ลุงโหดขายวัวซื้อยาเสพ เมายาอาละวาดหนักเตะก้านคอหลานหูฉีก เพราะระแวงขโมยทอง

ลุงโหด / เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 22 มิ.ย. นายชัยวุฒิ คุณาธิมาพันธ์ ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ รับแจ้งจากชาวบ้านว่า เกิดเหตุคนเมายาบ้าอาละวาดจับหลานเป็นตัวประกัน ที่บ้านเลขที่ 342/3 หมู่บ้านหนองพังพวย หมู่ 11 ต.เกาะหลัก อ.เมือง

จึงพร้อมด้วย พ.ต.ท.เอกราช หุ่นงาม รองผู้กำกับปราบปราม สภ.เมืองประจวบฯ เจ้าหน้าตำรวจสายตรวจ ชุดสืบสวน สภ.เมืองประจวบฯ ร.ต.โกวิทย์ สุขคำ ผบ.หมวดกองร้อยรักษาความสงบที่ 1 เขตอำเภอเมืองประจวบฯ นายสมบัติ ทองคำ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 11 พร้อมพยาบาลด้านจิตเวช รพ.ประจวบฯ และกำลังเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดนอำเภอเมืองประจวบฯ (อส.) เข้าระงับเหตุ

เหยื่อแข้งโหดให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบเป็นบ้านปูน 2 ชั้นหลังคามุงกระเบื้อง มีนายอาทิตย์ ปองรัก อายุ 39 ปี อาชีพเลี้ยงวัวนม เป็นเจ้าของบ้านพูดจาเอะอะโวยวาย เจ้าหน้าที่จึงเจรจาเกลี้ยกล่อมให้สงบสติอารมณ์ และยอมรับสารภาพว่า ขายวัวไปในราคา 2 หมื่นกว่าบาท และเสพยาบ้าไป 2 เม็ด จนฟุ้งซ่าน

ก่อนหน้านี้เคยผ่านการบำบัดยาเสพติดมาแล้วแต่เลิกไม่ได้ เจ้าหน้าที่จึงพาไปตรวจค้นในบ้าน พบแต่เพียงอุปกรณ์ในการเสพ และเงินที่เหลือจากการขายวัวแค่ 1 พันกว่าบาท โดยอ้างว่านำไปใช้หนี้สินหมดแล้ว

อุปกรณ์การเสพยาบ้า

ด้าน น้องจีน (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี อยู่บ้านเลขที่ 342/14 บ้านหนองพังพวย หมู่ 11 เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังทั้งน้ำตาว่า ถูกนายอาทิตย์ทำร้ายร่างกาย ก่อนเกิดเหตุตนนั่งอยู่หน้ากระจกในบ้านของตัวเองซึ่งอยู่ใกล้กับบ้านลุง

จากนั้นลุงเดินมาเตะตนเข้าที่ก้านคอ จนใบหูฉีกและมีบาดแผลบริเวณด้านหลังใบหู แล้วเตะเข้าที่ใบหน้าอีกครั้ง จนตนรู้สึกเจ็บและปวดศีรษะมาก จากนั้นก็บังคับต้อนให้ตนมาที่บ้านของลุงแล้วพยายามทำร้ายร่างกายอีกหลายครั้ง อาและญาติๆได้พยายามห้าม และแจ้งให้เจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือ

ส่วนสาเหตุ ลุงระแวงกล่าวหาอ้างว่าตนไปลักขโมยทองของลุงมาทั้งๆที่ไม่รู้เรื่อง ตนอยากให้เอาลุงไปบำบัดรักษาให้หาย เพราะรู้สึกกลัวและหวั่นไม่ปลอดภัยในวันอื่นๆ หากไม่มีผู้ใหญ่อยู่บ้านด้วย ก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีก

บาดแผลจากการถูกทำร้าย

เจ้าหน้าที่จึงพาน้องจีนเข้าไปเช็กอาการและรักษาตัวที่โรงพยาบาลประจวบฯ จากนั้นจึงควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไปสอบสวนเพิ่มเติมที่โรงพัก พร้อมส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองประจวบฯ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อ