ร่ำไห้รับศพ แม่บ้านหอพัก เหยื่อหนุ่มคลั่ง ยิงดับ ก่อนฆ่าตัวตาม น้องสาวเผย สวด 3 คืน ก่อนฌาปนกิจ ขณะที่ศพมือปืนยังไม่มีญาติมาขอรับ หนุ่มวินจยย. เผยทั้งคู่มีเรื่องกันมาตลอด ทะเลาะกันแทบทุกเรื่อง หลังเกิดเหตุสลด ผู้เช่าทยอยขอย้ายจนหมด

จากกรณีนายปิยวัฒน์ เมษศิริฤกษ์ อายุ 56 ปี คลุ้มคลั่งใช้อาวุธปืนยิงน.ส.สิริพร โภชนดา อายุ 64 ปี แม่บ้าน เสียชีวิตภายในอาคารแบ่งเช่า เลขที่ 68/14 ซอยจรัญสนิทวงศ์ 34 แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กทม. ก่อนใช้ปืนยิงขมับตัวเองตาย ในห้องเช่าชั้น 3 เบื้องต้นคาดเกิดจากความเครียดเรื่องครอบครัว ที่เคยหย่าร้างกับอดีตภรรยามานาน หนำซ้ำยังเคยมีปัญหาบาดหมางกับทางคู่กรณีอยู่บ่อยครั้ง เหตุเกิดเมื่อ วันที่ 5 ก.ค. ที่ผ่านมาตามที่นำเสนอข่าวไปแล้ว

อ่านข่าว : ช็อกยิงหัวแม่บ้าน-แค้นท้วงค่าเช่า ระทึกขู่ตร.ห้ามเข้ามาเก็บศพ ใครเข้ามายิงสถานเดียว!

อ่านข่าว : ด่วน! อรินทราชปาระเบิดบุกจู่โจมจับ มือปืนฆ่าแม่บ้านหนีความผิด-ยิงตัวตายสยอง

ร่ำไห้รับศพ / ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 6 ก.ค. น.ส.สิริวรรณ โภชนดา อายุ 62 ปี น้องสาวของ น.ส.สิริพร ผู้ตายพร้อมญาติๆ เดินทางมาติดต่อขอรับศพ ที่ ภาควิชานิติเวชศาสตร์ รพ.ศิริราช ท่ามกลางบรรยากาศสุดโศกเศร้า ขณะที่ศพนายปิยวัฒน์ ผู้ก่อเหตุซึ่งก็ถูกส่งมาผ่าชันสูตรที่เดียวกัน ยังไม่มีญาติมาติดตาอขอรับศพ

น.ส.สิริวรรณ เผยว่า จะนำศพพี่สาวไปสวดพระอภิธรรมศพที่วัดรวกสุทธาราม ซอยจรัญสนิทวงศ์ 33 แขวงบางขุนศรี เขตบางกอกน้อย กทม. เป็นเวลา 3 คืน ก่อนจะทำพิธีฌาปนกิจศพ เนื่องจากญาติส่วนใหญ่อยู่ไกล แต่บรรดาคนรู้จักของผู้ตายมักจะอาศัยอยู่ละแวกนี้จึงตัดสินใจไว้วัดดังกล่าว

ส่วนความคืบหน้าของฝ่ายคู่กรณีนั้นยังไม่มีใครมาขอเจรจาเรื่องใดๆกับฝ่ายตน คาดว่าญาติพี่น้องทางฝ่ายคู่กรณี ก็ยังไม่ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน

ขณะที่นายธวัชชัย สาธร อายุ 44 ปี ช่างประจำหอพักที่เดินทางมารับศพด้วย เปิดเผยว่า ตนสนิทสนมกับผู้ตายทั้ง 2 คน คู่นี้เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตลอด ถกเถียงทะเลาะเบาะแว้งกันแทบทุกเรื่องในหอพัก ทั้งเรื่องขับขี่รถจยย.เข้าออกหอพัก ส่งเสียงดัง วางข้าวของระเกะระกะหน้าห้องพัก

แม้กระทั่งเรื่องที่นายปิยวัฒน์ ล้างจานชามในอ่างล้างหน้า ทำให้ท่อน้ำอุดตัน ก็ถูกน.ส.สิริพรตักเตือน ก่อนหน้านี้ น.ส.สิริพร เคยเล่าให้ฟังว่าถูกนายปิยวัฒน์ ชักปืนออกมาขู่ครั้งหนึ่งแต่ไม่กล้ายิง แต่ไม่ได้ไปแจ้งความกับตำรวจ ตนไม่คิดว่าในที่สุดเรื่องจะบานปลายจนทั้งคู่ต้องจบชีวิตลงที่หอพักแห่งนี้

นายธวัชชัย เปิดเผยต่อว่า นายปิยวัฒน์ ว่าเคยเป็นอดีตตำรวจแต่ลาออกจากราชการมาแล้วจึงปักใจเชื่อมาตั้งแต่นั้น ส่วนสาเหตุที่ต้องใช้ชีวิตลำพังเพราะพ่อแม่ถูกฆ่าตายตั้งแต่ตัวเองยังเด็ก พอมีภรรยาก็ต้องเลิกราตั้งแต่ลูกชายคนโตมีอายุได้เพียง 3 ขวบ ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน

มีแต่ที่ดินมรดก จำนวน 2 ผืน ของพ่อกับแม่ ที่ จ.ชลบุรี ซึ่งขายได้เงินรวมกันกว่า 2.8 ล้านบาท นำเงินมาเลี้ยงชีพอยู่ได้ทุกวันนี้

“หลังเกิดเหตุ ผู้เช่าที่ยังหลงเหลืออีกเพียง 1 ห้อง ได้แจ้งความประสงค์จะย้ายออกในช่วงสิ้นเดือนนี้แล้ว ต่อไปเจ้าของหอพักก็น่าจะปิดตาย คงไม่เปิดให้ใครมาเช่าพักต่อไปอีก” นายธวัชชัยกล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน