น้ำตาคลอ!2พ่อลูกพบหน้ากันครั้งแรกหลังพลัดพรากกันนาน 31 ปี ลูกชายเผยตามหาพ่อมาหลายปีก่อนหาเจอว่าอยู่ที่จังหวัดสมุทรสาคร ติดต่อให้นายอำเภอช่วยตามหาก่อนนัดเจอหน้า ลูกชายเตรียมพวงมาลัยมากราบแทบเท้า

เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. ที่ผ่านมา นายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช นายอำเภอกระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร นัดหมายให้ 2 พ่อลูก ซึ่งไม่ได้พบหน้ากันมานานถึง 31 ปี มาพบกันที่ห้องทำงานของนายอำเภอ โดยนายยงยุทธ เอียงเทศ อายุ 34 ปี ชาว ต.ตาโกน อ.เมืองจันทร์ จ.ศรีษะเกษ ลูกชายมานั่งรอพ่อ พร้อมกับนำพวงมาลัย 2 พวง ที่ตั้งใจนำมามอบให้กับพ่อที่ไม่เคยเห็นหน้ากันมานานถึง 31 ปี โดยพวงแรกนั้นเป็นของนายยงยุทธเอง ส่วนอีกพวงเป็นของน้องสาวนายยงยุทธที่ทำงานอยู่ต่างประเทศ ฝากให้พี่ชายนำมามอบให้กับพ่อแทนด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การรอคอยของนายยงยุทธ เป็นไปอย่างใจจดใจจ่อ อย่างที่ทุกคนตั้งตาเฝ้ารอ เมื่อนายยุทธนา เอียงเทศ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 หมู่ที่ 12 ต.บางยาง อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ผู้เป็นพ่อเข้ามาในห้องทำงานของนายอำเภอ และมุ่งตรงมาหาลูกชายที่นั่งรออยู่ ซึ่งเมื่อทั้ง 2 คนพ่อลูกได้เจอหน้ากันครั้งแรกในรอบ 31 ปี ก็ตรงเข้าสวมกอดกันทันที นายยงยุทธนำพวงมาลัยก้มลงกราบพ่อ สร้างความซาบซึ้งใจและความปลื้มปีติยินดีให้แก่ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะนายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช นายอำเภอกระทุ่มแบน ซึ่งเป็นผู้ประสานให้พ่อลูกคู่นี้มีโอกาสมาพบเจอกัน

จากนั้นทั้ง 2 คนก็ใช้เวลาคุยกันนานเกือบ 1 ชั่วโมง และตลอดเวลาที่คุยกันนั้น ก็จับมือกันแน่น พอได้คุยกันจนเป็นที่ชื่นใจแล้ว ก็ร่วมกันมอบสิ่งของเล็กๆ น้อย เป็นกระเช้าของขวัญขอบคุณนายอำเภอกระทุ่มแบน แล้วนายยงยุทธก็ขอก้มกราบที่เท้าของนายยุทธนาผู้เป็นพ่อสักครั้งหนึ่ง ก่อนที่พ่อลูกทั้ง 2 คนจะพากันไปไหว้หลวงพ่อรุ่งวัดท่ากระบือ และทำบุญทำทานอย่างที่ลูกชายตั้งใจไว้

นายยงยุทธ ลูกชาย เล่าว่า ตนนั้นไม่ได้อยู่กับพ่อ ตั้งแต่ยังจำความไม่ได้ ส่วนการตามหาพ่อนั้นตนตามหามานานหลายปีแล้ว ซึ่งแม่ก็รู้เรื่องนี้และไม่เคยห้ามเลย พอทราบว่าพ่อเคยทำงานอยู่ที่ไหน เคยอาศัยอยู่ที่ไหน หรือตนก็ไปทำงานที่ใดก็จะขอให้ทางสำนักทะเบียนราษฎร์ในพื้นที่นั้นๆ ช่วยตรวจสอบให้ทีว่าพ่อยังอยู่หรือไม่

