จ่ายเงินครึ่งแสน ทิ้งกันได้ไง! จับ 8 โรฮิงญา โดนนายหน้าทิ้ง หลังหนีจากรัฐยะไข่ เตรียมมุ่งหน้าไปมาเลเซีย พอเจอด่านคนขับกลับทิ้งรถหนี ถาม ตร.สีหน้าเศร้า จะถูกทุบตีไหม

วันที่ 8 มิ.ย. พ.ค.ท.ยรรยง หิรัญบูรณะ สวญ.สภ.การะเกด จ.นครศรีธรรมราช นำตัวชาว โรฮิงญา เป็นหญิง 5 ราย และชาย 3 ราย มาดูแลและตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น หลังจากได้สกัดจับรถกระบะโตโยต้า สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน บร-4370 นครศรีธรรมราช ได้ขณะพยายามขับหลบหนีด่านตรวจที่ถนนนคร-สงขลา หมู่ 6 ต.การะเกด อ.เชียรใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช โดยผู้ขับขี่นั้นได้ทิ้งรถและชาวโรฮิงญาทั้ง 8 ราย แล้วหลบหนีไป

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้นำตัวมาสอบสวนผ่านล่ามที่ สภ.การะเกด เบื้องต้นพบว่าชาวโรฮิงญาทั้งหมดมาจากประเทศเมียนมา โดยจ่ายเงินให้นายหน้าคนละประมาณ 5 หมื่นบาท เพื่อเป็นค่าเดินทางผ่านประเทศไทยต่อไปยังประเทศมาเลเซีย และมีคนไทยไปรับแล้วเดินทางมาตามถนนดังกล่าว กระทั่งมาเจอด่านตรวจ และไม่รู้จักคนไทยคนขับรถที่หลบหนีแต่อย่างใด ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้ประสานกับสหวิชาชีพคัดกรองเหยื่อการค้ามนุษย์เข้าทำการสอบสวนแล้ว

กลุ่มชาวโรฮิงญา กำลังนั่งกินข้าวหลังถูกจับกุม

กลุ่มชาวโรฮิงญา กำลังนั่งกินข้าวหลังถูกจับกุม

โดยกลุ่มชาวโรฮิงญาที่ถูกจับกุมได้กล่าวว่า พวกตนอยู่รัฐยะไข่ ประเทศเมียนมา เดินทางผ่านกรุงย่างกุ้ง โดยจ่ายเงินให้นายหน้าคนละ 50,000 บาท เพื่ออำนวยความสะดวก ตั้งใจจะเดินทางไปประเทศมาเลเซีย เพราะมีญาติอยู่ที่นั่น เพราะขณะอยู่ที่รัฐยะไข่ก็ถูกกักขังไม่ได้ทำมาหากิน จึงหนีออกมาด้วยกันร่วม 20 คน ก่อนแยกย้ายกันไป ซึ่งขณะให้ปากคำมีชาวโรฮิงญาคนหนึ่งถามด้วยหน้าตาเคร่งเครียดว่าจะถูกทุบตีหรือไม่ แต่ตำรวจบอกว่าที่นี่ไม่มีการทำร้ายกัน

รถกระบะที่พาชาวโรฮิงญาโดยสารมา

รถกระบะที่พาชาวโรฮิงญาโดยสารมา

สำหรับคนขับรถกระบะคันดังกล่าว เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบเจ้าของรถพบว่าเป็นคนพื้นที่ ต.ไชยมนตรี อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งยังตรวจสอบไม่ได้ว่ามีส่วนรู้เห็นหรือไม่อย่างไร เพราะรถกระบะคันดังกล่าวทะเบียนขาดเมื่อปี 2560 จึงไม่แน่ใจว่าเป็นรถที่ถูกโจรกรรมหรือเจ้าของรู้เห็น โดยทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเร่งทำการตรวจสอบเพื่อตามตัวผู้เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไปด้วย

สำหรับเส้นทางการจ่ายเงินจ่ายครึ่งหนึ่งที่รัฐยะไข่ จากนั้นอีกครึ่งที่กรุงย่างกุ้ง ก่อนที่จะเดินทางออกจากเมียนมาข้ามแม่น้ำผ่านช่องทางธรรมชาติของประเทศไทย แล้วนั่งโดยสารประจำทางมายังจุดนัดหมายโดยไม่รู้ว่าเป็นจุดใด แล้วมีนายหน้าชาวไทยไปรับตัวเมื่อวานนี้ (7 มิ.ย.) เวลาประมาณ 1 ทุ่ม โดยยึดโทรศัพท์มือถือทั้งหมดไว้ จากนั้นนั่งรถมาราว 12 ชม. เพื่อมุ่งไปยังอำเภอสะเดา จ.สงขลา เตรียมเข้าประเทศมาเลเซีย กระทั่งถูกจับกุ่ม

ด้าน พ.ต.ท.ยรรยง กล่าวว่า ตอนนี้พนักงานสอบสวนยังไม่สามารถระบุประเด็นข้อกฎหมายในการเข้าเมืองของชาวโรฮิงญากลุ่มนี้ได้ โดยจะต้องรอทีมสหวิชาชีพ ในการสอบสวนคัดแยกเหยื่อการค้ามนุษย์เข้าทำการสอบสวนอย่างละเอียดเพื่อดำเนินการทางกฎหมายอย่างถูกต้อง

อย่างไรก็ตามมีรายงานเพิ่มเติมว่าถนนสาย 408 เป็นเส้นทางสายสำคัญที่ขบวนการค้ามนุษย์ได้เลือกเป็นเส้นทางในการนำชาวโรฮิงญาส่งมาเลเซีย โดยเมื่อวันที่ 11 ม.ค.58 ตำรวจ สภ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช เคยจับกุมครั้งใหญ่ซึ่งอยู่ห่างจากจุดจับกุมครั้งนี้ไปเพียงประมาณ 10 กม. บนถนนเส้นเดียวกัน ได้ชาวโรฮิงญากว่า 100 คน พร้อมนายหน้าและผู้ขนส่งจนนำไปสู่การทลายเครือข่ายการค้ามนุษย์ครั้งสำคัญของประเทศไทย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน