้กินยาเร่งคลอดเพื่อให้เร็วขึ้น ปรากฏว่าปากหมดลูกเปิดแค่ 6 เซ็นติเมตร ต่อมาทางญาติประสงค์ จะให้ผ่าตัด ทางแพทย์จึงปรับแผนในการรักษา ปรากฏว่า แม่เด็ก เพิ่งดื่มน้ำไป เกรงว่าจะได้รับอันตราย จึงใช้เวลานานหลายชั่วโมง เมื่อผ่าตัด เสร็จสิ้น ก็พบว่าเด็กเสียชีวิตตามที่วินิจฉัยไปแล้ว นายสมศักดิ์ และญาติๆ ได้ฟังคำชี้แจง ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็พอใจ ไม่ติดใจที่จะดำเนินการฟ้องร้องแต่อย่างใด แต่ด้วยมนุษยธรรมแพทย์ และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลพิจิตร ก็ได้แสดงความเสียใจ และจะขอร่วมในพิธีทำศพทำเพ็ญกุศลให้กับทารกที่เสีย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน