ญาติเคลื่อนศพลูกเขยโหดยิงเมีย-พ่อตาไปทำพิธีที่วัดแล้ว ขนลุก!ขณะย้ายศพลงเสร็จแล้วรถเจ้าหน้าที่ที่เคลื่อนศพมาสตาร์ทไม่ติด จนสัปเหร่อต้องให้บอกกล่าว ‘มาส่งถึงวัดแล้ว ให้ลงจากรถ’

จากกรณีพิษรักโหด นายชัยพร เชาวนะกมล อายุ 31 ปี สามีของน.ส.ธัญญามาศ ทะนามศรี อายุ 29 ปี ครูสอนติวเตอร์ บุกยิงภรรยา และนายสัมพันธ์ ทะนามศรี อายุ 50 ปี พ่อตาตายคาโรงพยาบาลนครปฐม หลังจากตามง้อภรรยา แต่พ่อตากีดกัน ก่อนเกิดเหตุพ่อพาลูกสาวมาหาหมอหลังคลอดได้เพียง 5 เดือนเศษ เนื่องจากหลังตั้งครรภ์ป่วยมีโรคแทรกซ้อน ขณะนั่งรอหมอลูกเขยตามมาเคลียร์ปัญหา แต่นายสัมพันธ์พ่อตา ไม่ยอมให้ไปคุย จนหนุ่มเครียด ชัก .38 ยิงหัวพ่อตา ก่อนยิงภรรยาล้มฟุบ แล้วลั่นไกใส่หัวตัวเอง อาการสาหัสล่าสุดนายพรชัยเสียชีวิตอีกคน ทิ้งลูกน้อยต้องกำพร้าทั้งพ่อและแม่ ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น อ่านข่าว สลดรักต้องฆ่า บุกยิงเมีย-พ่อตาดับ ผัวหนุ่มตายอีกศพ ลูกน้อยเพิ่งคลอดไม่เหลือทั้งพ่อแม่(คลิป)

ย้ายศพนายชัยพรไปบำเพ็ญกุศลที่วัด

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. ที่โรงพยาบาลนครปฐม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่เตรียมเคลื่อนศพนายชัยพร เชาวนะกมล มือสังหาร นาวาตรีสัมพันธ์ ทะนามศรี พ่อตา และน.ส.ธัญญมาศ ทะนามศรี ภรรยา ไปยังศาลาคุณแม่ประยูร โชติกเสถียร วัดห้วยจระเข้ เพื่อรอเวลารดน้ำศพและบรรจุหีบศพช่วงเย็นวันนี้ โดยมีการอาบน้ำแต่งตัวให้นายชัยพรใหม่ ด้วยสูทสากลสีกรม กาเกงขายาวสีดำ สวมรองเท้า สีขาวลายคาดฟ้า จากนั้นเจ้าหน้าที่นำขึ้นรถตู้ ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียน ฮข3385 กรุงเทพมหานคร ไปที่วัดดังกล่าว อ่านข่าว โพสต์สุดท้ายแสนอบอุ่น ก่อนผัวโหดยิงเมีย-พ่อตาคารพ. ทิ้งลูก5เดือนกำพร้า

รถที่เคลื่อนศพมาวัด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การรับศพนายชัยพรครั้งนี้ญาติของนายชัยพร นำเอกสารมายื่นแสดงเพื่อขอรับศพกลับไปดำเนินการตามประเพณี หลังจากที่เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. ที่ผ่านมา แพทย์ผ่าพิสูจน์ศพเพื่อหาวิถีกระสุนเพื่อประกอบสำนวน โดยญาติที่มาดำเนินการนั้นคาดว่าเป็นน้องชายของนายชัยพร สวมใส่เสื้อสีดำ คาดแมสหน้ากากอนามัย พยายามเดินเลี่ยงหลบหน้าผู้สื่อข่าวและไม่พร้อมที่จะให้สัมภาษณ์ใดๆ

นายชัยพร เชาวนะกมล และน.ส.ธัญญมาศ ทะนามศรี

ไม่มีญาติมาด้วย มีเพียงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนศพดำเนินการแทนเท่านั้น และขณะขนย้ายร่างนายชัยพรมาถึงวัดอย่างเรียบร้อย เจ้าหน้าที่เตรียมกลับขึ้นรถปรากฏว่ารถยนต์สตาร์ทไม่ติด เมื่อตรวจสอบแบตเตอรี่และเครื่องยนต์พบว่ายังอยู่ในสภาพดี จึงพยายามสตาร์ทอยู่หลายครั้ง

จัดเตรียมพิธีรอเวลารดน้ำศพ

กระทั่งเจ้าหน้าที่ประจำฌาปนสถานวัดห้วยจระเข้ต้องให้คนขับบอกว่า ‘มาส่งถึงวัดแล้ว ลงจากรถได้แล้ว จะไปหากินต่อ ให้ร่ำรวย ร่ำรวย’ แต่ก็ยังสตาร์ทไม่ติด จนผู้สื่อข่าวและเจ้าหน้าที่วัดมาช่วยกันเข็นออกนอกศาลา รถจึงสตาร์ทติด สร้างความตะลึงให้กับผู้พบเห็นคาดว่าอาจเกิดจากความเฮี้ยนที่ญาติไม่ได้มาจุดธูปบอกกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน