วอนช่วย ด.ญ.13 ไม่ต้องถูกตัดขา หลังถูกรถอีแต๋นชนจนแหลก ขณะกำลังขี่รถจยย.ไปเก็บดอกไม้เตรียมไปไหว้ครู ขณะที่ญาติวิตกต้องใช้เงินนับล้าน แถมต้องรักษาต่องเนื่องอีก 3 ปี
วอนช่วย วันที่ 15 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวได้รับการ้องเรียนว่า มีเด็กหญิงวัย 13 ปี ประสบอุบัติเหตุรุนแรกงถึงขั้นอาจต้องตัดขาทิ้ง ซึ่งทำให้เธอหลาดวิตกเป็นอย่างมาก เนื่องจากต้องใช้เงินในการรักษาสูง จึงอยากวอนผู้ใจบุญช่วยเหลือ ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบข้อเท็จจริง ทราบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยมีรถจยย.ชนกับรถอีแต๋น บนถนนในหมู่บ้านบ้านโนนดู ต.บ่อไทย อ.หนองไผ่ ส่งผลให้ ด.ญ.ชวนดาว รัตนารถ อายุ 13 ปี ได้รับบาดเจ็บขาซ้ายบริเวณท่อนล่างแหลก อาการสาหัส และอาจจะต้องตัดขาทิ้ง
ซึ่งแพทย์ ร.พ.เพชรบูรณ์ ระบุว่ายังสามารถรักษาได้ แต่ต้องส่งไปรักษายังโรงพยาบาลเฉพาะทาง เพื่อให้แพทย์ทำการรักษาแต่ค่าใช้จ่ายจะสูงมาก ทางญาติพี่น้องเห็นว่าถ้าสามารถรักษาได้ก็อยากส่งไปรักษา เพื่ออนาคตที่ยังต้องไปอีกไกล และหลังจากเรื่องราวดังกล่าวถูกโพสต์ลงในโลกโซเชียล พร้อมทั้งขอความเมตตาจากผู้ใจบุญร่วมสมทบเงินเพื่อนำไปเป็นค่าผ่าตัด ปรากฎว่ามีผู้ร่วมบริจาคแล้วกว่า 1.2 ล้านบาท ซึ่งขณะนี้ ด.ญ.ชวนดาว ยังนอนรักษาตัวอยู่ตึกธรรมรักษา ชั้น 2 โดยมีญาติๆ คอยดูแลอย่างใกล้ชิด
น.ส.น้ำผึ้ง รัตนารถ อายุ 33 ปี ซึ่งเป็นญาติ เปิดเผยว่า ปัจจุบันน้องดาวอาศัยอยู่กับพ่อที่ป่วยเป็นอัมพาตครึ่งซัก ส่วนแม่ได้แยกทางไปแล้ว และยังมีพี่สาวอีก 1 คน ซึ่งได้แยกครอบครัวไปแล้วเช่นกัน แต่ก็ยังส่งเงินและค่าใช้จ่ายให้กับน้องดาวและพ่อมาโดยตลอด ก่อนเกิดเหตุน้องดาวขี่รถจยย.เพื่อจะไปเก็บดอกไม้เตรียมนำไปไหว้ครู กระทั่งมาประสบอุบัติเหตุดังกล่าว
หลังจากเกิดอุบัติเหตุในครั้งแรกคิดว่าอาจจะต้องตัดขาทิ้ง แต่หมอบอกว่าขาเสียหายเพียงกระดูกและเนื้อบางส่วนเท่านั้น แต่เส้นประสาท เอ็นและเส้นเลือดยังไม่เสียหายมากอาจจะไม่ต้องตัดขาทิ้ง แต่จะต้องทำการผ่าตัดรักษาโดยแพทย์ที่เชี่ยวชาญ ซึ่งจะต้องเสียค่าใช้จ่ายที่สูงนับล้านบาท และยังจะต้องมีการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่องอีกประมาณ 3 ปี ตนและญาติๆ เห็นว่าถ้าสามารถรักษาได้ก็อยากส่งไปรักษาเพื่ออนาคตของน้องที่ยังต้องไปอีกไกล จึงตัดสินใจนำเรื่องราวไปโพสต์ขอความช่วยเหลือในเฟซบุ๊ก ปรากฏว่ามีการแชร์ต่อๆ กันไปและมีผู้ใจบุญโอนเงินเข้ามาช่วยเหลือแล้วกว่า 1.2 ล้านบาท ทำให้ตนและญาติๆ ไม่คิดว่าจะมีผู้ใจบุญร่วมบริจาคช่วยน้องเป็นจำนวนมากขนาดนี้
น.ส.น้ำผึ้ง เปิดเผยต่อว่า เงินจำนวนดังกล่าวอาจจะดูมากแต่การผ่าตัดรักษาจะต้องใช้เงินเป็นจำนวนมาก ประกอบกับจะต้องมีการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่องถึง 3 ปี จึงยังคงต้องรอรับบริจาคจากผู้ใจบุญจนกว่าน้องจะได้รับการผ่ารักษาและสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ หลังจากนั้นหากเงินที่ผู้ใจบุญบริจาคมาช่วยเหลือเหลืออยู่เท่าไหร่ก็จะนำไปมอบให้กับโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ เพื่อซื้ออุปกรณ์การแพทย์ต่อไป หากท่านใดประสงค์ที่จะบริจาคช่วยเหลือสามารถโอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ธนาคารกรุงไทย สาขาเพชรบูรณ์ เลขที่ 643-0-42511-8 ชื่อบัญชี ด.ญ.ชวนดาว รัตนารถ หรือจะสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 093-2361460