คนร้ายบุกงัดตู้เอทีเอ็ม-รถไปต่อไม่ได้ ตัดสินใจเผาก่อนหนี คาดได้เงินไปไม่ต่ำกว่า 2 ล้าน

วันที่ 6 ก.ค. พ.ต.ท.เดชา รัตนภัทดี สว.(สอบสวน) สภ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้รถกระบะ ที่บริเวณถนนคันคลองชลประทาน ม.6 ต.ลำไทร อ.วังน้อย จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.เอกราช อุ่นเจริญ ผกก.สภ.วังน้อย พ.ต.ท.เชิงชาย พงษ์แขก รอง ผกก.สส.สภ.วังน้อย และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ้ง(จุดวังน้อย)

ที่เกิดเหตุพบเพลิงกำลังลุกไหม้ รถกระบะแคป มีโครงหลังคา มิตซูบิชิ ไทรตัน สีบรอนซ์ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน อย่างรุนแรง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจึงช่วยกันระดมฉีดน้ำประมาณ 20 นาทีเพลิงจึงสงบ เบื้องต้นรถยนต์ถูกเผาวอดเกือบทั้งคัน และไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต

ต่อมา พล.ต.ต.สมชาย พัชรอินโต รองผบช.ภ.1 พล.ต.ต อำนาจ จันเจริญ รองผบช.ภ.1 พล.ต.ต.สมหมาย ประสิทธิ์ ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ลงพื้นที่ตรวจจุดเกิดเหตุ บริเวณใกล้เคียงจุดรถยนต์ถูกเผา พบกล่องบรรจุธนบัตรจำนวน 4 กล่อง ของธนาคารถูกทิ้งอยู่ภายในคลองระบายน้ำระหว่างทางเข้าที่เกิดเหตุหลายแห่ง

เอทีเอ็ม เผารถ หนี

ตรวจสอบ

จากนั้นได้เดินทางไป จุดที่คนร้ายที่ใช้ก่อเหตุในการงัดตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงเทพและธนาคารไทยพาณิชย์ ที่หน้าร้านอาหารลุงนวย ม.2 ต.ลำไทร อ.วังน้อย อยู่ห่างกันประมาณ 5 กม. พบตู้เอทีเอ็ม ทั้ง 2 ตู้ ถูกคนร้ายงัดจากด้านหลังตู้ ได้รับความเสียหาย แต่ตู้ที่คนร้ายได้เงินไปเป็นตู้ของธนาคารกรุงเทพ

พล.ต.ต สมชาย กล่าวว่า จากการตรวจสอบจุดเกิดเหตุที่พบรถกระบะถูกเผา คาดว่า หลังจากคนร้ายก่อเหตุได้ขับมาในทางเปลี่ยวแล้วช่วยกันงัดเอาเงินสดในกล่องออกแล้วโยนกล่องทิ้ง คาดว่ารถอาจติดหล่ม ออกไปไม่ได้ คนร้ายจึงตัดสินใจเผารถทิ้งแล้วหลบนี้ไป ส่วนคนร้ายที่มาก่อเหตุงัดตู้เอทีเอ็มนั้น จากการสอบถามพยานที่เห็นเหตุการณ์ขณะคนร้ายมาก่อเหตุนั้น เป็นเวลา 02.30 น ของวันนี้ พยานได้มากดเงินที่ตู้เอทีเอ็มและเห็นคนร้ายจำนวน 2 คน

เอทีเอ็ม เผารถ หนี

เผารถอำพราง

พล.ต.ต สมชาย กล่าวต่อว่า คนร้ายคนแรกลักษณะผมฟู สวมเสื้อยืดสีดำนั่งที่เก้าอี้อยู่ตรงใกล้ตู้เอทีเอ็ม และคนร้ายอีกคนลักษณะหัวเกรียนยืนอยู่ท้ายรถกระบะที่นำมาก่อเหตุจอดหลังตู้เอทีเอ็ม จากนั้นคนร้ายที่นั่งเก้าอี้ได้ส่งเสียงแต่ฟังไม่ถนัดตนจึงไม่กล้ามากดตังค์จึงรีบเดินออกจากจุดดังกล่าวทันที จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงเทพว่าได้นำเงินจำนวน 2 ล้าน 4 แสน มาใส่ตู้ เมื่อวันที่ 5 ก.ค เวลาประมาณ 14.00 น. จากนั้นจึงมาถูกคนร้ายงัดตู้ขโมยเงินไป

เอทีเอ็ม เผารถ หนี

ตู้เอทีเอ็ม

รายงานจากฝ่ายสืบสวนระบุว่า คนร้ายที่ก่อเหตุนั้นมีลักษณะพฤติกรรมกลุ่มเดียวกันที่เคยก่อเหตุงัดตู้เอทีเอ็มในเขตพื้นที่ อ.หนองแค จ.สระบุรี และ จ.ลพบุรี มาก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่วัน และคาดว่าจะได้ตัวคนร้ายเร็วๆนี้อย่างแน่นอน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน