พระครูดังยื่นกองปราบเอาผิดผอ.พศ. ผิดม.157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบไม่ดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯที่เกี่ยวข้องกับคดีเงินทอนวัด

ประธานสงฆ์สำนักปฏิบัติธรรมพุทธชยันตี 2600 ปี ยื่นเอาผิดผอ.พศ.

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 13 มิ.ย. ที่กองปราบปราม นายวรากร พงศ์ธนากุล ประธานเครือข่ายทนายและประชาชนปกป้องพระพุทธศาสนา พร้อมด้วยพระครูปลัดธีรธนัชณฤทธา เมตตธมโม ประธานสงฆ์สำนักปฏิบัติธรรมพุทธชยันตี 2600 ปี เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.ศิร์ธัชเขต ครูวัฒนเศรษฐ์ รอง ผบก.ป. เพื่อยื่นหนังสือร้องขอให้ดำเนินคดีกับ พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในคดีการทุจริตเงินทอนวัด ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือ ม.157 อ่านข่าว พระครูปีนเสายังไม่ยอมลง เขียนจม.ถึง‘บิ๊กตู่’-ขอคุยผู้บริหารแบงก์เรื่องที่ดิน

นายวรากร กล่าวว่า พศ.แจ้งความร้องทุกข์ เพื่อให้ดำเนินคดีกับพระสงฆ์ในคดีเงินทอนวัด กระทั่งจับกุมพระสงฆ์ไปจำนวนหลายรูป แต่กลับไม่มีการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่สำนักพุทธฯที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี ที่ผ่านมายังคงมีข้าราชการของสำนักพุทธฯที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตเงินทอนวัด แต่ยังไม่ถูกดำเนินคดีหลายราย ตนจึงมาแจ้งความร้องทุกข์ให้ตำรวจกองปราบปราม สืบสวนขยายผลและดำเนินคดีให้ครบทุกคนที่เกี่ยวข้อง

นายวรากร กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ตนยังอยากให้ดำเนินคดีกับพ.ต.ท.พงศ์พร ตามความผิดตามมาตรา 157 ปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วย กรณีที่มีการออกหนังสือคำสั่งที่ 0001/06036 ลงวันที่ 8 มิ.ย.2561 เพื่อให้ตรวจสอบบัญชีวัด และชี้แจงการใช้จ่ายเงิน ตนและประชาชนคนอื่นๆนั้นไม่เห็นด้วย เพราะถือว่าสำนักงานพระพุทธศาสนา เป็นเพียงผู้สนับสนุนพระ ไม่ใช้ผู้ปกครองพระ การกระทำแบบนี้ จึงเป็นการกระทำเกินหน้าที่ การห้ามพระสงฆ์ถือครองเงิน ที่พศ.อ้างว่าต้องเป็นไปตามพระธรรมวินัยนั้น ตนมองว่าควรเป็นอำนาจของมหาเถรสมาคมเป็นผู้ดำเนินการ

ด้านพระครูปลัดธีรธนัชณฤทธา กล่าวว่า พระก็มีความจำเป็นในการใช้เงินในการดำรงชีวิต เหมือนกับคนทั่วไป เพราะพระต้องใช้เงินเพื่อใช้จ่ายในการเดินทาง ใช้จ่ายในเรื่องการเรียนการสอน ตามกฎกติกาของสังคมในปัจจุบัน

ส่วนการถือครองเงินควรเป็นรูปแบบบัญชีของวัดหรือไม่นั้น ตนมองว่า วัดแต่ละแห่งมีรูปแบบการจัดการระบบเงินแตกต่างกัน พระสงฆ์บางรูปมีทรัพย์สินบางส่วนติดตัวมาตั้งแต่ก่อนบวช ในรูปแบบของมรดก จึงอยากให้แยกบัญชี เพราะพระบางรูป ช่วงเวลาการบวชแตกต่างกัน เมื่อสึกออกไป จึงมีความจำเป็นที่จะต้องนำเงินดังกล่าวออกไปใช้

เบื้องต้นทาง พนักสอบสวนสอบปากคำผู้เข้าร้องเรียนไว้เป็นหลักฐาน ก่อนสรุปเรื่องส่งให้พนักงานสอบสวนของบก.ปปป.ดำเนินการต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับพระครูปลัดธีรธนัชณฤทธา ตรวจสอบพบว่าเป็นพระรูปเดียวกันกับที่เคยปีนเสาส่งสัญญาณวิทยุย่านพุทธมณฑลสาย 3 เพื่อประท้วงกรณีที่ดินของสำนักสงฆ์ฯถูกยึด เมื่อวันที่ 17 พ.ค.ที่ผ่านมา อีกด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน