จากกรณีคนร้ายบุกยิง นายวสันต์ แก้วชลคราม หรือเสี่ยสด อายุ 31 ปี เสี่ยสวนทุเรียนเสียชีวิต ภายในโรงรถที่บ้านเลขที่ 59 หมู่ 12 ถนนลาดยาง ซอยทวีทรัพย์ ต.นาสัก อ.สวี จ.ชุมพร เมื่อช่วงสายวันที่ 18 มิ.ย. ขณะที่ภรรยาเล่าว่า หลังผู้ตายไปส่งลูกสาวเสร็จแล้วกลับมาบ้าน ก็มีรถกระบะสีดำ สี่ประตู ยกสูง มาจอดหน้าบ้าน ก่อนที่คนร้ายจะยิงเสี่ยชีวิต เมื่อวันที่ 18 มิ.ย. ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
อ่านข่าว เคลียร์ไม่จบ! มือปืนโหด จ่อยิงเศรษฐีชุมพร กระสุนเจาะอกดับคาบ้าน อ่านข่าว แฉวงจรปิด! นาทีมือปืนโหด บุกยิงเสี่ยสวนทุเรียนดับคาบ้าน ดังสนั่น เมียวิ่งเตลิด
ความคืบหน้าล่าสุดวันที่ 20 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ได้ลงพื้นที่หาข่าวเพื่อนติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี มุ่งเน้นหาเส้นทางการหลบหนี หลังก่อเหตุทราบว่ามือปืนใช้ถนนสายหลัก คือสี่แยกเขาปีบ-เขาทะลุ ขณะเดียวกันกำลังไล่ดูกล้องวงจรปิดแต่ละจุดเพื่อให้ได้ภาพชัดที่สุด เบื้องต้นทราบเพียงมือปืนใช้รถโตโยต้า พรีรันเนอร์ อย่างที่เห็นในกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่หน้าบ้านผู้เสียชีวิต แต่ภาพของทะเบียนยังไม่ชัดเจน
ขณะเดียวกันกำลังตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.ชุมพร ได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ อ.ท่าฉาง จ.สุราษฎร์ธานี เฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของคนใกล้ชิดพ่อบุญธรรม ของเสี่ยสด และเป็นคนชี้เป้าด้วย ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่พอจะรู้แล้ว่ามือปืนรายดังกล่าวเป็นใคร
วันเดียวกัน น.ส.ปรัชญาณีย์ สระทองเลื่อน ภรรยาของเสี่ยสด เปิดเผยว่า ตั้งแต่เมื่อวานนี้ได้มีตำรวจ สภ.นาสัก เดินทางมาดูแลเรื่องความปลอดภัย ทำให้รู้สึกสบายใจขึ้น จะได้มีกำลังใจในงานจัดงานศพให้กับสามี จนถึงวันสุดท้าย อีก 3 วัน แต่ถึงจะอย่างไรก็ยังได้รับคำเตือนจาก ญาติๆ ที่อยู่ในตำบลนาสักว่าให้ระวังตัว เนื่องจากกลุ่มคนร้ายและกลุ่มผู้บงการ คงไม่ยอมปล่อยมือง่ายๆ
เนื่องจากเป็นที่รู้ๆ กันอยู่ว่าทรัพย์สินที่พ่อบุญธรรมสร้างไว้ให้เสี่ยสด มีจำนวนมาก แต่คนสนิทรวมถึงกลุ่มญาติพี่น้องมีความต้องการ โดยส่วนตัวไม่คิดจะเอา หรืออยู่ในบ้านหลังนี้อีกแล้ว ถึงแม้ตามกฎหมายลูกสาว จะมีสิทธิ์เต็มที่ในฐานะที่เป็นทายาทที่ถูกต้อง แต่เพื่อเป็นการรักษาชีวิตทั้งลูกและตน เมื่อเสร็จงานศพก็จะย้ายไปอยู่กับพ่อแม่ และที่ดินที่ สร้างด้วยเงินของตนอย่างแน่นอน
ขณะที่แหล่งข่าวใน สภ.นาสัก บอกว่า ในช่วงกลางดึกของเมื่อคืนนี้ ได้มีญาติของผู้ตาย เห็นรถกะบะอีซูซุ สีดำ สี่ประตู ทะเบียนเดียวกับที่เห็นในกล้องวงจรปิด ว่าเป็นพาหนะของมือปืนที่เข้ามาลงมือสังหาร เสี่ยสด มาขับวนเวียนใกล้กับบริเวณบ้านที่เกิดเหตุ และจัดงานศพ แต่เมื่อพบว่ามีการตั้งด่านของตำรวจจึงได้เลี้ยวหัวกลับทันที ทำให้ผู้พบเห็นแจ้งไปยังญาติพี่น้องของ น.ส.ปรัชญาณีย์ เพื่อให้แจ้งตำรวจทันที
