เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 7 ธ.ค. นายบุญส่ง ขาวศิริ นายกเทศมนตรี เทศบาลทุ่งตะไคร อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร รับแจ้งจากนางรัตนา วันทา อายุ 60 ปี อดีตครูโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 3 อ.ทุ่งตะโก อยู่บ้านเลขที่ 18/3 หมู่ที่ 5 ต.ทุ่งตะไคร อ.ทุ่งตะโก ว่าภูเขาเปลียวถล่ม ลงมาทับบ้านของตนเองที่ทำเป็นห้องเช่า จำนวน 6 ห้อง ที่ปลูกอยู่ที่เชิงภูเขาดังกล่าว ทำให้ห้องเช่าทั้งหมดได้รับความเสียหายอย่างหนักไม่สามารถอยู่อาศัยได้ อีกทั้งยังมีดินไหลลงมาตลอดเวลา
นางรัตนา กล่าวว่า ขณะเกิดเหตุเป็นช่วงเวลาประมาณ 14.00 น. ขณะที่ตนกำลังเดินอยู่รอบๆ บ้านเช่า พร้อมกับกลัวว่าภูเขาดังกล่าวจะถล่มลงมา เพราะตลอดระยะเวลา 5 วันที่ผ่านมา มีฝนตกหนัก และทราบว่ามีผู้บุกรุกขึ้นไปตัดไม้ทำลายป่า ปลูกยางพาราบนภูเขามานาน จนป่าไม้บนภูเขาราบกลายเป็นสวนยางพาราไปทั้งหมด ซึ่งเหตุการณ์ก็เป็นไปอย่างที่คาดไว้ เมื่อได้ยินเสียงดังสนั่นหวั่นไหว มองขึ้นไปเห็นต้นไม้และดินกำลังไหลถล่มลงมา จึงรีบวิ่งเข้าไปที่ห้องเช่าที่ 6 ที่มีเด็กหญิงอายุ 5 ขวบ กับเด็กหญิงอายุ 6 พร้อมด้วยพ่อแม่ และยายอายุ 55 ปี อาศัยอยู่ ให้รีบหนีออกเอาชีวิตรอดมา
ส่วนห้องเช่าอื่นๆ แจ้งให้ย้ายออกไปทั้งหมด คงเหลือแต่ห้องที่ 6 ที่ไม่ยอมย้ายออกไป ภูเขาถล่มลงมานาน 5 นาที แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่ห้องเช่าทั้ง 6 ห้องของนางรัตนา เสียหายทั้งหมด ไม่สามารถอยู่อาศัยได้อีก จึงประกาศปิดห้องเช่าทั้งหมดทันที ส่วนความเสียหายทั้งหมดคาดว่าหลายแสนบาท
“โชคดีที่คอยระมัดระวังตลอดเวลา และเกิดเหตุการณ์ในช่วงกลางวัน จึงเสียหายเพียงทรัพย์สินเท่านั้น ที่ดินแปลงดังกล่าวดิฉันอาศัยมาตั้งแต่ ปี 2529 มีเอกสารถูกต้อง ก่อนหน้านี้ภูเขาเปลวเป็นภูเขาที่สวยงาม มีสัตว์ป่านานาชนิดอาศัยอยู่ มีต้นไม้จำนวนมาก จึงสร้างห้องเช่าไว้ที่เชิงเขา เพราะที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวมา ไม่เคยเห็นเหตุการณ์แบบนี้ จนมีผู้บุกรุกตัดไม้ทำลายป่า ถึงแม้จะแจ้งจนท.ป่าไม้ มาจับกุม แต่ก็ยังมีการแอบบุกรุกมาโดยตลอด จนภูเขาเปลวพังยับเยินและเกิดเหตุการณ์ในครั้งนี้ขึ้น ส่วนสาเหตุการถล่มของภูเขาในครั้งนี้ คาดว่าเกิดจากป่าไม้หมดจากภูเขา ทำให้ดินที่อุ้มน้ำฝนมานานถึง จนอุ้มน้ำไม่ไหวจนพังถล่มในที่สุด” นางรัตนา กล่าว