จนกระทั่งล่าสุดปัจจุบันที่ตนมาอาศัยอยู่แถวเขตท่าพระ โดยทำงานขายสินค้าออนไลน์ประเภทอะไหล่ อุปกรณ์รถจักรยาน และอุปกรณ์ออกกำลังกายนั้น พอมีเวลาว่างตนก็ยังคงติดตามหาพ่อตลอด แล้วก็ทราบว่าพ่อยังมีชีวิตอยู่ โดยอาศัยอยู่ในพื้นที่อำเภอกระทุ่มแบน พอได้ข้อมูลเบื้องต้นแล้ว ตนก็เข้าไปในเสิร์ชกูเกิ้ลหาคำว่าอำเภอกระทุ่มแบน จนพบเบอร์โทรศัพท์ของนายอำเภอกระทุ่มแบน จึงโทรมาขอความช่วยเหลือจากนายอำเภอ เพื่อให้ช่วยตามหาพ่อให้

นายอำเภอก็สอบถามข้อมูลหลายอย่างทั้งทางโทรศัพท์และทางไลน์ จนมั่นใจว่าตนเป็นลูกของพ่ออย่างแน่นอนและไม่ใช่มิจฉาชีพ อีกทั้งพ่อก็อยากจะพบตนด้วย จึงช่วยประสานให้พูดคุยกันก่อนทางโทรศัพท์ จากนั้นก็นัดให้มาพบกันในวันนี้ หลังจากที่ไม่เคยเจอหน้ากันมาเลยถึง 31 ปี ซึ่งพอได้มาเจอหน้ากันเป็นครั้งแรกก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก ดีใจจนพูดอะไรไม่ออก และอยากจะบอกพ่อว่า หลังจากวันนี้ไปตนก็จะมาหาพ่อเรื่อยๆ เพราะอยู่ไม่ไกลกันมากนัก เพื่อทดแทนช่วงเวลาที่ขาดหายไปในอดีต

ด้านนายยุทธนา ผู้เป็นพ่อ เปิดเผยความในใจว่า ตนจากลูกชายไปตั้งแต่ลูกชายอายุได้ประมาณ 3 ขวบ และลูกสาวก็เพิ่งจะคลอดออกมาได้ประมาณ 3 วัน ส่วนสาเหตุนั้นก็เป็นเรื่องของผู้ใหญ่คือพ่อกับแม่ ซึ่งตนไม่อยากพูดถึงเรื่องในอดีต เนื่องจากผ่านมานานแล้ว

“ที่ผ่านมาแม้ผมจะไม่เคยได้เลี้ยงดูลูกทั้ง 2 คน แต่ก็รัก คิดถึง และพยายามหาข่าวของลูกเท่าที่จะหาได้ ซึ่งก็รู้ว่าลูกอยู่กับแม่ และตากับยายไม่ลำบาก ผมก็สบายใจ ส่วนวันนี้ที่ได้มาเจอหน้ากันนั้น ผมรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากและขอบคุณในคำอธิษฐาน ในอดีตที่เคยอธิษฐานไว้ว่า หากตนยังไม่ตายและมีบุญพอ ก็ขอให้ได้พบหน้าลูกอีกสักครั้ง ซึ่งวันนี้ก็เป็นจริงแล้ว โดยได้นายอำเภอกระทุ่มแบนช่วยทำให้ความฝันของผมสมหวังเป็นจริง” นายยุทธนา กล่าว

ขณะที่นายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช นายอำเภอกระทุ่มแบน กล่าวว่า พอตนได้รับโทรศัพท์จากนายยงยุทธ ลูกชายของนายยุทธนานั้น ตนก็สอบถามรายละเอียดและตรวจสอบประวัติของทั้ง 2 คน จนมั่นใจได้ว่าเป็นพ่อลูกกันจริง แล้วก็สอบถามความสมัครใจของทั้งพ่อและลูกว่า อยากที่จะเจอกันหรือไม่ ซึ่งทั้ง 2 ก็มีความตั้งใจจริงที่เหมือนกัน คืออยากมาเจอกัน ตนจึงให้พูดคุยกันทางโทรศัพท์ก่อน แล้วก็นัดให้ได้มาพบกันสมดังตั้งใจ

ที่มา มติชนออนไลน์